การประเมินผลการป้องกันควบคุมโรคไข้หวัดนกในชุมชน ปี พ.ศ. 2548

ผู้แต่ง

  • จุฑารัตน์ ถาวรนันท์ สำนักโรคติดต่อทั่วไป
  • สุพินดา ตีระรัตน์ สำนักโรคติดต่อทั่วไป
  • สุพร สาระกูล สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 8
  • วราภรณ์ อึ้งพานิชย์ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 2
  • สมชัย จิรโรจน์วัฒน์ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 3
  • สุรชัย ศิลาวรรณ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 5 นครราชสีมา
  • บงกช เชี่ยวชาญยนต์ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12

คำสำคัญ:

โรคไข้หวัดนก, การป้องกันควบคุมในชุมชน

บทคัดย่อ

การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินความรู้ ทัศนคติ การปฏิบัติตนในการป้องกันไข้หวัดนก การรับรู้สื่อชนิดต่างๆ ลักษณะการเลี้ยงสัตว์ปีกของประชาชนและการมีส่วนร่วมของอาสาสมัครสาธารณสุขในการเฝ้าระวังโรคไข้หวัดนกในพื้นที่พบเชื้อและไม่พบเชื้อ H5N1 ในสัตว์ปีก โดยเป็นการศึกษาเชิงสำรวจเปรียบเทียบเก็บข้อมูลประชาชนกลุ่มละ 30 หมู่บ้านต่อ 1 เขต (12 เขต) รวม 8,958 คน ข้อมูลผู้เลี้ยงสัตว์ปีก 3,068 คน และอาสาสมัครสาธารณสุขหมู่บ้านละ 3-5 คน รวม 3,106 คน พบว่า ประชาชนมีความรู้โรคไข้หวัดนกในระดับดี แต่ยังมีความรู้บางเรื่องไม่ถูกต้อง ได้แก่ ไข้หวัดนกเป็นโรคที่เกิดจากไก่อย่างเดียว ร้อยละ 36.0 การกำจัด สัตว์ปีกป่วยตายไม่จำเป็นต้องใส่ถุงมือยางหรือถุงพลาสติก ร้อยละ34.8 และมูลของสัตว์ปีกไม่มีเชื้อไข้หวัดนก ร้อยละ 52.8 ทัศนคติและการปฏิบัติตนในภาพรวมอยู่ระดับปานกลาง อย่างไรก็ตาม มีทัศนคติบางเรื่องที่ไม่เอื้อต่อการป้องกัน โรค ได้แก่ การล้างมือฟอกสบู่บ่อยๆ หลังการสัมผัสสัตว์ปีกเป็นเรื่องยาก ร้อยละ 51.6 และการปฏิบัติตนที่เสี่ยงต่อการติดโรค ได้แก่ การไม่ล้างมือฟอกสบู่หลังจับสัตว์ปีก ร้อยละ 40.1 เมื่อเปรียบเทียบความรู้ ทัศนคติ และพฤติกรรมของประชาชนในพื้นที่พบเชื้อและไม่พบเชื้อ H5N1 พบว่า ความรู้เรื่องโรคไม่แตกต่างกัน แต่ประชาชนในพื้นที่เคยพบเชื้อมีทัศนคติที่เอื้อต่อการป้องกันโรคมากกว่าพื้นที่ไม่พบเชื้อ (p 0.05) ส่วนการปฏิบัติตนนั้น พื้นที่ไม่พบเชื้อมีพฤติกรรมป้องกันโรคดีกว่าพื้นที่พบเชื้อ (p 0.05) สำหรับการรับรู้ข่าวสารโรคไข้หวัดนก ส่วนใหญ่รับรู้จากสื่อโทรทัศน์ ร้อยละ 66.1 เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ร้อยละ 7.4 อสม. ร้อยละ 6.0 ส่วนลักษณะการเลี้ยงสัตว์ปีก พบไก่พื้นเมือง ไก่ชน และเป็ด ส่วนใหญ่เลี้ยงแบบปล่อย ร้อยละ 74.3 ร้อยละ 52.0 และ ร้อยละ 63.2 ตามลำดับ โดยพื้นที่เคยพบเชื้อมีการเลี้ยงแบบปล่อยน้อยกว่าพื้นที่ไม่พบเชื้อ (p 0.05) ด้านความรู้ของ อสม. ส่วนใหญ่อยู่ในระดับดี แต่มีบางเรื่องที่ยังเข้าใจไม่ถูกต้อง ได้แก่ ไก่ชนหากไม่ป่วย สามารถดูดเสมหะให้ไก่ได้โดยไม่เสี่ยงต่อการติดเชื้อไข้หวัดนก ร้อยละ 39.0 การนำไก่ที่เริ่มป่วยตายมาเชือดทำอาหาร ไม่เสี่ยงต่อการติดเชื้อไข้หวัดนก ร้อยละ 30.3 การเล่นคลุกคลีบริเวณพื้นดินที่เลี้ยงสัตว์ปีกไม่ทำให้เด็กเสี่ยงต่อการติดเชื้อไข้หวัดนก ร้อยละ 36.6 อสม. ในพื้นที่พบเชื้อมีกิจกรรมการเฝ้าระวังและได้รับแรงสนับสนุนทางสังคมในการควบคุมโรคมากกว่าพื้นที่ไม่พบเชื้อ (p 0.05) ปัจจัยที่ยังได้รับแรงสนับสนุนไม่เต็มที่คือ สิ่งสนับสนุนเพื่อการทำงานควบคุมโรค เช่น ถุงมือ ผ้าปิดจมูก ปาก ร้อยละ 60.8 ทั้งนี้ อสม. ส่วนใหญ่มีส่วนในการให้ความรู้แก่เพื่อนบ้านสำรวจ และสังเกตสัตว์ปีกป่วย แต่มีส่วนร่วมไม่มากในการทำลายสัตว์ปีก ร้อยละ 28.1 และการสังเกตอาการผู้ที่มีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ในหมู่บ้านมีเพียง ร้อยละ 69.3 จึงมีความจำเป็นที่ต้องเร่งถ่ายทอดความรู้ สนับสนุนการพัฒนาชุมชนและ อสม.ให้มีส่วนร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลงทัศนคติและการปฏิบัติตนเพื่อการป้องกันโรคไข้หวัดนกของประเทศไทย

