การป้องกันควบคุมโรคไม่ติดต่อโดยยึดชุมชนเป็นฐานในประเทศไทย (พ.ศ. 2547-2552)

ผู้แต่ง

  • เพชราภรณ์ สมบูรณ์บูรณะ สำนักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค

คำสำคัญ:

โรคไม่ติดต่อ, ฐานชุมชน

บทคัดย่อ

การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อทบทวนการป้องกันควบคุมโรคไม่ติดต่อโดยยึดชุมชนเป็นฐานของสำนักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค ร่วมกับเครือข่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ในช่วงปี พ.ศ. 2547-2552 มีการทบทวนข้อมูลจากเอกสารหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องและวิเคราะห์โดยใช้แนวคิดและบทเรียนจากประสบการณ์การดำเนินงานของต่างประเทศ ผลจากการศึกษาพบว่า การป้องกันควบคุมโรคไม่ติดต่อโดยยึดชุมชนเป็นฐานของไทยในช่วงปี พ.ศ. 2547-2552 ทำให้ 1) ประชาชนกลุ่มเป้าหมายมีโอกาสเข้าถึงและได้รับบริการคัดกรองโรคและปัจจัยเสี่ยง รวมทั้งได้รับความรู้และแนวปฏิบัติเพื่อป้องกันการเกิดโรคไม่ติดต่อมากขึ้น 2) ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ได้รับทราบนโยบาย เป้าหมาย และแนวทางการดำเนินงาน มีส่วนร่วมในการพัฒนารูปแบบ วางแผนการดำเนินงานปรับกระบวนทัศน์ เน้นป้องกันเชิงรุก และนำสู่การปฏิบัติที่สอดคล้องกับปัญหาและบริบทของพื้นที่มากขึ้น 3) มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ประสบการณ์การดำเนินงานในระดับชุมชนทุกภูมิภาคของประเทศ 4) การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมาย ในชุมชนยังไม่สามารถวัดได้อย่างชัดเจน เนื่องจากการดำเนินงานในแต่ละปีมีระยะเวลาน้อยเกินไป เมื่อพิจารณา เปรียบเทียบกับการป้องกันควบคุมโรคไม่ติดต่อ โดยยึดชุมชนเป็นฐานของต่างประเทศ พบว่า มีความแตกต่างกัน ในด้าน 1) กระบวนการออกแบบและพัฒนาโครงการ 2) ระดับการมีส่วนร่วมของเครือข่ายการดำเนินงาน 3) ความต่อเนื่องเชื่อมโยงและระยะเวลาในการดำเนินงาน และ 4) ระบบการติดตามประเมินผล พบว่าทุกประเด็นในต่างประเทศ มีระดับความเข้มข้นและต่อเนื่องมากกว่า จึงมีข้อเสนอแนะว่า ลำดับความสำคัญของการป้องกันควบคุมโรคไม่ติดต่อให้เป็นวาระสำคัญที่มีนโยบายและแผนงานรองรับในระดับชุมชน มีการพัฒนารูปแบบความร่วมมือของเครือข่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งในระดับประเทศและท้องถิ่นให้มีความเข้มข้นมากขึ้น รวมทั้งมีปรับระยะเวลาและรูปแบบกิจกรรมให้เหมาะสมกับสถานการณ์ และบริบทของแต่ละพื้นที่ สอดคล้องกับวิถีชีวิตและปฏิทินชุมชน นอกจากนี้สนับสนุนการศึกษา พัฒนาจากงานประจำ (Routine to Research ) รวมทั้งพัฒนาระบบสารสนเทศและการติดตามประเมินผลเพื่อพัฒนารูปแบบการดำเนินงานต่อไป

Downloads

Download data is not yet available.

เอกสารอ้างอิง

1. วิชัย เอกพลากร. บรรณาธิการ. การสำรวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกาย ครั้งที่ 4 ในปี 2551-2552. นนทบุรี: บริษัทเดอะกราฟิโกซิสเต็มส์ จากัด, 2553.

