The การพัฒนารูปแบบที่พึงประสงค์ของระบบป้องกันและควบคุมโรคเขตเมืองของประเทศไทย

ผู้แต่ง

  • Porntip Siripanumas กองแผนงาน กรมควบคุมโรค
  • Punlawat Phumruang กองแผนงาน กรมควบคุมโรค
  • Maichurat Thueansukhon กองแผนงาน กรมควบคุมโรค
  • Boontanakorn Prompukde สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 จังหวัดขอนแก่น
  • Ariya Bunngamchairat Faculty of Public Health, Mahidol University

DOI:

https://doi.org/10.14456/dcj.2019.27

คำสำคัญ:

การป้องกันและควบคุมโรคในเขตเมือง, ระบบป้องกันและควบคุมโรคในเขตเมือง

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์ความคิดเห็นของประชาชนและผู้บริหาร ต่อระบบป้องกันควบคุมโรคเขตเมืองของประเทศไทย และพัฒนารูปแบบที่พึงประสงค์ของระบบป้องกันควบคุมโรคเขตเมืองของประเทศไทย เป็นการวิจัยเชิงผสมผสานข้อมูลเชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่าง 1,639 คน และข้อมูลเชิงคุณภาพ กลุ่มเป้าหมาย 25 คน เครื่องมือที่ใช้คือ แบบสอบถามความคิดเห็นของประชาชนต่อระบบป้องกันโรคเขตเมือง และประเด็นสัมภาษณ์เชิงลึกเกี่ยวกับปัจจัยที่ส่งผลต่อความสำเร็จของระบบป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง สรุปผล ดังนี้ ประชาชนที่ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง ร้อยละ 60.89 อายุระหว่าง 21-30 ปี ร้อยละ 35.75 จบระดับปริญญาตรี ร้อยละ 55.28 เป็นนักเรียน/นักศึกษา ร้อยละ 25.44 และพนักงานภาคเอกชน ร้อยละ 25.38 อาศัยอยู่ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ร้อยละ 40.45 ระยะเวลาที่อาศัยในเขตเมืองมากกว่า 20 ปี ร้อยละ 32.28  โดยมีความเห็นและความคาดหวังต่อระบบป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง ซี่งส่วนใหญ่เห็นว่า เมืองใหญ่มีโรคและภัยสุขภาพที่เป็นปัญหาคือ โรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม โรคติดต่อและโรคไม่ติดต่อ ตามลำดับ  มีการรับรู้ว่า หน่วยงานที่รับผิดชอบการป้องกันควบคุมโรคในเมืองใหญ่คือ กระทรวงสาธารณสุข โดยมีช่องทางการรับรู้จาก social media ได้แก่ Facebook, Line, Twitter, IG และ mobile application ร้อยละ 39.93 ข้อมูลที่ได้มีความน่าเชื่อถือ ร้อยละ 68.52 หลังทราบข้อมูลมีการหาวิธีการป้องกันตัวเองและครอบครัว ร้อยละ 48.32 หาข้อมูลเพิ่มเติม ร้อยละ 25.87 จาก Google หากมีอาการผิดปกติเกิดขึ้นกับร่างกายและสุขภาพตนเอง เช่น ปวดหัว ปวดตา ตาพร่า เจ็บหน้าอก ปวดท้อง ปวดเมื่อย มีผื่นขึ้น มากกว่า 1 วัน จะไปหาหมอที่คลินิกหรือโรงพยาบาล ร้อยละ 49.68 โดยร้อยละ 80.66 ต้องการให้หมอที่คลินิกหรือโรงพยาบาล สนับสนุนหรือดำเนินการป้องกันควบคุมโรคในเขตเมือง รวมทั้งจัดบริการให้ครอบคลุมมากขึ้น ร้อยละ 30.81 ผลการสัมภาษณ์เชิงลึกส่วนใหญ่เห็นโอกาสของการพัฒนาระบบป้องกันควบคุมโรคเขตเมืองคือ มีนโยบายและกฎหมายสำคัญ ได้แก่ ระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับพื้นที่ พ.ศ. 2561 พระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 กฎหมายการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นที่มีความเข้มแข็ง มีความเจริญทางเศรษฐกิจ เป็นสังคมผสมระหว่างเมืองกับชนบท มีระบบเทคโนโลยีทันสมัย และครอบคลุมพื้นที่เขตเมือง ประชาชนมีโอกาสเข้าถึงสถานบริการง่ายขึ้น กลุ่มวัยทำงานมีค่านิยมการดูแลสุขภาพมากขึ้น มีระบบการป้องกันควบคุมโรคและ SRRT ที่เข้มแข็ง มีเครือข่ายดำเนินงาน มีระบบฐานข้อมูลสารสนเทศด้านสุขภาพของประชาชน มีช่องทางการรับส่งข้อมูลระหว่างหน่วยงานภาครัฐ หรือหน่วยงานภาครัฐกับประชาชน ซึ่งสามารถใช้ความได้เปรียบของการมีข้อมูลสารสนเทศจากระบบข้อมูล (Big Data) ที่มีความพร้อมในการพัฒนาใช้ประโยชน์ได้มากกว่าส่วนภูมิภาค