การควบคุมสุนัขและโรคพิษสุนัขบ้าในพื้นที่เทศบาลนครนครศรีธรรมราช

ผู้แต่ง

  • นพราชย์ อินทองคำ กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม สำนักงานเทศบาลนครนครศรีธรรมราช
  • อิงอร ปรีชาญวินิจ กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม สำนักงานเทศบาลนครนครศรีธรรมราช

คำสำคัญ:

โรคพิษสุนัขบ้า, เทศบาลนครนครศรีธรรมราช

บทคัดย่อ

โรคพิษสุนัขบ้าเป็นโรคไวรัสที่ติดต่อจากสัตว์สู่คน และจัดเป็นปัญหาทางด้านสาธารณสุขที่สำคัญ โดยเชื้อสามารถติดต่อสู่คนได้โดยผ่านทางบาดแผล เช่น การกัด หรือการข่วน และมีระยะฟักตัว ตั้งแต่ 2 สัปดาห์ จนถึง 6 ปี โดยเฉลี่ย 2 - 3 เดือน ขึ้นอยู่กับจำนวนของเชื้อไวรัสและตำแหน่งของบาดแผล ซึ่งสุนัขมักก่อให้เกิดเหตุเดือดร้อนรำคาญ รวมถึงเป็นแหล่งแพร่กระจายของโรคพิษสุนัขบ้า เทศบาลนครนครศรีธรรมราช ตระหนักและให้ความสำคัญกับปัญหาเหล่านี้ จึงได้ดำเนินการจดทะเบียนสุนัขร่วมกับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า เพื่อควบคุมการเลี้ยงสุนัขและมีแหล่งแพร่กระจายโรคพิษสุนัขบ้าน้อยลงจนหมดไปในที่สุด โดยดำเนินการจดทะเบียนสุนัขที่มีอายุตั้งแต่ 4 เดือนขึ้นไป ทำการถ่ายรูปและบันทึกรายละเอียดรูปพรรณสัณฐานของสุนัข หรือรหัสไมโครชิป หรือรหัสเบอร์หู ร่วมกับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2549 ถึง ธันวาคม 2551 เป็นเวลา 30 เดือน สามารถจดทะเบียนสุนัขและฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าได้ 7,921 ตัว โดยเป็นสุนัขมีเจ้าของ 6,113 ตัว และสุนัขจรจัด 1,788 ตัว การดำเนินงานครั้งนี้สามารถจดทะเบียนสุนัขและฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าได้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 80 ของสุนัขที่มีอยู่ในเขตเทศบาล โดยประเมินว่าในเขตเทศบาลมีสุนัขทั้งสิ้น 10,000 ตัว เป็นสุนัขมีเจ้าของ ประมาณ 6,500 ตัว และเป็นสุนัขจรจัด ประมาณ 3,500 ตัว นอกจากนี้ จากการผ่าตัดทำหมันยังสามารถลดการเพิ่มจำนวนสุนัขในเขตเทศบาลได้ ประมาณ 9,000 ตัว แต่ในความเป็นจริง พบว่าจำนวนสุนัขภายในเขตเทศบาลยังไม่ลดลงเท่าที่ควร เนื่องจากมีผู้นำสุนัขที่ไม่ ต้องการมาปล่อยทิ้งอยู่อย่างเดิม ดังนั้นสิ่งสำคัญที่สุดที่สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างยั่งยืน คือความร่วมมือจากภาคประชาชน โดยประชาชนต้องยอมรับว่าโรคพิษสุนัขบ้าและเหตุเดือดร้อนรำคาญจากสุนัขเป็นปัญหา และความรับผิดชอบของทุกคน

Downloads

Download data is not yet available.

เอกสารอ้างอิง

1. World Health Organization. WHO Expert Consultation on Rabies: first report. Geneva, 2004.

2. World Health Organization. Strategies for The Control and Elimination of Rabies in Asia. Geneva, 2001.

3. World Health Organization. Rabies. "WHO recommended standards and strategies for surveillance, prevention and control of communicable diseases".

4. World Health Organization. Rabies vaccines WHO position paper. Weekly epidemiological record.2007; 82: 49/50: 425-436.

5. World Health Organization. Rabies Elimination in South-East Asia. Report of a Workshop Columbo, Sri Lanka, 2005.

6. Puanghat A , Hunsoowan W , Rabies Situation in Thailand J. Med Assoc Thai 2005 ; 88 : 1319 - 1322.

7. World Health Organization. Report of the 3 rd International Symposium on Rabies in Asia. Wuhan, China, 1996.

8. สุเมธ องค์วรรณดี, ประวิทย์ ชุมเกษียร, นราทิพย์ ชุติวงศ์ และ วิโรจน์ ตั้งเจริญเสถียร. ต้นทุน – ผลได้ ของการควบคุมโรคพิษสุนัขบ้าในประเทศไทยโดยเน้นการควบคุมในสุนัข. วารสารวิชาการสาธารณสุข. 2546 ; 12: 6: 937 - 948.