2. เยาวรัตน์ ปรปักษ์ขาม, พรพันธุ์ บุญรัตพันธุ์, บรรณาธิการ. การสำรวจสภาวะสุขภาพอนามัยของประชาชนไทย โดยการตรวจร่างกาย ครั้งที่ 3 พ.ศ. 2546 - 2547. นนทบุรี: สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข; 2549.

3. World Health Organization. Preventing chronic diseases: a vital investment: WHO global report. WHO Press, World Health Organization, Geneva, Switzerland, 2005.

4. Nissinen A, Berrios X, Puska P. Communitybased Noncommunicable Disease Interventions: lessions from developed countries for developing ones. Bulletin of the World Health Organization. 2001; 79(10): 963-970.

5. Alwan A. Noncommunicable diseases: a major challenge to public health in the Region Eastern Mediterranean Health Journal. 1997; 3(1): 6-16.

6. Merzel C. and D'Afflitti J. Reconsidering community-based health promotion: promise, performance, and potential. Am J Public Health. 2003; 93: 557-574.

7. Brownson R.C., Baker E.A. and Novick L.F. Community-Based Prevention: Programs that Work. Gaithersburg, Maryland: Aspen Publishers, Inc. 1999.

8. Puska P. Successful prevention of non-communicable diseases: 25 year experiences with North Karelia Project in Finland. Public Health Medicine. 2002; 4(1): 5-7.

9. Fortmann SP, Williams PT, Hulley SB, Haskell WL, Farquhar JW. Effect of health education on dietary behavior: the Stanford three community study. Am. J. Clin. Nutr. 1981;34:2030-38.

10. Farquhar JW, Fortmann SP, Maccoby N, et al. The Stanford Five-City Project: design and methods. Am J Epidemiol. 1985; 122: 323-334.

11. Fortmann SP., Flora JA., Winkleby MA., Schooler C, Baylor C.B, Farquhar JW. Community Intervention Trials: Reflections on the Stanford Five-City Project Experience. American Journal of Epidemiology. 1995; 142(6): 576-587.

12. Luepker RV, Murray DM, Jacobs-DR Jr, et al. Community education for cardiovascular disease prevention: risk factor changes in the Minnesota Heart Health Program. Am J Public Health. 1994; 84: 1383-93.

13. Carleton RA, Lasater TM, Assaf AR, Feldman HA, McKinlay S. The Pawtucket Heart Health Program: community changes in cardiovascular risk factors and projected disease risk. Am J Public Health. 1995; 85: 777-85.

14. Mittelmark MB, Hunt MK, Heath GW, Schmid TL. Realistic outcomes: lessons from community-based research and demonstration programs for the prevention of cardiovascular diseases. J Public Health Policy. 1993 Winter; 14(4): 437-62.

15. Schooler C., et al. Synthesis of findings and issues from community prevention trials. Annals of Epidemiology, 1997; S7: S54-S68.

16. Sorensen G, Emmons K, Hunt MK, Johnston D. Implications of the results of community intervention trials. Annu Rev Public Health. 1998; 19: 379-416.

17. Slater MD, Flora JA. Health lifestyles: audience segmentation analysis for public health interventions. Health Educ Q. 1991; Summer: 221-233.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

30-06-2011

รูปแบบการอ้างอิง

1.
สมบูรณ์บูรณะ เ. การป้องกันควบคุมโรคไม่ติดต่อโดยยึดชุมชนเป็นฐานในประเทศไทย (พ.ศ. 2547-2552). Dis Control J [อินเทอร์เน็ต]. 30 มิถุนายน 2011 [อ้างถึง 27 ธันวาคม 2025];37(2):83-92. available at: https://he01.tci-thaijo.org/index.php/DCJ/article/view/155498

ฉบับ

ประเภทบทความ

นิพนธ์ต้นฉบับ