นอกจากนี้มีการส่งเสริมให้ประชาชนมีความรอบรู้ด้านสุขภาพมากขึ้น ให้บุคลากรมีความรู้ ประสบการณ์และความสามารถในงานที่รับผิดชอบ แต่มีจุดอ่อนคือ การบังคับใช้กฎหมายขาดความจริงจังต่อเนื่อง กลไกประสานงานและติดตามอย่างเป็นระบบ ระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ท้องถิ่น เอกชน และมหาวิทยาลัยยังไม่ชัดเจน ประชากรแฝงมีจำนวนมาก เข้าถึงยาก และยากต่อการบริหารจัดการด้านสุขภาพ ระบบควบคุมโรคแบบเดิมไม่สอดคล้องกับบริบทของประชาชน          ในเขตเมือง ขาดการเชื่อมโยงระบบข้อมูลสารสนเทศระหว่างหน่วยงานที่ดูแลด้านสุขภาพของประชาชน การสื่อสารระหว่างเครือข่ายไม่ทั่วถึง วิถีชีวิตของคนที่เปลี่ยนไป ส่งผลให้การตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลด้านสถานการณ์โรคและภัยสุขภาพก่อนถูกนำเสนอควบคุมได้ยาก ขาดช่องทางการสื่อสารความเสี่ยงด้านสุขภาพที่เหมาะสมต่อกลุ่มแรงงานต่างด้าว ประชาชนในพื้นที่เขตเมืองมีพฤติกรรมด้านสุขภาพที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคไม่ติดต่อมากขึ้น ขาดการวางผังเมืองและสภาพแสดล้อมที่เหมาะสม ความแออัดของประชากรส่งผลต่อสภาพปัญหาด้านต่าง ๆ เช่น น้ำเสีย ขยะ ฝุ่น ควัน มลพิษ การจราจร      ผลการศึกษาเสนอรูปแบบที่พึงประสงค์ของระบบป้องกันและควบคุมโรคเขตเมืองของประเทศไทย เพื่อให้ประชาชนและชุมชนในเขตเมืองสามารถป้องกันควบคุมโรคและภัยสุขภาพทันสถานการณ์ แนวโน้มปัญหาโรคและภัยสุขภาพ สอดคล้องกับเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทยและโลก ด้วยความร่วมมือระหว่างเครือข่ายผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภาครัฐ ท้องถิ่น เอกชน และสถาบันการศึกษา มีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศผ่านช่องทางการสื่อสารที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย โดยใช้นโยบายและกฎหมายเป็นกลไกการขับเคลื่อนเชิงรุก ดังนี้ (1) กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมควบคุมโรคเป็นกลไกหลัก สร้างการมีส่วนร่วม กำหนดเป้าหมาย (goal) ยุทธศาสตร์ (strategy) แผนปฏิบัติการป้องกันและควบคุมโรคเขตเมืองของประเทศ เป็นกรอบการดำเนินงานร่วมระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ท้องถิ่น เอกชนและสถาบันการศึกษา โดยเน้นการพัฒนาบุคลากร ศึกษาวิจัยชี้เป้าปัญหา เสนอชุดมาตรการที่มีความจำเพาะ สามารถปรับใช้กับกลุ่มเป้าหมายตามบริบท โดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นกลไกหลักด้านบริหารจัดการในพื้นที่ (2) ในระดับพื้นที่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดบริการป้องกันควบคุมโรคและภัยสุขภาพในเขตเมืองที่ครบวงจรร่วมกันกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงแรงงาน กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงสาธารณสุข (3) มาตรการการป้องกันควบคุมโรคและภัยสุขภาพในเขตเมือง เป็นมาตรการที่มีวิชาการสนับสนุนว่า ได้ผล (evidence based) เป็นมาตรการผสมระหว่างมาตรการส่วนบุคคล มาตรการทางสังคม และมาตรการทางการบังคับใช้ด้วยกฎหมาย เป็นต้น บนฐานการใช้ข้อมูล Big Data และการใช้ประโยชน์จากบริการพื้นฐานที่จัดบริการโดยภาคเอกชน (private provider) (4) ขยายผลโครงสร้างการดำเนินงานและระบบติดตามประเมินผลของสถาบันป้องกันควบคุมโรคในเขตเมือง ซึ่งมีหน้าที่หลักในศึกษาวิจัย ร่วมกับสถาบันการศึกษา เพื่อกำหนดนโยบาย สร้างองค์ความรู้ใหม่ที่ทันสถานการณ์ เชื่อมโยงและนำสู่การปฏิบัติตามบริบทของพื้นที่ โดยมีกลุ่มงานเขตเมืองของสำนักงานป้องกันควบคุมโรค 12 แห่ง ประสานดำเนินงานร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชนและสถาบันการศึกษา ให้ส่งผลลัพธ์ต่อปัญหาโรคและภัยสุขภาพในเขตเมืองต่อไป       

