สถานการณ์รถนักเรียนในโรงเรียนประถมศึกษาและมัธยมศึกษา จังหวัดศรีสะเกษ พ.ศ. 2548

ผู้แต่ง

  • เอื้อมพร เมฆวัฒนากาญจน์ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ

คำสำคัญ:

รถนักเรียน, จังหวัดศรีสะเกษ

บทคัดย่อ

การศึกษาสถานการณ์รถนักเรียนในโรงเรียนประถมศึกษาและมัธยมศึกษา จังหวัดศรีสะเกษ เป็นการวิจัยเชิงสำรวจ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาข้อมูลการเดินทางไปและกลับจากโรงเรียนของนักเรียน อัตราการเกิดอุบัติเหตุในระหว่างการเดินทางไปกลับโรงเรียน ความคิดเห็นของผู้ปกครอง ผู้บริหารโรงเรียน ในการจัดบริการรถรับส่งนักเรียน ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ขับรถรับส่งนักเรียน และศึกษาปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการเกิดอุบัติเหตุของนักเรียนในขณะเดินทางไปกลับโรงเรียน ใช้วิธีเลือกแบบเจาะจง เฉพาะเขตเทศบาลเมืองศรีสะเกษ กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนจำนวน 2,781 คน และผู้ปกครอง จำนวน 556 คน ผู้บริหารโรงเรียนจำนวน 20 คนและผู้ขับขี่รถรับส่งนักเรียน จำนวน 191 คน เก็บข้อมูลระหว่างเดือน กรกฎาคม-สิงหาคม 2548 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา chi-square odds ratio (OR) ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้ นักเรียนกลุ่มตัวอย่างที่ประสบอุบัติเหตุในระหว่างการเดินทางไปกลับโรงเรียน ทั้งสิ้น 224 คน คิดเป็นร้อยละ 8.1 ส่วนใหญ่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยไม่ต้องเข้ารับการรักษาในสถานพยาบาล ร้อยละ52.2 และบาดเจ็บจนต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาล ร้อยละ6.7 โดยพบว่านักเรียนที่สังกัดโรงเรียนรัฐบาลและโรงเรียนเอกชน เพศชายและเพศหญิง นักเรียนชั้นประถมศึกษาและมัธยมศึกษา และการอาศัยในเขตเทศบาลและนอกเขตเทศบาลของนักเรียน มีการเกิดอุบัติเหตุที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p< 0.05) และการเดินทางไปกลับโรงเรียนด้วย รถจักรยาน รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล รถจักรยานยนต์รับจ้าง รถโดยสารประจำทาง และการเดินมีความเสี่ยงต่อการประสบอุบัติเหตุมากกว่าการเดินทางด้วยรถรับส่งนักเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ OR = 6.69 (95% CI:4.01-11.20) 6.37(95%CI :2.18-5.71) 4.70(95%CI: 1.52-10.88) 2.71(95%CI: 1.34-5.43) และ 2.24(95%CI: 1.21-4.15) ตามลำดับ กลุ่มผู้ปกครองเห็นว่า เกณฑ์ขั้นต่ำของรถนักเรียนที่ยอมรับได้ตามสภาพเศรษฐกิจสังคมของผู้ปกครองควรเป็นรถมินิบัสหรือไมโครบัส ร้อยละ 27.9 อายุการใช้งานของรถรับส่งนักเรียน ไม่ควรเกิน 10 ปี ร้อยละ 69 ควรมีการตรวจเช็คสภาพรถเป็นประจำ ภายใน3-6 เดือน ร้อยละ 88.8 ควรมีเข็มขัดนิรภัยสำหรับทุกที่นั่งร้อยละ 92.4 ควรจัดให้มีที่นั่งสำหรับเด็กอนุบาล ร้อยละ 89.9 ควรมีสีเฉพาะว่าเป็นรถนักเรียน ร้อยละ 85.9 และควรจะมีผู้ดูแลประจำรถ ร้อยละ 91.4 โรงเรียนกลุ่มตัวอย่างที่สังกัดภาครัฐ 17 โรงเรียน ไม่มีการจัดบริการรถรับส่งนักเรียน ส่วนโรงเรียนเอกชนมีการจัดบริการรถรับส่งนักเรียน จำนวนนักเรียนที่เดินทางด้วยรถรับส่งนักเรียนที่โรงเรียนเป็นผู้ดำเนินการ ร้อยละ 7.1 ของนักเรียนทั้งหมด รถที่ใช้ส่วนใหญ้ได้แก่ รถโดยสารมินิบัส มีการตรวจเช็คสภาพรถประจำปี ร้อยละ 100 รถรับส่งนักเรียนที่ไม่ได้ดำเนินการโดยโรงเรียนทั้งสิ้น 185 คัน จำนวนนักเรียนที่ใช้บริการทั้งสิ้น 6,054 คน คิดเป็นร้อยละ 26.2 ของนักเรียนทั้งหมด ผู้ขับรถรับส่งนักเรียน ส่วนใหญ่เป็นเพศชาย ร้อยละ 96.9 มีอายุเฉลี่ย 39.7 ปี มีประสบการณ์ในการขับรถรับส่งนักเรียนโดยเฉลี่ย 8.9 ปี เป็นเจ้าของเอง ร้อยละ 63.3 และรับจ้างขับรถ ร้อยละ 36.7 มีรายได้เฉลี่ยต่อวัน 100-300 บาท ร้อยละ 81.8 สูบบุหรี่ ร้อยละ 24.1 ดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ร้อยละ 30.4 และดื่มเครื่องดื่มชูกำลัง ร้อยละ 49.2 มีโรคประจำตัว ร้อยละ 5.2 โดยโรคที่เป็น ได้แก่ โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคกระดูกและไขข้อ โรคไต โรคหอบ โรคกระเพาะอาหาร และอื่น ๆ มีผู้ดูแลนักเรียนประจำรถ ร้อยละ 51.3 โดยสรุป สถานการณ์รถนักเรียนในโรงเรียนประถมศึกษาและมัธยมศึกษา จังหวัดศรีสะเกษ พบว่าจำนวนนักเรียนที่เดินทางโดยรถรับส่งนักเรียนยังมีจำนวนน้อย แม้ว่ารถรับส่งนักเรียนที่ให้บริการอยู่ในปัจจุบัน ส่วนใหญ่จะไม่สามารถปฏิบัติตามกฎระเบียบข้อบังคับที่มีอยู่ แต่ก็พบว่านักเรียนที่เดินทางด้วยรถรับส่งนักเรียนมีความปลอดภัยมากกว่าการเดินทางด้วยวิธีอื่นๆ และหากการจัดบริการรถรับส่งนักเรียนมีคุณภาพได้มาตรฐาน ผู้ปกครองจะใช้บริการมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อความปลอดภัยของนักเรียนและลดปัญหาการจราจรลงได้

