ผลกระทบของสารหนูต่อสภาวะสุขภาพ: ลักษณะทางคลินิกและระบาดวิทยา ในอำเภอร่อนพิบูลย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาลักษณะทางคลินิกของผู้ที่ได้รับสารหนู จากการใช้น้ำบ่อที่ปนเปื้อนสารหนูในการดื่มและปรุงอาหาร ในพื้นที่หมู่ที่ 2 12 และ 13 ตำบลร่อนพิบูลย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการปนเปื้อนของสารหนูในน้ำบ่อสูงมากกว่า 0.2 มิลลิกรัม / ลิตร และเป็นการประเมินสถานการณ์ของโรคพิษสารหนู โดยทำการศึกษาในระหว่างปี พ.ศ. 2548 - 2549 ประชากรกลุ่มเป้าหมาย คือ ประชากรทุกคนที่อาศัยในพื้นที่หมู่ที่ 2 12 และ 13 ตำบลร่อนพิบูลย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช ทั้งหมด 6,167 คน ได้รับการสัมภาษณ์เรื่องการใช้น้ำในการดื่มและปรุงอาหาร ประวัติเจ็บป่วย และตรวจร่างกาย คัดกรองเบื้องต้น เพื่อหาความผิดปกติของผิวหนัง โดยพยาบาลหรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่ผ่านการอบรมหลักการวินิจฉัยโรคพิษสารหนู ผู้ที่ตรวจพบความผิดปกติของผิวหนัง สงสัยเป็นโรคพิษสารหนู จะได้รับการตรวจร่างกายอย่างละเอียด โดยแพทย์เฉพาะทางผิวหนัง เพื่อการวินิจฉัยและจำแนกประเภทผู้ป่วย ผลการศึกษาจำนวนประชากรศึกษาทั้งหมด 6,176 ราย มีประวัติใช้น้ำบ่อในการดื่ม และปรุงอาหาร จำนวน 2,344 ราย มีอาการแสดงทางผิวหนัง ซึ่งเป็นผลจากการได้รับสารหนู จำนวน 551 ราย คิดเป็นอัตราป่วยร้อยละ 23.51 อาการแสดงทางผิวหนังที่พบมากที่สุดคือ ตุ่มนูนแข็งที่ฝ่ามือฝ่าเท้า palm and sole keratosis พบร้อยละ 100 ของผู้ที่ผิวหนังผิดปกติทั้งหมด พบสีผิวผิดปกติร้อยละ 10.70 โดยสีผิวผิดปกติที่พบมากที่สุด คือ สีผิวกระดำกระด่าง rain drop pigmentation พบผู้ป่วยเป็นมะเร็งผิวหนังทั้งหมด 44 ราย คิดเป็นร้อยละ 7.99 มะเร็งที่พบมากที่สุดคือ Squamous cell Carcinoma ระหว่างการศึกษามีผู้เสียชีวิตจากมะเร็งผิวหนัง Squamous cell Carcinoma ลุกลามไปยังอวัยวะภายใน จำนวน 3 ราย คิดเป็นอัตราตาย ร้อยละ 0.13 ของผู้ที่ได้รับสารหนู