9. นพราชย์ อินทองคำ และ พัชรินทร์ จรจรัส. การลดประชากรสุนัขเพื่อควบคุมโรคพิษสุนัขบ้าในพื้นที่เทศบาลนครนครศรีธรรมราช. วารสารการส่งเสริมสุขภาพ และอนามัยสิ่งแวดล้อม. 2550 ; 30:4:118-125.

10. เทศบาลนครนครศรีธรรมราช. เทศบัญญัติเรื่องการควบคุมการเลี้ยงหรือปล่อยสุนัข พ.ศ. 2549, 2549.

11. Hunsoowan W, Puanghat A. Rabies Control in Thailand J. Med Assoc Thai 2005; 88: 1471-1475.

12. Thepsumethanon V, Wide H, Meslin X F. Six Criteria for Rabies Diagnosis in Living Dogs J. Med Assoc Thai 2005; 88: 419 - 422.

13. Wacharapluesadee S, Hemachudha T. Rabies Diagnosis in Human. J. Med Assoc Thai 2005; 88: 859 - 866.

14. Center for Disease Control and Prevention. Human Rabies Prevention - United States, 2008: Recommendations of the Advisory Committee on Immunization Practices. Morbidity and Mortality Weekly Report. 2008; 57: 1 - 28.

15. World Health Organization. Rabies and Envenomings: A Neglected Public Health Issue. Geneva, 2007.

16. Tepsumethanon V, Wilde H, Hemachudha T. Paradigm Shift in Rabies Control: A System Approach. J. Med Assoc Thai 2004; 87: 1530 - 1538.

17. Beaver B V, Baker M D, Gloster R C et al. A community approach to dog bite prevention. JAVMA.2001; 218:11:1732 - 1749.

18. Hemachudha T, Rabies and dog population control in Thailand: Success or Failure?. J. Med Assoc Thai 2005; 88: 120 -123.

19. World Health Organization. Oral Vaccination of Dogs Against Rabies. Geneva, 2007.

20. Estrada R, Vos A, De Leon R, and Mueller T. Field trial with oral vaccination of dogs against rabies in the Philippines. BMC Infectious Diseases. 2001; 23:1:1471-1477.

21. Corn J L, Mendez J R, and Catalan E E. Evaluation of Baits for Delivery of Oral Rabies Vaccine to Dogs in Guatemala. Am. J. Trop. Med. Hyg. 2003; 69:2: 155 -158.

22. Rupprecht C E, Hanlon C A, Blanton J et al. Oral vaccination of dogs with recombinant rabies virus vaccines. Virus Research. 2005; 111:101-105.

23. จันทรา สิงห์ชัย. บทบาทที่เป็นจริงและความคาดหวังในการแก้ปัญหาสุนัขจรจัดของกรุงเทพมหานคร 2545-2546. วารสารสัตวแพทย์ผู้ประกอบการบำบัดโรคสัตว์แห่งประเทศไทย. 2546 ; 16: 21-30.

24. ปิยพร วัฒนาภิรมย์, วิรดา วิริยกิจ, อุมาพร พันธุ์ศิริ, ปิยะนุช ประเสริฐเมฆ และสันนิภา สุรทัตต์. การศึกษาเปรียบเทียบผลการตรวจระดับแอนติบอดี้ต่อโรคพิษสุนัขบ้า โดยวิธี enzyme – linked immunosorbent assay (ELISA) กับวิธีมาตรฐาน Rapid Fluorescent Focus Inhibition Test (RFFIT) ในสุนัขไทย. ประมวลเรื่องการประชุมวิชาการทางสัตวแพทย์และการเลี้ยงสัตว์ ครั้งที่ 33. 2550 : 1-2.

25. อรนาถ วัฒนวงษ์ และ พรพิทักษ์ พันธ์หล้า. การศึกษาระดับภูมิคุ้มกันโรคพิษสุนัขบ้าในสุนัขในพื้นที่ท่องเที่ยว เกาะช้าง จังหวัดตราด ปี 2547. วารสารควบคุมโรค. 2547; 30: 4: 389 - 393.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

31-03-2009

รูปแบบการอ้างอิง

1.
อินทองคำ น, ปรีชาญวินิจ อ. การควบคุมสุนัขและโรคพิษสุนัขบ้าในพื้นที่เทศบาลนครนครศรีธรรมราช. Dis Control J [อินเทอร์เน็ต]. 31 มีนาคม 2009 [อ้างถึง 28 ธันวาคม 2025];35(1):58-65. available at: https://he01.tci-thaijo.org/index.php/DCJ/article/view/155904

ฉบับ

ประเภทบทความ

นิพนธ์ต้นฉบับ