การสอบสวนผลกระทบต่อสุขภาพจากการสัมผัสสารเบนซิลคลอไรด์ในอากาศ กรณีแบตเตอรี่เครื่องสำรองไฟฟ้าระเบิดในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง

ผู้แต่ง

  • กมลวรรณ สมณะ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 4 จังหวัดสระบุรี กรมควบคุมโรค
  • อาพัฒศิริ ธรรมรังกา สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 4 จังหวัดสระบุรี กรมควบคุมโรค
  • ณรงค์เดช พิมพรรณ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 4 จังหวัดสระบุรี กรมควบคุมโรค
  • ภูริดา อินทะสร้อย สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 4 จังหวัดสระบุรี กรมควบคุมโรค
  • วิชุดา ลือจันทร์ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 4 จังหวัดสระบุรี กรมควบคุมโรค
  • สุเทพ พลอยพลายแก้ว สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลพบุรี
  • พีรวัฒน์ ตระกูลทวีสุข โรงพยาบาลพระนารายณ์มหาราช
  • นรีรัตน์ ศรีเลนวัติ โรงพยาบาลอานันทมหิดล
  • ธีระวัฒน์ ญาณศิริ โรงพยาบาลอานันทมหิดล
  • อริสรา โง่นสูงเนิน โรงพยาบาลอานันทมหิดล
  • อารุญ เกตุสาคร คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

DOI:

https://doi.org/10.14456/dcj.2025.45

คำสำคัญ:

เบนซิลคลอไรด์, โรงพยาบาล, ระเบิด, เครื่องสำรองไฟฟ้า

บทคัดย่อ

สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 4 จังหวัดสระบุรี (สคร.4) ได้รับการประสานงานจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลพบุรี (สสจ.ลพบุรี) กรณีเหตุระเบิดของแบตเตอรี่เครื่องสำรองไฟฟ้า วันที่ 28 ธันวาคม 2567 ณ โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง หลังเหตุการณ์สงบ ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่มีความกังวลผลกระทบทางสุขภาพเนื่องจากมีกลิ่นสารเคมีในพื้นที่ สคร.4 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมดำเนินการสอบสวนในพื้นที่ วันที่ 6, 13, 15, 16 มกราคม 2568 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อยืนยันการวินิจฉัย อธิบายลักษณะเหตุการณ์ สำรวจสภาพแวดล้อมที่อาจก่อให้เกิดอันตราย และเสนอมาตรการป้องกันสุขภาพจากสารเคมี โดยทำการศึกษาระบาดวิทยาเชิงพรรณนา สัมภาษณ์ผู้เกี่ยวข้อง และตรวจวัดไอระเหยสารเคมี วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา จากการสอบสวน พบผู้สัมผัสสารเคมีทั้งหมด 129 ราย ส่วนใหญ่มีอาการระคายเคืองทางเดินหายใจ 79 ราย รองลงมาคือ ไม่มีอาการ และแสบตา น้ำตาไหล จำนวน 48 ราย และ 36 ราย ตามลำดับ ผลการเฝ้าระวังสุขภาพกลุ่มเสี่ยงสูง 55 ราย ได้แก่ ตรวจระดับตะกั่วในเลือด ความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด ปริมาณไนโตรเจนในเลือด ค่าเลือดที่บ่งบอกการทำงานของไต และประเมินความเครียด พบว่า กลุ่มเสี่ยงสูงมีผลตรวจปกติทุกราย ผลตรวจวัดไอระเหยสารเคมี พบค่าเฉลี่ยสารเบนซิลคลอไรด์ตรวจวัด 4 ครั้ง ดังนี้ 3.61 ส่วนในล้านส่วน (ppm) 2.70 ppm 3.22 ppm และ 1.21 ppm (ค่ามาตรฐานเฉลี่ยตลอดระยะเวลาการทำงานไม่เกิน 1 ppm) สันนิษฐานแหล่งกำเนิดของเบนซิลคลอไรด์มาจากไอระเหยของการเผาไหม้ฉนวนสายไฟจำนวนมากในจุดเกิดเหตุ ซึ่งมีส่วนประกอบของโพลีไวนิลคลอไรด์ จากนั้นเกิดการฟุ้งกระจายไปในพื้นที่ต่าง ๆ ประกอบกับมวลโมเลกุลของเบนซิลคลอไรด์ซึ่งหนักกว่าอากาศ เมื่อดำเนินการดูดอากาศออกนอกห้อง ห้องดังกล่าวจะมีสภาพเป็นลบ หากไม่ได้เติมอากาศสะอาดเข้าไปแทนที่ จะทำให้สารดังกล่าววนกลับเข้ามาที่เดิม จึงทำให้หลังการดูดอากาศออกจากบางห้องแล้ว เมื่อกลับมาตรวจวัดสารดังกล่าว จึงยังพบการตกค้างในปริมาณที่เพิ่มสูงขึ้น และค่าครึ่งชีวิตของเบนซิลคลอไรด์ในอากาศมีค่าเท่ากับ 4 วัน แต่ในการตรวจวัดครั้งที่ 4 ไอระเหยของสารเบนซิลคลอไรด์มีค่าลดลงจากเดิมในทุกพื้นที่คาดว่ามาจากการดำเนินการปรับปรุงข้างต้น ดังนั้นมาตรการป้องกันควรเน้นย้ำเรื่องการศึกษาข้อมูลของสารเคมีก่อนทำการจัดการระบายอากาศ การให้ความรู้ และการเตรียมอุปกรณ์ในการป้องกันตนเองแก่ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่

