ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการเกิดโรคซิลิโคสิสของคนงานโรงโม่หินในจังหวัดชลบุรี

บทคัดย่อ

การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการเกิดโรคซิลิโคสิสของคนงานโรงโม่หิน ในจังหวัดชลบุรี โดยใช้ข้อมูลจากผลการตรวจสุขภาพของคนงานที่ตรวจสุขภาพกับโรงพยาบาลชลบุรี ในปี 2563 จำนวน 957 คน ศึกษาวิจัยเชิงพรรณนาแบบภาคตัดขวาง (Cross-sectional descriptive study) ใช้การวิเคราะห์ถดถอยลอจิสติกพหุคูณ (multiple logistic regression) ผลการศึกษาพบว่า คนงานมีภาวะน้ำหนักเกิน เป็นโรคอ้วนระดับ 1 และ 2 ร้อยละ 16.9, 36.9, 20.1 ตามลำดับ เป็นโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และไขมันในเลือดสูง ร้อยละ 6.1, 16.1, 4.2 ตามลำดับ และสูบบุหรี่ ร้อยละ 31.3 ความชุกของโรคซิลิโคสิสเท่ากับร้อยละ 32.9 คนงานที่เป็นโรคซิลิโคสิสมีสมรรถภาพปอดผิดปกติแบบอุดกั้นและแบบผสมเป็นสัดส่วนสูงกว่าคนงานที่ไม่ได้เป็นโรคซิลิโคสิส มีการใช้หน้ากากชนิด N95 ร้อยละ 18.3 ใส่หน้ากากตลอดระยะเวลาที่สัมผัสฝุ่นร้อยละ 55.9 ปัจจัย ที่มีอิทธิพลต่อการเกิดโรคซิลิโคสิส ได้แก่ อายุ โดยพบว่าอายุที่เพิ่มขึ้น 1 ปี เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคซิลิโคสิส 1.12 เท่า (95% CI=1.09-1.15) อายุการทำงานที่เพิ่มขึ้น 1 ปี เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคซิลิโคสิส 1.06 เท่า (95% CI=1.04-1.09) การทำงานในแผนกปากโม่และฝ่ายผลิต มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคซิลิโคสิสมากกว่าแผนกสำนักงาน 4.41 และ 2.38 เท่า (95% CI=3.31-15.22, 1.23-4.81) ตามลำดับ การใช้หน้ากากชนิด N95 ช่วยลดโอกาสการเป็นโรคซิลิโคสิสร้อยละ 14.8 (95% CI=0.79-0.94) หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรมีมาตรการในการคัดกรองและสร้างเสริมสุขภาพในสถานประกอบการเกี่ยวกับโรคไม่ติดต่อเรื้อรังและจัดโครงการเลิกบุหรี่ ให้ความรู้และสร้างความตระหนักในการใช้หน้ากากป้องกัน สถานประกอบการควรจัดหน้ากากชนิด N95 หรือหน้ากากที่ได้มาตรฐานให้กับพนักงานและให้ความสำคัญในการเฝ้าระวังและป้องกันโรคซิลิโคสิส โดยเฉพาะในแผนกที่มีความเสี่ยงสูง เช่น แผนกปากโม่ ฝ่ายผลิต เป็นต้น