การตรวจติดตามระดับเม็ดเลือดขาว CD4 ในผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่ยังไม่ถึงเกณฑ์เข้ารับยาต้านไวรัส ปี 2547-2549

ผู้แต่ง

  • พีระมน นิงสานนท์ Bureau of AIDS, Tuberculosis and STI
  • สมศักดิ์ ศุภวิทย์กุล ศูนย์ความร่วมมือไทย-สหรัฐด้านสาธารณสุข
  • เสาวนีย์ สีสองสม Thailand MOPH - US CDC Collaboration
  • ธนวงค์ บัวซ้อน สำนักโรคเอดส์ วัณโรค และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
  • กิตติ นุชชม สำนักโรคเอดส์ วัณโรค และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

คำสำคัญ:

การตรวจติดตามระดับเม็ดเลือดขาว CD4, ผู้ติดเชื้อไม่มีอาการ, ระยะเวลาเฉลี่ยก่อนการรับยาต้านไวรัส, การส่งเสริมสุขภาพในผู้ติดเชื้อ

บทคัดย่อ

การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนให้ผู้ติดเชื้อไม่มีอาการ มาตรวจติดตามระบบภูมิคุ้มกัน(CD4) เพื่อการดูแลสุขภาพอย่างต่อเนื่อง โดยคัดเลือกผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่เข้ามาติดต่อในโรงพยาบาลทั้งสิ้น 30 แห่ง ในพื้นที่ 3 จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดเชียงราย และจังหวัดพะเยา ที่มีระดับค่า CD4 มากกว่า 200 และไม่มีอาการแสดง ตามรายงาน 506/1 ติดตามระดับค่า CD4 ของผู้ติดเชื้อ ดังนี้ ระดับค่า CD4 > 300 ตรวจทุก 6 เดือน ระดับค่า CD4 ระหว่าง 251 - 300 ตรวจทุก 4 เดือน ระดับค่า CD4 ระหว่าง 200 - 250 ตรวจทุก 2 เดือน เป็นการเก็บข้อมูลแบบไปข้างหน้า Prospective cohort study เพื่อดูการเปลี่ยนแปลงของ CD4 และเก็บตัวแปรต่างๆ ที่อาจจะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงระดับ CD4 เช่น คุณสมบัติของผู้เข้าร่วมโครงการ ข้อมูลพื้นฐานด้านสุขภาพ พฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์ โรคติดเชื้อฉวยโอกาส และปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ผลการศึกษา ทำการติดตามเป็นระยะเวลา 2 ปี ในกลุ่ม ผู้ติดเชื้อเอชไอวีไม่มีอาการจำนวน 2,140 ราย ดังนี้ กลุ่ม A CD4 > 300 cell/mm3 มี 1,525 ราย กลุ่ม B 250 < CD4 < 300 cell/mm3 มี 319 ราย กลุ่ม C เป็น 200 < CD4 < 250 cell/mm3 มี 296 ราย เป็นเพศหญิง ร้อยละ 63.6 มีอุบัติการณ์ของโรคติดเชื้อฉวยโอกาส (OI) คิดเป็น 0.8/100PY ระยะเวลาเฉลี่ยก่อนการรับยาต้านไวรัสของผู้ติดเชื้อเอชไอวี (Median survival ) กลุ่ม A มีระยะเวลาเฉลี่ย เท่ากับ 14 เดือน กลุ่ม B มีระยะเวลาเฉลี่ย เท่ากับ 7 เดือน และกลุ่ม C มีระยะเวลาเฉลี่ยเท่ากับ 2 เดือน กลุ่ม A มีความแตกต่างกับกลุ่ม B และ C (P < 0.05) แต่ กลุ่ม B ไม่แตกต่างกันกับ กลุ่ม C (P = 0.85 ) ค่ามัธยฐาน CD4 ของผู้ป่วยที่ออกไปรับยาของกลุ่มตัวอย่างทั้งหมดคือ175.3 cell/mm3 ร้อยละ 38.5 ได้เข้าร่วม เป็นสมาชิก Day Care Center ผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่เคยมีเพศสัมพันธ์กับคู่นอน ส่วนใหญ่ ร้อยละ 51.0% ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้ง ประโยชน์ของโครงการคือช่วยให้ CD4 แรกรับยาต้านไวรัสของผู้ติดเชื้อสูงขึ้น ซึ่งจะลดผลข้างเคียงของการใช้ยา และเพิ่มผลสำเร็จของการรักษาผู้ติดเชื้อเอชไอวีได้เข้ารับบริการการตรวจติดตามระดับเม็ดเลือดขาว CD4 ง่ายและเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งได้รับการดูแลรักษาและให้ความรู้อย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงต่างๆ

Downloads

Download data is not yet available.