Downloads

Download data is not yet available.

เอกสารอ้างอิง

Department of Diesease Control (TH), Division of Occupational and Environmental Diseases. Chemical accident situation 2025 [Internet]. [cited 2025 Apr 20]. Available from: https://lookerstudio.google.com/reporting/b63cd1a8-d48f-4582-ac5c-c95ae2e321b5/page/eEs4C (in Thai)

International Agency for Research on Cancer. Agents classified by the IARC Monographs 2018 [Internet]. [cited 2025 Apr 20]. Available from: https://monographs.iarc.who.int-wp-content/uploads/2018/09/ClassificationsAlphaOrder.pdf

Center of Excellence on Hazardous Substance Management. Benzyl chloride 2003 [Internet]. [cited 2025 Apr 20]. Available from: https://www.chemtrack.org/chem-detail.asp?ID=02210#

United States Environmental Protection Agency. Benzyl chloride 2000 [Internet]. [cited 2025 Apr 20]. Available from: https://www.epa.gov/sites/default/files/2016-09/documents/benzyl-chloride.pdf

Department of Diesease Control (TH), Division of Occupational and Environmental Diseases. Chemical accident investigation form 2025 [Internet]. [cited 2025 Apr 20]. Available from: https://ddc.moph.go.th/doed/pagecontent.php?page=1954&dept=doed (in Thai)

Rittfeldt L, Ahlberg MS, Zingmark PA, Santesson J. Occupational exposure to benzyl chloride and benzyl chloride due to contaminated butyl benzyl phthalate. Scand J Work Environ Health. 1983;9(4):367-8.

Songtalae S, Jirapongsuwan A. The role of public health nurses for preventing chemical health hazards among firefighters. Regional Health Promotion Center 9 Journal. 2021;15(37):312-24.

Maria F. Cuenca-Lozano, Cesar O. Ramirez -Garcia. Occupational Hazards in Firefighting: Systematic Literature Review. Safety and Health at Work. 2023;14:1-9.

Encyclopaedia of Occupational Health & Safety. Firefighting Hazrds 2011 [Internet]. [cited 2025 Apr 20]. Available from: https://iloencyclopaedia.org/part-xvii-65263/emergency-and-security-services/item/710-firefighting-hazards

Soonthornchaikul N, Watchalayann P, Mongkolsomrit S. Health Risk Assessment for Public Health Officials. Nonthaburi: Department of Diesease Control; 2009. (in Thai)

Duangsutha P. A Management of Facility Recovery After Fire Incident in Hospital: A Case Study of Bhumisiri Mangkhalanusorn Building, King Chulalongkorn Memorial Hospital. Bangkok: Chulalongkorn University; 2019. (in Thai)

Environment Canada Health Canada. Screening Assessment for the Challenge Benzene 2009 [Internet]. [cited 2025 Jan 17]. Available from: https://www.canada.ca/content/dam/eccc/migration/ese-ees/ef864a36-8b04-420a-a948-92feb00327a5/batch6_100-44-7_en.pdf

GRACO. Material Safety Data Sheet MSD074 2022 [Internet]. [cited 2025 Jan 17]. Available from: https://www.graco.com/content/dam/graco/tech_documents/msds/MSD074/MSD074EN-B.pdf

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

26-09-2025

รูปแบบการอ้างอิง

1.
สมณะ ก, ธรรมรังกา อ, พิมพรรณ ณ, อินทะสร้อย ภ, ลือจันทร์ ว, พลอยพลายแก้ว ส, ตระกูลทวีสุข พ, ศรีเลนวัติ น, ญาณศิริ ธ, โง่นสูงเนิน อ, เกตุสาคร อ. การสอบสวนผลกระทบต่อสุขภาพจากการสัมผัสสารเบนซิลคลอไรด์ในอากาศ กรณีแบตเตอรี่เครื่องสำรองไฟฟ้าระเบิดในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง. Dis Control J [อินเทอร์เน็ต]. 26 กันยายน 2025 [อ้างถึง 28 ธันวาคม 2025];51(3):581-93. available at: https://he01.tci-thaijo.org/index.php/DCJ/article/view/279220

ฉบับ

ประเภทบทความ

การสอบสวนโรค