ความรู้และพฤติกรรมของผู้ดูแลเด็กในการป้องกันโรคอุจจาระร่วงในเด็ก
คำสำคัญ:
ความรู้และพฤติกรรมของผู้ดูแลเด็ก, โรคอุจจาระร่วงในเด็กบทคัดย่อ
การวิจัยเชิงสำรวจนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความรู้ พฤติกรรมของผู้ดูแลเด็ก และปัจจัยอื่นที่มีความสัมพันธ์กับการป่วยด้วยโรคอุจจาระร่วงในเด็ก กลุ่มตัวอย่างเป็นเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปี ในชุมชนที่ได้จากการสุ่มแบบหลายขั้นตอน 12 เขตในประเทศไทย จำนวน 13,383 คน เก็บรวบรวมข้อมูลโดยการสัมภาษณ์ผู้ดูแลเด็ก ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม ถึง 30 เมษายน 2548 วิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์ การถดถอยโลจีสติก ผลการศึกษาพบว่าเด็กที่อยู่กับผู้ดูแลเด็กที่อยู่ในเขตเทศบาล มีโอกาสที่จะป่วยด้วยอุจจาระร่วงมากกว่าเด็กที่อยู่กับผู้ดูแลเด็กที่อยู่นอกเขตเทศบาล 1.57 เท่า (p = 0.004, 95%CI = 1.160-2.125) เด็กที่กินนมแม่ โอกาสที่จะป่วยด้วยโรคอุจจาระร่วงลดลงร้อยละ 40.3 (p = 0.001, 95%CI = 0.449-0.791) บ้านที่มีส้วมโอกาสที่จะป่วยด้วยโรคอุจจาระร่วงลดลง ร้อยละ 64.5 (p = 0.019, 95%CI = 0.149-0.846) ผู้ดูแลเด็กมีความรู้เบื้องต้นในการดูแลเด็กป่วยที่บ้านตามกฎ 3 ข้อได้ถูกต้องครบถ้วน เพียงร้อยละ 9.5 กฎ 3 ข้อได้แก่ 1) การให้สารน้ำทดแทนในปริมาณที่เพิ่มขึ้น ป้องกันภาวะขาดน้ำ 2) การให้อาหารอย่างต่อเนื่องในระหว่างป่วย ป้องกันขาดสารอาหาร และ 3) อาการบ่งชี้อันตรายที่ควรพาผู้ป่วยไปรักษาที่สถานพยาบาล เช่น อาการไม่ดีขึ้นใน 3 วัน อุจจาระเหลวเป็นน้ำจำนวนมาก และไข้สูงหรือป่วยหนัก ข้อค้นพบนี้บ่งชี้ว่าควรเร่งดำเนินงานด้านสุขศึกษา ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้เรื่องการดูแลรักษาโรคอุจจาระร่วงเบื้องต้นกับผู้ดูแลเด็ก และส่งเสริมให้เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ตลอดจนการปรับปรุงสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม ส้วม
Downloads
เอกสารอ้างอิง
2. สำนักระบาดวิทยา กระทรวงสาธารณสุข. สรุปรายงานการเฝ้าระวังโรค 2547. กรุงเทพมหานคร: องค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์, 2547.
3. จุฑารัตน์ ถาวรนันท์, ฐิติมา วงศาโรจน์, อุดมศักดิ์ อิ่มสว่าง. การสำรวจพฤติกรรมและการรักษาโรคอุจจาระร่วงในกลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ที่ระดับชุมชนในประเทศไทย. วารสารโรคติดต่อ2540; 23: 215-224.
4. ศูนย์ประสานงานทางวิชาการโรคติดต่อ กรมควบคุมโรคติดต่อ. แผนการป้องกันควบคุมโรคติดต่อในแผนพัฒนาการสาธารณสุข ฉบับที่ 8. โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.2540.
5. กองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรคติดต่อ. การประเมินผลการควบคุมโรคอุจจาระร่วงในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ที่ระดับชุมชนของจังหวัดปทุมธานี. เอกสารประกอบการประชุมเชิงปฏิบัติการ โครงการประเมินผล การดำเนินงานในชุมชนของการควบคุมโรคอุจจาระร่วง และโรคติดเชื้อเฉียบพลันระบบหายใจในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี, 2542.
6. วันดี วราวิทย์ และนฤมล สวรรค์ปัญญาเลิศ. การรักษาด้วยสารน้ำ. สำนักพัฒนาวิชาการแพทย์ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข. พิมพ์ครั้งที่ 1.บริษัท บียอนด์ เอ็นเทอร์ไพรซ์ จำกัด. 2551.
7. ไพทูล อนุดิษย์ และคณะ. ปัจจัยที่มีผลต่อการป่วยด้วยโรคอุจจาระร่วงของเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ในจังหวัดอุทัยธานี. สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุทัยธานี, 2542.
8. พิมพ์พรรณ ศิลปสุวรรณ และคณะ. การพัฒนาแบบแผนการดูแลที่บ้าน สำหรับเด็กอายุแรกเกิดถึง 4 ปี ป่วยด้วยโรคอุจจาระร่วงเฉียบพลันในเขตเมือง, 2538.
9. ปรางค์ทอง ราษฎร์จำเริญสุข และเอมอร ราษฎร์จำเริญสุข. ปัจจัยเสี่ยงในการเกิดโรคอุจจาระร่วงของเด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี ในพื้นที่สาธารณสุขเขต 6. วารสารโรคติดต่อ 2541; 24: 501-507.
10. สวรรยา คงเปี้ยว และคณะ. การพัฒนาพฤติกรรมการป้องกันและรักษาโรคอุจจาระร่วงในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ของผู้ดูแลเด็กเขตการพัฒนาสาธารณสุขที่ 8. รวบรวมบทคัดย่อสัมมนาการป้องกันควบคุมโรคติดต่อระดับชาติ ประจำปี 2543 "กรมควบคุมโรคติดต่อยุคไร้พรมแดน" 6-8 กันยายน 2543.
11. กาญจนา พันธุเตชะ. ประสิทธิผลของรูปแบบการให้สุขศึกษาต่อการเปลี่ยนแปลงความรู้ ความเชื่อ และพฤติกรรมการป้องกันโรคของมารดาเกี่ยวกับโรคอุจจาระร่วงในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี วิทยานิพนธ์ปริญญาโท. มหาวิทยาลัย, กรุงเทพมหานคร, 2534.
12. กาญจนาพันธ์ สมหอม, เกศรา สิริมูล. การสำรวจพฤติกรรมและการรักษาโรคอุจจาระร่วงในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ที่ระดับชุมชนของจังหวัดนครพนม ปี 2538. วารสารสำนักงานควบคุมโรคติดต่อเขต 7. 2540; 10.
13. Sutra S., Srisontisuk S., Panpurk W., Sutra P., Chirawatkul A., Sanongchart N., Kosuwon P. The pattern of diarrhea in children in Khon Kaen northeastern Thailand. 9th workshop on promotion of ORT and health behavior. 1990. Mahidol University, Ministry of Public Health, UNICEF.
14. พรพันธุ์ บุณยรัตพันธุ์. พฤติกรรมอนามัยกับโรคอุจจาระร่วง "ปัจจัยเสี่ยงและแนวทางการแก้ปัญหา" การประชุมปฏิบัติการโรคอุจจาระร่วง ครั้งที่ 6 วันที่ 15-17 เมษายน 2530 ณ ห้องประชุมจงจินต์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล, 2530.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ลงพิมพ์ในวารสารควบคุมโรค ถือว่าเป็นผลงานทางวิชาการหรือการวิจัย และวิเคราะห์ตลอดจนเป็นความเห็นส่วนตัวของผู้เขียน ไม่ใช่ความเห็นของกรมควบคุมโรค ประเทศไทย หรือกองบรรณาธิการแต่ประการใด ผู้เขียนจำต้องรับผิดชอบต่อบทความของตน


