การพัฒนาแบบจำลองเพื่อประเมินความเสี่ยงจากการใช้สารเคมีอันตราย ในภาคเกษตรกรรม
คำสำคัญ:
โปรแกรมประเมินความเสี่ยง, สารเคมีในภาคเกษตร, กลุ่มผู้มีส่วน, ได้ส่วนเสียบทคัดย่อ
การพัฒนาแบบจำลองเพื่อประเมินความเสี่ยงจากการใช้สารเคมีอันตรายในภาคเกษตรกรรมเป็นการศึกษาวิจัยเชิงทดลองเพื่อ พัฒนาแบบจำลองประเมินความเสี่ยงจากการใช้สารเคมีของเกษตรกร โดยกระบวนการมีส่วนร่วมจากกลุ่มผู้มีส่วนได้เสีย และจัดทำเป็นโปรแกรมสำเร็จรูป โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างมาตรการควบคุมความเสี่ยงจากการใช้สารเคมีของเกษตรกรที่มีประสิทธิภาพ และเพื่อกระตุ้นให้เกษตรกรและผู้บริหารท้องถิ่นเกิดความสนใจและตระหนักถึงอันตรายจากการใช้สารเคมี กำหนดเป้าหมายให้ได้เกณฑ์ประเมินระดับอันตรายจากการใช้สารเคมีในภาคเกษตรกรรมที่มีความเหมาะสม เป็นที่ยอมรับและนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์แก่ชุมชนได้ การศึกษานี้มี 2 ส่วน ส่วนที่ 1 เป็นการพัฒนาแบบจำลองที่อยู่ในโปรแกรมสำเร็จรูป โดยกระบวนการมีส่วนร่วมจากกลุ่มผู้มีส่วนได้เสีย 3 กลุ่ม คือกลุ่มนักวิชาการ กลุ่มผู้บริหารท้องถิ่นและกลุ่มเกษตรๆ กลุ่มละ 20 คน เพื่อระดมความคิดเห็นในการกำหนดรายการข้อมูลสำคัญ กำหนดเกณฑ์คะแนนเพื่อคำนวณระดับความเสี่ยงและนำมาวิเคราะห์หาลักษณะการกระจายของคะแนนรวมระหว่างสิ่งคุกคามและการรับสัมผัสด้วยแบบจำลอง Monte Carlo Simulation ผลการศึกษา พบว่าในการคำนวณรายการข้อมูล สามารถกำหนดได้ 31 ข้อ จำแนกเป็น ข้อมูลทั่วไป 8 ข้อ ข้อมูลสารเคมี 8 ข้อ ข้อมูลสภาวะสุขภาพ 8 ข้อ ข้อมูลสิ่งแวดล้อมและการจัดการ 7 ข้อ และจากการให้น้ำหนักคะแนนแต่ละข้อซึ่งมีช่วงคะแนน 0 - 10 ด้วยวิธีการให้คะแนนผลปรากฏว่าสิ่งคุกคามมีค่าคะแนนอยู่ระหว่าง 4 - 24 และการรับสัมผัสมีคะแนนอยู่ระหว่าง 55 - 95 ทำให้ระดับความเสี่ยงมีค่าระดับปลอดภัยต่ำกว่า 220 ระดับความเสี่ยงอยู่ระหว่าง 221 - 585 ระดับไม่ปลอดภัยอยู่ระหว่าง 586 - 1050 ระดับอันตรายอยู่ระหว่าง 1051 - 1615 และระดับอันตรายร้ายแรงอยู่ระหว่าง 1616 - 2280 และเมื่อทำการทดสอบคุณภาพการวัดด้วยสถิติร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์และ t- test ผลปรากฏว่าค่าคะแนนที่ได้สามารถนำมาจัดทำโปรแกรมสำเร็จรูปที่สามารถประมวลผลข้อมูลเป็นสถิติ และกำหนดบนแผนที่ภูมิศาสตร์ได้ด้วยค่า r >.90 ค่า t > 2 p < 0.05 ข้อมูลที่จัดทำเป็นโปรแกรมสำเร็จรูป ได้ถูกออกแบบให้ผู้ใช้สามารถปรับเปลี่ยนรายการข้อมูลและกำหนดค่าขึ้นใหม่โดยผู้ใช้งาน ส่วนที่ 2 เป็นการทดลองใช้ใน 6 องค์การบริหารส่วนตำบล จังหวัดสระแก้ว โดยให้เจ้าหน้าที่บันทึกข้อมูลขององค์การบริหารส่วนตำบลเป็นผู้บันทึกข้อมูลเป็นรายเดือนโดยใช้เวลา 3 - 6 เดือน ในระหว่างทดลองผู้วิจัยและผู้ออกแบบโปรแกรมจะไปนิเทศงานและปรับปรุงโปรแกรมให้แก่เจ้าหน้าที่บันทึกข้อมูล เมื่อโปรแกรมได้รับการยืนยันจากเจ้าหน้าที่บันทึกข้อมูลแล้วจึงทำการประเมินผล โดยคัดเลือกหมู่บ้านใน อบต.