โปรแกรมต้นแบบระบบข้อมูลและติดตามผลการส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ สนับสนุนงานเฝ้าระวังและทีมสอบสวนโรค สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 นครราชสีมา ปี 2563
DOI:
https://doi.org/10.14456/dcj.2023.35คำสำคัญ:
ระบบข้อมูล, การติดตามผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ, งานเฝ้าระวังและสอบสวนโรคบทคัดย่อ
สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 นครราชสีมา มีภารกิจสนับสนุนการส่งตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการเพื่อยืนยันเชื้อหรือสาเหตุของโรคและภัยสุขภาพให้กับหน่วยงานเครือข่ายในเขตสุขภาพที่ 9 จากการดำเนินงาน ที่ผ่านมาเก็บข้อมูลในระบบแฟ้มกระดาษ ทำให้มีปัญหาการสืบค้นข้อมูลย้อนหลัง ทั้งการตรวจสอบรายการส่งตรวจ ผลการตรวจ และการจ่ายเงินค่าตรวจ จึงได้สร้างเว็บแอปพลิเคชันขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้บันทึกรายการข้อมูลการส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ รวมถึงข้อมูลด้านการเงิน การศึกษาใช้รูปแบบการวิจัยและพัฒนาตามกระบวนการคิดเชิงออกแบบ 5 ขั้นตอน โดยระยะวิจัย 4 ขั้นตอน ได้แก่ 1) ทำความเข้าใจกลุ่มเป้าหมาย 2) ระบุประเด็นปัญหา 3) ระดมความคิด และ 4) สร้างต้นแบบ ส่วนระยะพัฒนา ได้แก่ ขั้นตอนที่ 5) ทดสอบการใช้งานและปรับปรุงโปรแกรม ประเมินการใช้ประโยชน์ ประสิทธิภาพ และประสิทธิผล จากการติดตามการใช้งานของกลุ่มตัวอย่าง รายสัปดาห์ และประเมินความพึงพอใจแบบกลุ่มเดิมวัดก่อนและหลังการปรับปรุงตัวโปรแกรม จำนวน 2 รอบ ด้วยแบบประเมินของกองนวัตกรรมและวิจัย กรมควบคุมโรค กลุ่มตัวอย่างเลือกแบบเจาะจงจากผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับการใช้โปรแกรม จำนวน 40 คน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา จำนวน ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าเฉลี่ยด้วย Dependent t-test ผลการใช้งานในปี 2563 พบว่า มีการเข้าใช้งาน เพื่อสนับสนุนการเฝ้าระวังและสอบสวนโรค จำนวน 232 ครั้ง โดยใช้ค้นหาข้อมูลการจ่ายค่าตรวจทางห้องปฏิบัติการมากที่สุด ร้อยละ 25.4 รองลงมาใช้ค้นหาข้อมูลชนิดเชื้อก่อโรคเพื่อสนับสนุนหน่วยงานเครือข่าย ร้อยละ 24.6 และใช้เพื่อค้นหาข้อมูลประกอบการจัดทำรายงานเร่งด่วนเสนอผู้บริหาร ร้อยละ 23.3 ด้านประสิทธิภาพและประสิทธิผลสามารถตรวจสอบการเรียกเก็บค่าบริการตรวจซ้ำซ้อนได้ จำนวน 1 ครั้ง และตรวจสอบการลืมเรียกเก็บค่าตรวจ จำนวน 1 ครั้ง ลดระยะเวลาในการค้นข้อมูลผลการตรวจวิเคราะห์จาก 15-20 นาที เหลือประมาณ 3-5 นาทีต่อครั้ง การตรวจสอบข้อมูลการจ่ายค่าตรวจ จากเดิมใช้เวลาประมาณ 10 วัน เหลือประมาณ 5-10 นาทีต่อครั้ง ค่าเฉลี่ยของความพึงพอใจภาพรวม เพิ่มขึ้นจาก 3.38 เป็น 3.65 คะแนน อยู่ในระดับมากที่สุด แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับนัยสำคัญ 0.05 ดังนั้น ควรพัฒนาต่อยอดให้หน่วยงานเครือข่ายเขตสุขภาพที่ 9 ที่เกี่ยวข้องมีส่วนร่วมพัฒนาและใช้ประโยชน์ร่วมกันต่อไป
Downloads
เอกสารอ้างอิง
Plattner H. An introduction to design thinking process guide [Internet]. 2021 [cited 2021 Mar 5]. Available from: https://web.stanford.edu/~mshanks/ MichaelShanks/files/509554.pdf
Department of Disease Control (TH), Division of Innovation and Research. Success level of Innovations that the agency creates and takes advantage fiscal year 2021 [Internet]. 2021 [cited 2020 Dec 1]. Available from: https://ddc.moph.go.th/psdg/pagecontent.php?page =262& dept=psdg (in Thai)
Kajornsil B. Analysis and interpretation of research data using SPSS for Window version 10-12. 2nd printing. S.P.N. company. Bangkok. 2015. (in Thai)
Taertulakarn S, Komen S. Information system for development a medical laboratory instrumental administration [Internet]. 2007 [cited 2021 Mar 2]. Available from: https://digital.library.tu.ac.th/tu_dc/frontend/Info/item/dc:87181 (in Thai)
Laosombutthawee P, Polkang B, Bunchoo O. Effectiveness the Project Tracking System. Chaiyaphum Provincial Health Office. The office of Disease prevention and control region 9 Nakornratchasima. 2022;23(3):33-43. (in Thai)
Kidjawan N. Design Thinking Process: New Perspective in Thai Healthcare System. Thai Journal of Nursing Council. 2018;33(1):5-14. (in Thai)
Supupakarn S. Learn more about Management Information Systems (MIS) [Internet]. 2018 [cited 2022 Apr 13]. Available from: https://www.scimath.org/article-technology/item/ 10477-mis (in Thai)
Simplilearn. The 6 most of popular type of information systems in their application [Internet]. 2022 [cited 2022 Apr 13]. Available from: https://www.simplilearn.com/types-of-information-systems-and-applications-article
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2023 วารสารควบคุมโรค

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ลงพิมพ์ในวารสารควบคุมโรค ถือว่าเป็นผลงานทางวิชาการหรือการวิจัย และวิเคราะห์ตลอดจนเป็นความเห็นส่วนตัวของผู้เขียน ไม่ใช่ความเห็นของกรมควบคุมโรค ประเทศไทย หรือกองบรรณาธิการแต่ประการใด ผู้เขียนจำต้องรับผิดชอบต่อบทความของตน


