การเฝ้าระวังการระบาดของเชื้อเอชไอวีดื้อยาในประเทศไทย 2553

ผู้แต่ง

  • สุรพล เกาะเรียนอุดม การเฝ้าระวังการระบาดของเชื้อเอชไอวีดื้อยาในประเทศไทย 2553

คำสำคัญ:

การเฝ้าระวัง, การดื้อยา, ยาต้านไวรัส

บทคัดย่อ

การเฝ้าระวังการระบาดของเชื้อเอชไอวีดื้อยาในการศึกษาครั้งนี้ ได้ศึกษาจากกลุ่มผู้ป่วยเอดส์/ผู้ติดเชื้เอชไอวี ที่กินยาต้านไวรัสนานมากกว่า 6 เดือน และ ที่ไม่ได้กินยาต้านไวรัส จาก 18 จังหวัด จากทุกภาคของ ประเทศไทย รวมทั้งสิ้น 493 ราย ผู้ป่วยที่กินยาต้านไวรัสส่วนใหญ่กินยาสูตร GPO-VIR ร้อยละ 49.0 เมื่อทำการตรวจหา ปริมาณไวรัสในตัวอย่างพลาสมาของผู้ป่วยเอดส์/ผู้ติดเชื้อเอชไอวี 493 ราย พบว่า ผู้ป่วยที่กินยาต้านไวรัส 7 ราย และผู้ป่วยที่ไม่ได้กินยาต้านไวรัส 160 ราย มีปริมาณไวรัสในพลาสมา > 1,000 copies/ml และตรวจหาการดื้อยาต้านไวรัสต่อไป ในกลุ่มผู้ป่วยที่กินยาต้านไวรัส 6 ราย ตรวจพบการดื้อยาต้านไวรัสในกลุ่ม NRTIs เฉพาะต่อยา 3TC (และ FTC) จำนวน 4 ราย ส่วนการดื้อยาต้านไวรัสในกลุ่ม NNRTIs พบการดื้อต่อยา NVP 6 รายและ EFV 2 ราย แต่ตรวจไม่พบการดื้อยาต้านไวรัสในกลุ่ม PIs ในกลุ่มผู้ป่วยที่ไม่ได้กินยาต้านไวรัส มี 8 รายที่ตรวจไม่พบการดื้อยาต้านไวรัสในกลุ่ม NRTIs แต่พบการดื้อยาต้านไวรัสในกลุ่ม NNRTIs 5 ราย โดยดื้อต่อยาNVP 5 ราย และ EFV 2 ราย และตรวจพบการดื้อยาต้านไวรัสในกลุ่ม PIs ในผู้ป่วย 3 ราย โดยดื้อต่อยา IDV และAPV/FPV การเฝ้าระวังการระบาดของเชื้อเอชไอวีดื้อยาต้านไวรัสครั้งนี้ พบว่ากลุ่มผู้ป่วยเอดส์/ผู้ติดเชื้อเอชไอวี ที่รักษาด้วยยาต้านไวรัสมีอัตราการดื้อต่อยาต้านไวรัสกลุ่ม NRTIs และ/หรือ NNRTIs เฉลี่ย ร้อยละ 2.0 (6/292) โดยกลุ่มผู้ป่วยที่กินยาต้านไวรัสนาน > 6 เดือน - 1 ปี มีอัตราการดื้อยาต้านไวรัสสูงสุด ร้อยละ 3.4 (2/58) สำหรับ กลุ่มผู้ป่วยที่ไม่ได้รักษาด้วยยาต้านไวรัส พบอัตราการดื้อต่อยาต้านไวรัสสูง ร้อยละ 4.3 (8/183) โดยมีการดื้อ ต่อยาต้านไวรัสในกลุ่ม NRTIs หรือ PIs และโดยรวมแล้วกลุ่มผู้ป่วยเอดส์/ผู้ติดเชื้อเอชไอวีทั้งหมด ตรวจพบอัตราการดื้อยาต้านไวรัสเฉลี่ย ร้อยละ 2.9 (14/475)

Downloads

Download data is not yet available.

เอกสารอ้างอิง

1. กลุ่มโรคเอดส์ สำนักโรคเอดส์ วัณโรคและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์. วิเคราะห์สถานการณ์โรคเอดส์ในประเทศไทย (รายงาน ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2553). http://www.aidsthai.org/uploads/files/123.pdf

2. Thailand. Department of Disease Control. Thailand National Antiretroviral Treatment Guideline
2006-2007. Bangkok: The Agricultural Co-operative Federation of Thailand. 2009

3. Cohen J. Thailand do-it-yourself therapy. Science 2003; 301: 1662.

4. Schechter M, Suely Hiromi Tuboi SH. Discordantimmunological and virological responses to
antiretroviral therapy. J Antimicrob Chemother 2006; 58: 506-10.

5. Sutthent R, Arworn D, Surapol Kaoriangudom S,et al. HIV-1 drug resistance in Thailand: Before
and after National Access to AntiretroviralProgram. J Clin Virol 2005; 34: 272-6.

6. Sukasem C, Churdboonchart V, Chasombat S,et al. Surveillance of genotypic resistance mu252
Disease Control Journal Vol 37 No. 4 Oct - Dec 2011 Surveillance of HIV-1 Antiretroviral Drug Resistant Strains in Thailand tations in chronic HIV-1 treated individuals after completion of the National Access to Antiretroviral Program in Thailand. Infection 2007; 35: 81-8.

7. วสันต์ จันทราทิตย์. บทที่ 3 การระบาดของเชื้อเอชไอวี และการติดตามอุบัติการณ์การเกิดเชื้อดื้อยาต้านไวรัสในประเทศไทย ด้วยเทคนิคอณูชีววิทยาและชีวสารสนเทศ. ในการเพิ่มประสิทธิภาพการรักษา ผู้ติดเชื้อเอชไอวีด้วยเทคโนโลยีอณูชีววิทยาชีวสารสนเทศ และเภสัชพันธุศาสตร์. บริษัท กราฟฟิค ฮัท จำกัด 2550.

8. ศักดิ์ชัย เดชตรัยรัตน์. รายงานเรื่อง การเฝ้าระวังการดื้อยาต้านไวรัสของ เชื้อเอชไอวีในกลุ่มผู้รับประทานยาต้านไวรัสในประเทศไทย. เสนอต่อสำนักโรคเอดส์ วัณโรค และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. 1 กุมภาพันธ์ 2551.

9. Apisarnthanarak A and Mundy LM. Antiretroviral Drug Resistance amongAntiretroviral-Naive Individuals with HIV Infection of Unknown Duration in Thailand. Clin
Infect Dis 2008; 46: 1629-30

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

30-12-2011

รูปแบบการอ้างอิง

1.
เกาะเรียนอุดม ส. การเฝ้าระวังการระบาดของเชื้อเอชไอวีดื้อยาในประเทศไทย 2553. Dis Control J [อินเทอร์เน็ต]. 30 ธันวาคม 2011 [อ้างถึง 27 ธันวาคม 2025];37(4):243-52. available at: https://he01.tci-thaijo.org/index.php/DCJ/article/view/155440

ฉบับ

ประเภทบทความ

นิพนธ์ต้นฉบับ