เอกสารอ้างอิง

1. Timothy, Sterling, Richard E, Claissob, Jeanne Kernly. Richard D,Moor .Improve outcomes with earlier of Highly ActiveAntiratroviral Therapy Among Human Immunodeficiency Virus-Infected Patients Who Achieve Durable Virologic Suppression :Long Follow-up of an observational Cohort Study. The Journal of Infectious Diseases. 2003; 188: 1659-1665

2 Hunt PeterW, Deeks StevenG,Rodriguez, Bening noC, ValdeZ Hernan C , Shade Starley B , etal. Continued CD4 cell countincreases in HIV infected adults experiencing 4 years of viral suppression on antiretroviral therapy. AIDS 2003;
17(13) : 1907-1915

3. Kaufmann Gillbert R, Block Mark, Finlayson Robert , Zaunders John, Smith Don, Cooper David A. The extent of HIV-1-relatted immunodeficiency and age predict the long term CD4T lymphocyte response to Potent antiretroviral therapy. AIDS 2002; 16 (3): 359-367

4. Hans H. Hirsch, Gilbert Kaufmann, Pedram Sendi, Manual Battergay. Immune Reconstitution in HIV-Infected Patients. Clinical Infectious Diseases 2004; 38: 1159-1166

5. Panita Pathip vanich MD, Archawin Rojana wiwat MD, Koya Ariyoshi MD, Toshiyuki Miura MD, Wadchara Pumpradit MD, Suchint Wong choosie MD et al . Mortality Analysis of HIV-1 Infected Patients for Prigritizins Antiretroviral Drug Therapy. J Med Sssoc Thai 2004; 8: 951-4

6. Wood, Evan; Hogg, Robert S, Yip, Benita, Harrigan , P Rochard, O' Shaughnessy , Michael V Montaner, Julio SG. Is there a baseline CD4 cell count that precludes a survival response to modern antiretrpviral therpy. AIDS. 2003: 17(5): 711-720

7. Gilbert R Kaufmann, Nina Khanna, Rainer Weber, Luc perrin, Hansjakob Furrer, Matthias Cavassini. Long-term response to multiple Sequential regimens of highly active antiretroviral therapy for HIV infection . Antiretroviral therapy 2004; 9: 263 - 274

8. สัญชัย ชาสมบัติ, ชีวนันท์ เลิศพิริยสุวัฒน์, พรทิพย์ ยุคตานนท์. สำนักโรคเอดส์ วัณโรคและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กรมควบคุมโรค. การรักษาโรคติดเชื้อ HIV/AIDS ในผู้ใหญ่: แนวทางการดูแลรักษาผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยโรคเอดส์เด็กและผู้ใหญ่ในประเทศไทย ปี พศ.2547. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพฯ; 2546: 89-180

9. Mustafa T, SY FS, Macera CA, et al. Association between exercise and HIV disease progression in a cohort of homosexual men. Ann Epidemiol. 1999: 9(2): 127-31

10. Vongsivalas Y, Yenrudi S. Lung cancer in AIDS/HIV infection. Chula Med J 2004

11. Holistic services and community involvement: the combined Chiang Rai day care center strategies. R Lolekha. Presented at the 7th ICAAP. Japan.

12. ธีรพล สุขมาก, อารีย์ สุภาวงศ์, เพียงใจ ตัณฑชน, ศุภลักษณ์ จิตนาธรรม. ประสิทธิภาพและผลข้างเคียงของการใช้ยาต้านไวรัสเอ็ชไอวีที่ โรงพยาบาลทุ่งสง. วารสารโรคเอดส์. 2548; 17: 60-72

13. Virus disease AIDS and Related disorders : in: Dennist L Kasper, Eugene Braunwald, Anthony S fauci, Stephan L. HAUSER, Dan L.Longo, J. Larry jameson. Harrison s principles of internal medicine. 16 thed. New York: Mc Graw Hill; 2005. 1076-1139

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

31-03-2008

รูปแบบการอ้างอิง

1.
นิงสานนท์ พ, ศุภวิทย์กุล ส, สีสองสม เ, บัวซ้อน ธ, นุชชม ก. การตรวจติดตามระดับเม็ดเลือดขาว CD4 ในผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่ยังไม่ถึงเกณฑ์เข้ารับยาต้านไวรัส ปี 2547-2549. Dis Control J [อินเทอร์เน็ต]. 31 มีนาคม 2008 [อ้างถึง 28 ธันวาคม 2025];34(1):11-2. available at: https://he01.tci-thaijo.org/index.php/DCJ/article/view/155995

ฉบับ

ประเภทบทความ

นิพนธ์ต้นฉบับ