Downloads

Download data is not yet available.

เอกสารอ้างอิง

1. สถาบันการแพทย์ด้านอุบัติเหตุและสาธารณภัย, การประชุมวิชาการด้านอุบัติเหตุและสาธารณภัย ครั้งที่ 3, พ.ศ. 2544.

2. ชไมพันธ์ สันติกาญจน์ และคณะ. รายงานการเฝ้าระวังการบาดเจ็บในระดับจังหวัด ประเทศไทย พ.ศ.2542. กองระบาดวิทยา กระทรวงสาธารณสุข.

3. สุรชัย สราญฤทธิชัย, วิทยา ชาติบัญชาชัย "อุบัติเหตุและการบาดเจ็บในเด็ก ในโรงพยาบาลขอนแก่น". ขอนแก่นเวชสาร 2541; 22(2): 13-23

4. Pless B. "Childhood injury prevention: time for tougher measures." Can Med Assoc J 1996; 40: 951-5.

5. Corneli HM, Cook LJ, dean JM. Adults and children in severe motor vehicle crashes: a matchpaired study. Ann Emerg Med 2000; 36: 340-5.

6. CHIRPP injury reports. Injuries associated with School Buses. (Online). 1995 (cited 2002 August 2); (5 screens). Available from: URL: http://www.hcsc.gc.ca/hpb/lcdc/brch/injury/irsbus_e.html.

7. เปรมวดี คฤหเดชและคณะ. โครงการความปลอดภัยในการเดินทางไปกลับโรงเรียนด้วยรถรับส่งนักเรียน. กรุงเทพฯ . 2547

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

30-06-2008

รูปแบบการอ้างอิง

1.
เมฆวัฒนากาญจน์ เ. สถานการณ์รถนักเรียนในโรงเรียนประถมศึกษาและมัธยมศึกษา จังหวัดศรีสะเกษ พ.ศ. 2548. Dis Control J [อินเทอร์เน็ต]. 30 มิถุนายน 2008 [อ้างถึง 27 ธันวาคม 2025];34(2):90-8. available at: https://he01.tci-thaijo.org/index.php/DCJ/article/view/156004

ฉบับ

ประเภทบทความ

นิพนธ์ต้นฉบับ