การพัฒนาเครือข่ายห้องปฏิบัติการตรวจวิเคราะห์เชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิด A (H1N1) ตามเกณฑ์มาตรฐานกระทรวงสาธารณสุขปี 2553
คำสำคัญ:
เชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิด A (H1N1), การพัฒนาเครือข่ายห้องปฏิบัติการบทคัดย่อ
จากสถานการณ์การระบาดของเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิด A (H1N1) ครั้งแรกในประเทศไทย ปี2552 กระทรวงสาธารณสุข จึงมีนโยบาย ส่งเสริม สนับสนุนห้องปฏิบัติการชันสูตรสาธารณสุข ดำเนินการให้บริการตรวจวินิจฉัยโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ ด้วยเทคนิคทางอณูชีววิทยา โดยกำหนดเป็นตัวชี้วัดตามคำรับรองการปฏิบัติราชการของกระทรวง/กลุ่มภารกิจฯ ปีงบประมาณ 2553 การดำเนินการจึงเป็นการศึกษาเชิงวิจัยและพัฒนา เพื่อให้ได้ระบบงานที่เหมาะสมในการพัฒนาเครือข่ายห้องปฏิบัติการตรวจวิเคราะห์เชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ ตามเกณฑ์มาตรฐานกระทรวงสาธารณสุขปี 2553 ประกอบด้วย 2 กระบวนการใหญ่ คือการพัฒนาห้องปฏิบัติการชันสูตรสาธารณสุข และการรับรองห้องปฏิบัติการ จากผลการจัดทำระบบงานดังกล่าวพบว่าห้องปฏิบัติการภาครัฐและเอกชนที่ได้รับการรับรองมาตรฐานตามเกณฑ์มาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุขมีจำนวน 5 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา โรงพยาบาลราชบุรี โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานีโรงพยาบาลขอนแก่น และบริษัท กรุงเทพ อาร์ไอเอ แล็บ จำกัด รวมทั้งได้แนวทางที่จะใช้สนับสนุนการดำเนินงานและขยายผลไปสู่ห้องปฏิบัติการภาครัฐและเอกชนอื่นดำเนินการในปีงบประมาณต่อไป
Downloads
เอกสารอ้างอิง
2. กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข.มาตรฐานการปฏิบัติงานตรวจวิเคราะห์เชื้ อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิด A (H1N1)
ทางห้องปฏิบัติการชันสูตรสาธารณสุข (MOPHDMSc-CL01). พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพมหานคร:บริษัท พ.ศ.พัฒนา ออนไลน์ จำกัด; 2553.
3. สำนักมาตรฐานห้องปฏิบัติการ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์. รายงานการดำเนินการมาตรฐานการปฏิบัติงานตรวจวิเคราะห์เชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เพื่อบรรลุตัวชี้วัดกลุ่มภารกิจด้านสนับสนุนงานบริการสุขภาพ ปีงบประมาณ 2553. พิมพ์ครั้งที่ 3; 2553.
4. ผ่องพรรณ ตรัยมงคลกูล และสุภาพ ฉัตราภรณ์. การออกแบบการวิจัย. พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพมหานคร: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์; 2543.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ลงพิมพ์ในวารสารควบคุมโรค ถือว่าเป็นผลงานทางวิชาการหรือการวิจัย และวิเคราะห์ตลอดจนเป็นความเห็นส่วนตัวของผู้เขียน ไม่ใช่ความเห็นของกรมควบคุมโรค ประเทศไทย หรือกองบรรณาธิการแต่ประการใด ผู้เขียนจำต้องรับผิดชอบต่อบทความของตน


