การประเมินการดูแลผู้ป่วยเบาหวานที่มารับบริการที่โรงพยาบาลชุมพลบุรี จังหวัดสุรินทร์โดยการตรวจระดับน้ำตาลสะสม HemoglobinA1c
คำสำคัญ:
การดูแลผู้ป่วยเบาหวาน, โรงพยาบาลชุมพลบุรี, จังหวัดสุรินทร์บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้เป็นการศึกษาเชิงพรรณนาภาคตัดขวาง เพื่อประเมินการดูแลผู้ป่วยเบาหวานที่มารับบริการที่โรงพยาบาลชุมพลบุรี จังหวัดสุรินทร์ ปี พ.ศ. 2549 โดยการตรวจหาระดับน้ำตาลสะสม hemoglobinA1c เพื่อศึกษาความชุกและค้นหาปัจจัยที่มีผลต่อการมี hemoglobinA1c ที่สูงกว่าปกติ อันแสดงถึงผลการดูแลโรคเบาหวาน ตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาเป็นผู้ป่วยเบาหวานจำนวน 120 คน เก็บข้อมูลโดยการสัมภาษณ์และเจาะเลือดเพื่อตรวจวัดระดับ hemoglobinA1c ผลการศึกษา พบผู้ที่มีระดับน้ำตาลสะสม hemoglobinA1c ที่สูงกว่าเกณฑ์ปกติ คือ 7 mole% ร้อยละ 50.8 ผู้ป่วยที่ควบคุมระดับน้ำตาลได้ดีมากคือ ต่ำกว่า 7 mole% ร้อยละ 49.2 ควบคุมได้ดีพอใช้ ระดับ hemoglobinA1c 7.01-8.00 mole% ร้อยละ 15 และควบคุมได้ไม่ดี hemoglobinA1c มากกว่า 8.01 mole% ร้อยละ 35.8 ไม่พบว่า เพศ อายุ อาชีพ สถานภาพสมรส ระดับการศึกษา น้ำหนัก ค่าดัชนีมวลกาย และระยะการเจ็บป่วยด้วยโรคเบาหวานมีความสัมพันธ์กับผลการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด แต่พบว่าระยะเวลาที่เป็นเบาหวานนานมากกว่า 10 ปี มีการควบคุมระดับน้ำตาลได้เพียง ร้อยละ 17.6 ในขณะที่ตัวอย่างที่เป็นเบาหวานมานานไม่เกิน 10 ปี จะมีการควบคุมระดับน้ำตาลได้มากกว่าถึง ร้อยละ 33.3 และการศึกษานี้ไม่พบความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมการปฏิบัติตนเองกับการควบคุมน้ำตาลในเลือด จึงมีข้อแนะนำดังนี้ 1) การดูแลและการประเมินผลการรักษาของแพทย์และทีมสุขภาพ ควรนำ hemoglobinA1c มาช่วยตัดสินใจและการยอมรับการรักษาของผู้ป่วยมาร่วมพิจารณาวางแผนการรักษา 2) ควรมีการศึกษาถึง ผลแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นในกลุ่มผู้ป่วยที่ควบคุมระดับน้ำตาลสะสม hemoglobinA1c ได้ไม่ดี ซึ่งจะแสดงถึงประสิทธิภาพของการรักษาพยาบาล และ 3) ควรทำการศึกษาให้ครอบคลุมประชากรมากขึ้น เพื่อจะได้ทราบถึงปัจจัยที่มีผลต่อการควบคุมระดับน้ำตาลสะสม hemoglobinA1cในเลือดให้ชัดเจนขึ้น
Downloads
เอกสารอ้างอิง
2. ข้อมูลภาระโรคจากการตาย พิการและป่วยเรื้อรังก่อนวัยอันควร (Disability adjusted life years, DALYs) ในประเทศไทย ปี พ.ศ. 2542 เอกสารประกอบการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อเพิ่มคุณภาพระบบบริการสำนักโรคไม่ติดต่อ วันที่ 19-21 ม.ค.48 ณ ห้องประชุม มิราเคิลแกรนด์คอนเวนชั่น กรุงเทพมหานคร.