Downloads

Download data is not yet available.

เอกสารอ้างอิง

1. WHO. Avian influenza: assessing the pandemic threat. [online] 2005 January [cited 2007 Mar 15]; Available from: URL: http://www.who.int/csr/disease/influenza/H5N1-9reduit.pdf

2. ดารินทร์ อารีย์โชคชัย, ชุลีพร จิระพงษา, วรรณา หาญเชาวกุล, พจมาน ศิริอารยาภรณ์, นายยงเจือ เหล่าศิริถาวร, Mr. Michael Oreilly และคณะ. Risk factor of Avian Flu in Thailand, [online] May 2004 [cited 2007 Feb 1]; Available from: URL: http://203.157.19.193/invest/ai/july47/H5N1_Darin.pdf

3. กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข, สถาบันวิจัยและพัฒนามหาวิทยาลัยรามคำแหง. การเฝ้าระวังพฤติกรรมสุขภาพเพื่อป้องกันโรคไข้หวัดนก. 2547. [cited 2006 Jun 7]; Avail able from: URL: http://www.thai hed.com/html

4. ปราบดา ประภาศิริ, Olsen S, ครรชิต ลิมปกาญจนารัตน์, ยงเจือ เหล่าศิริถาวร, ดาริกา พัฒนสิน. ความรู้ ทัศนคติ และการปฏิบัติตัวก่อนและหลังได้ยินข่าวเกี่ยวกับไข้หวัดนก จังหวัดนครพนม. ตุลาคม 2547. [cited 2005 Jan 9]; Avialable from URL. http://epid.moph. go.th/invest/Avian11_oct_47.html

5. Fleiss. Statistical Methods for Rates and Proportions. 2nd Ed. London: Wiley; 1981.

6. คณะกรรมการป้องกันและควบคุมโรคไข้หวัดนก กระทรวงสาธารณสุข. คู่มือการปฏิบัติงานโรคไข้หวัดนก สำหรับบุคลากรด้านการแพทย์และสาธารณสุข. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพมหานคร: ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย; 2548.

7. ประภาเพ็ญ สุวรรณ. ทัศนคติ : การวัดการเปลี่ยนแปลงและพฤติกรรมอนามัย. พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพมหานคร: ไทยวัฒนาพานิช; 2537.

8. วาสนา จันทร์สว่าง, นาตยา เกรียงชัยพฤกษ์, ยุทธพงษ์ ขวัญชื้น, วิทยา เทียนจวง, พงศ์พันธ์ อันตะริกานนท์, นิทัศน์ ศิริโชติรัตน์. กระบวนการสื่อสารการรณรงค์ ด้านสุขภาพ. กรุงเทพมหานคร: คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล/
กองสุขศึกษา กระทรงสาธารณสุข /สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข; 2548.

9. ปาริชาต สถาปิตานนท์, กิตติ กันภัย, พัฒนพงศ์ จาติเกตุ, ปิยะนารถ จาติเกตุ. การสื่อสารสุขภาพ : ศักยภาพของสื่อมวลชนในการสร้างเสริมสุขภาพ. กรุงเทพมหานคร: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย; 2546.

10. ศูนย์ควบคุมโรคไข้หวัดนก สำนักควบคุมป้องกันและบำบัดโรคสัตว์. การควบคุมโรคไข้หวัดนกในประเทศไทย. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพมหานคร: ชุมนุมสหกรณ์ เพื่อการเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด; 2549.

11. WHO Consultation on Human Influenza A/H5. Avian Influenza A (H5N1) Infection in Humans. N Engl J Med. 2005; 353: 1374-85.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

31-03-2008

รูปแบบการอ้างอิง

1.
ถาวรนันท์ จ, ตีระรัตน์ ส, สาระกูล ส, อึ้งพานิชย์ ว, จิรโรจน์วัฒน์ ส, ศิลาวรรณ ส, เชี่ยวชาญยนต์ บ. การประเมินผลการป้องกันควบคุมโรคไข้หวัดนกในชุมชน ปี พ.ศ. 2548. Dis Control J [อินเทอร์เน็ต]. 31 มีนาคม 2008 [อ้างถึง 27 ธันวาคม 2025];34(1):53-62. available at: https://he01.tci-thaijo.org/index.php/DCJ/article/view/156000

ฉบับ

ประเภทบทความ

นิพนธ์ต้นฉบับ