Downloads

Download data is not yet available.

เอกสารอ้างอิง

1. World Health Organization, UN-habitat. Global report on urban health: equitable healthier cities for sustainable development. Geneva: World Health Organization; 2016.

2. United Nations, Human Settlements Programme, WHO Centre for Health Development (‎‎‎Kobe, Japan)‎‎‎. Hidden cities: unmasking and overcoming health inequities in urban settings: executive summary. Kobe, Japan: WHO Centre for Health Development; 2010.

3. Institute for Urban Disease Control and Prevention. Summary of the draft National Master Plan for Urban Disease Prevention and Control, 2018-2021 [Internet]. [cited 2018 Jul 31]. Available from: http://iudc.ddc.moph.go.th/files/news/636465347873866668 636461864727439260สรุปแผนแม่บท.pdf (in Thai)

4. Institute for Population and Social Research, Mahidol University. Population of Thailand, 2016. Mahidol Population Gazette 2016;25:1-2.

5. Tejativaddhana P, Wisitwong A, On-Gate P, Sirasoonthorn P, Nopkesorn T, Lee-smidt V, et al. Options and guidelines for urban health services system development in Health Region 3. Journal of Health Systems Research 2018;12:556-74. (in Thai)

6. Naiyapatana O. Quantitative and qualitative research methodologies in behavioral and social sciences. Bangkok: Chulalongkorn University; 2005. (in Thai)

7. Woratanarat T, Woratanarat P, Yamchim N, Singha P, Janepanichsab M, Phakanon P. Primary care services system in urban setting: case study in Bangkok area. Bangkok: Faculty of Medicine, Chulalongkorn University; 2016. (in Thai)

8. Bureau of Risk Communication and Health Behavior Development, Department of Disease Control. Evaluation of public perception of information, knowledge, health behaviors, and image of the Department of Disease Control, 2015. Nonthaburi: Department of Disease Control; 2015. (in Thai)

9. Department of Disease Control. Policy recommendations for the development of roles, missions, organizational structures, and working mechanism. Nonthaburi: Department of Disease Control; 2013. (in Thai)

10. Siriwanarangsun P, Chokkhanchitchai S. District Health Care Service: a case study in Bangkok area. Journal of Preventive Medicine Association of Thailand 2018;8:152-61. (in Thai)

11. Leesmidt V, Pannarunothai S. Appropriate roles and options of the Ministry of Public Health after 10 years of health care decentralization. Journal of Health Systems Research 2016;10:262-76. (in Thai)

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

30-09-2019

รูปแบบการอ้างอิง

1.
Siripanumas P, Phumruang P, Thueansukhon M, Prompukde B, Bunngamchairat A. The การพัฒนารูปแบบที่พึงประสงค์ของระบบป้องกันและควบคุมโรคเขตเมืองของประเทศไทย. Dis Control J [อินเทอร์เน็ต]. 30 กันยายน 2019 [อ้างถึง 30 ธันวาคม 2025];45(3):281-92. available at: https://he01.tci-thaijo.org/index.php/DCJ/article/view/183538

ฉบับ

ประเภทบทความ

นิพนธ์ต้นฉบับ