3. Nation Institute of Health Diabetes statistic. United State: Nation Institute of Health Publication, 1995.
4. วิลาวัล ผลพลอย การส่งเสริมการดูแลตนเองเพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวาน ชนิดไม่พึ่งอินซูลินวิทยานิพนธ์ปริญญาพยาบาลศาสตร์ มหาบัณฑิตมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, 2539
5. รายงานผลการดำเนินงานสรุปผลการดำเนินงานป้องกันควบคุมโรคไม่ติดต่อของสำนักงานสาธารณสุข จังหวัดสุรินทร์ ประจำปี 2548. เอกสารสำเนาอัดโรเนียว.
6. รายงานผลการดำเนินงานประจำปี สรุปผลการดำเนินงานป้องกันควบคุมโรคความดันโลหิตสูงและหัวใจขาดเลือดของ โรงพยาบาลชุมพลบุรี ประจำปี 2548.เอกสารสำเนาอัดโรเนียว.
7. Krishnamurti U, Steffes MW, Glycohemoglobin : a primary predictor of the development of complications of diabetes millitus. Clin Chem 2001; 47: 1157-65.
8. พรทิพย์ โล่ห์เลขา. การตรวจวิเคราะห์ทางเคมีคลินิก เพื่อการวินิจฉัย ติดตาม ควบคุมและรักษาโรคเบาหวาน. J Med Tech Assoc Thai 1990;18:99-104.
9. สุดารัตน์ มโนเชี่ยวพินิจ, สุรัชนี จูฑะพุทธิ. Frutosamine ในซีรั่มผู้ป่วยเบาหวาน. Bull Fac Med Tech Mahidol University. 1974;11:103-12.
10. น้อมจิตต์ สกุลพันธ์. ความสัมพันธ์ระหว่างการสนับสนุนทางสังคมและปัจจัยที่เกี่ยวข้องต่อการดูแลตนเองของผู้ป่วยเบาหวาน. วิทยานิพนธ์ปริญญาวิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต. สาขาพยาบาลศาสตร์มหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยมหิดล, 2537.
11. อดิสัย ภูมิวิเศษ ผลของการเยี่ยมบ้านต่อการดูแลต่อการดูแลของผู้ป่วยเบาหวาน. วิทยานิพนธ์ปริญญาสาธารณสุขศาสตร์มหาบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, 2539. (อ้างใน อนันต์สอนพวง. ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการมารักษาของผู้ป่วยโรงพยาบาลชุมชน จังหวัดกาญจนบุรี. วิทยานิพนธ์ปริญญาวิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต. สาขาเวชศาสตร์ชุมชน. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย,2541)
12. ทัศนีย์ ระย้า. การประเมินความสามารถของผู้สูงอายุในการดำเนินชีวิต จังหวัดเชียงใหม่. การค้นคว้าแบบอิสระ สาธารณสุขศาสตร์มหาบัณฑิต บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, 2538.(อ้างใน อนันต์ สอนพวง.ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการมารักษาของผู้ป่วยโรงพยาบาลชุมชน จังหวัดกาญจนบุรี. วิทยานิพนธ์ ปริญญาวิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต. สาขาเวชศาสตร์ชุมชน.จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2541)
13. อินทราพร พรหมประการ.ความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้สุขภาพ การสนับสนุนทางสังคมกับพฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้สูงอายุที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานในโรงพยาบาลชุมชน จังหวัดอ่างทอง. วิทยานิพนธ์ปริญญาวิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต. สาขาเอกอนามัยครอบครัว. บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล, 2542.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ลงพิมพ์ในวารสารควบคุมโรค ถือว่าเป็นผลงานทางวิชาการหรือการวิจัย และวิเคราะห์ตลอดจนเป็นความเห็นส่วนตัวของผู้เขียน ไม่ใช่ความเห็นของกรมควบคุมโรค ประเทศไทย หรือกองบรรณาธิการแต่ประการใด ผู้เขียนจำต้องรับผิดชอบต่อบทความของตน


