การศึกษาความเร็วของการเคลื่อนไหวตาและเวลาปฏิกิริยาตอบสนองแบบมีตัวเลือกของมือข้างที่ถนัดกับความสามารถในการตีเทนนิสลูกวอลเลย์
Main Article Content
Abstract
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างเวลาความเร็วของการเคลื่อนไหวตาและเวลาปฏิกิริยาตอบสนองแบบมีตัวเลือกของมือข้างที่ถนัดกับความสามารถในการตีลูกวอลเลย์ และศึกษาหาความแตกต่างของเวลาความเร็วของการเคลื่อนไหวตาและเวลาปฏิกิริยาตอบสนองแบบมีตัวเลือกของมือข้างที่ถนัดกับความสามารถในการตีลูกวอลเลย์ ระหว่างกลุ่มนักเทนนิสที่มีรูปแบบการเล่นต่างกัน กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเทนนิสที่มีประสบการณ์ในการแข่งขันไม่น้อยกว่า 2 ปี จำนวน 60 คน อายุระหว่าง 14-30 ปี แบ่งเป็นกลุ่มที่มีรูปแบบการเล่นเสิร์ฟแล้วตามขึ้นวอลเลย์ และแบบท้ายสนามกลุ่มละ 30 คน วัดเวลาความเร็วของการเคลื่อนไหวตาและเวลาปฏิกิริยาตอบสนองแบบมีตัวเลือกโดยเลือกเครื่องมือที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น มีค่าความเชื่อมั่นของเครื่องมือเท่ากับ .78 และวัดความสามารถในการตีลูกวอลเลย์ โดยแบบทดสอบมาตรฐานของไดร์เยอร์ หาความสัมพันธ์ระหว่างเวลาความเร็วของการเคลื่อนไหวตาและเวลาปฏิกิริยาตอบสนองแบบมีตัวเลือกของมือข้างที่ถนัดกับความสามารถในการตีลูกวอลเลย์ โดยการหาค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน และหาค่าความแตกต่างคะแนนเฉลี่ยความสามารถในการตีลูกวอลเลย์ของกลุ่มตัวอย่างสองกลุ่มที่มีรูปแบบการเล่นต่างกัน
ผลการวิจัยพบว่า ความเร็วของการเคลื่อนไหวตาและเวลาปฏิกิริยาตอบสนองแบบมีตัวเลือกของมือข้างที่ถนัดกับความสามารถในการตีลูกวอลเลย์มีความสัมพันธ์กันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 (r = -.460) เวลาเฉลี่ย ความเร็วของการเคลื่อนไหวตาและเวลาปฏิกิริยาตอบสนองแบบมีตัวเลือกของมือข้างที่ถนัดของกลุ่มนักเทนนิสที่มีรูปแบบการเล่นเสิร์ฟแล้วตามขึ้นวอลเลย์ และกลุ่มนักเทนนิสที่มีรูปแบบการเล่นท้ายสนาม มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < .05) โดยมีเวลาเฉลี่ยเท่ากับ .48 มิลลิวินาที และ .57 มิลลิวินาที ตามลำดับ ในส่วนของคะแนนเฉลี่ยความสามารถในการตีเทนนิสลูกวอลเลย์ กลุ่มนักเทนนิสที่มีรูปแบบการเล่นเสิร์ฟแล้วตามขึ้นวอลเลย์ และกลุ่มนักเทนนิสที่มีรูปแบบการเล่นท้ายสนาม มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < .05) โดยนักเทนนิสที่มีรูปแบบการเล่นเสิร์ฟแล้วตามขึ้นวอลเลย์ มีคะแนนเฉลี่ยความสามารถในการตีเทนนิสลูกวอลเลย์เท่ากับ 42 ครั้ง และนักเทนนิสที่มีรูปแบบการเล่นท้ายสนาม มีคะแนนเฉลี่ยความสามารถในการตีเทนนิสลูกวอลเลย์เท่ากับ 32 ครั้ง