ทดลอง 1 หมู่บ้าน และคัดเลือก อบต.ควบคุม 6 แห่ง 1 หมู่บ้าน ดำเนินการสอบถามความคิดเห็นต่อประโยชน์และความพึงพอใจในการใช้โปรแกรม ซึ่งผลการประเมินอบต.และหมู่บ้านทดลองมีการยอมรับและเห็นประโยชน์มากกว่าหมู่บ้านควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ (P < 0.05 )เป็นที่พอใจของ อบต.ที่ใช้โปรแกรม และมีการยอมรับเฉลี่ย ร้อยละ 85 แต่อย่างไรก็ตามควรได้มีการประเมินความเข้มข้นสารเคมีในสิ่งแวดล้อมและข้อมูลสุขภาพจริงในพื้นที่ประกอบจะทำให้ผลการประเมินมีความสมบรูณ์ยิ่งขึ้น
Downloads
เอกสารอ้างอิง
2. พงศ์เทพ วิวรรธนะเดช และคณะ. โครงการพัฒนาแบบจำลองทางคณิตศาสตร์เพื่อประเมินระดับความปลอดภัยของประชาชนต่อการได้รับสารอินทรีย์ระเหยในบรรยากาศ. ภาควิชาเวชศาสตร์ชุมชน คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ; 2548
3. เกรียง กิจบำรุงรัตน์. การประยุกต์ของการวิเคราะห์การถดถอยปัวซองสำหรับระบบแถวคอยของความต้องการสำหรับการรักษาพยาบาลและการบริการสาธารณสุข. วิทยานิพนธ์ปริญญาเอก , มหาวิทยาลัยมหิดล ; 2550
4. พันธุ์ทิพย์ รามสูต. การวิจัยปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม. สถาบันพัฒนาการสาธารณสุขอาเซียน นครปฐม มหาวิทยาลัยมหิดล ; 2540
5. สมเกียรติ ศิริรัตนพฤกษ์และคณะ. โครงการศึกษาความต้องการและทบทวนดัชนีวัดสิ่งแวดล้อมและอาชีวอนามัยในประเทศไทย.โครงการทุนอุดหนุนจากสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุขและสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ; 2549
6. Wilson AR. Environmental risk management policy. In : Environmental risk : identification and management. Chelsea : Lewis Publishers Inc., 1991: 77-103
7. Rodricks JV. Calculated risks : understanding the toxicity and human health risks of chemicals in our environment. New York: Cambridge University Press, 1994: 158-179
8. Hallenbeck WH. Quantitative risk assessment for environmental and occupational health. Chelsea: Lewis Publishers, 1993: 63-126
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ลงพิมพ์ในวารสารควบคุมโรค ถือว่าเป็นผลงานทางวิชาการหรือการวิจัย และวิเคราะห์ตลอดจนเป็นความเห็นส่วนตัวของผู้เขียน ไม่ใช่ความเห็นของกรมควบคุมโรค ประเทศไทย หรือกองบรรณาธิการแต่ประการใด ผู้เขียนจำต้องรับผิดชอบต่อบทความของตน


