วัณโรคดื้อยาหลายขนานในผู้ป่วยที่มารับบริการในคลินิกวัณโรค โรงพยาบาลศรีสะเกษ ปี 2549 -2553
คำสำคัญ:
วัณโรคดื้อยาหลายขนาน, คลินิกวัณโรค, โรงพยาบาลศรีสะเกษบทคัดย่อ
การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อทราบจำนวน ความชุก ผลการรักษาวัณโรคดื้อยาหลายขนานและชนิดของยาที่ดื้อ เป็นการศึกษาแบบย้อนหลัง (retrospective study) ในกลุ่มประชากรผู้ป่วยดื้อยาวัณโรคหลายขนาน(MDR-TB) ที่ขึ้นทะเบียนและสรุปผลการรักษาในคลินิกวัณโรค โรงพยาบาลศรีสะเกษ ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2549 ถึง 30 กันยายน พ.ศ. 2553 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ คือ สถิติเชิงพรรณนา (descriptive statistic) ผลการศึกษาพบผู้ป่วยวัณโรคดื้อยาที่ขึ้นทะเบียนรักษาในช่วงเวลาทั้งหมด 38 ราย เป็นเพศชาย ร้อยละ 66 อายุเฉลี่ย44.8 ปี เป็นผู้ป่วยที่ไม่มีการติดเชื้อ HIV ร่วมด้วยร้อยละ 97.4 มีภูมิลำเนาต่างอำเภอ ร้อยละ 81.6 อัตราความชุกของโรค MDR-TB ในกลุ่มผู้ป่วยใหม่เป็นร้อยละ 0.19 และอัตราความชุกของโรค MDR-TB ในผู้ป่วยเก่าที่เคยได้รับยาต้านวัณโรคมาก่อนเป็นร้อยละ 7.01 ผลการทดสอบการดื้อยา พบเชื้อดื้อต่อยา INH และ RFP มากที่สุด จำนวน 35 ราย คิดเป็นร้อยละ 92.1 รองลงมาคือดื้อต่อยา Streptomycin จำนวน 22 ราย คิดเป็นร้อยละ 57.9 และดื้อต่อยา ETB จำนวน 16 ราย คิดเป็นร้อยละ 42.1 ผลการทดสอบการดื้อยา PZA และ Ofloxacin มีเพียง 1 ราย มีผลการรักษาหายขาด รวม 29 ราย คิดเป็นร้อยละ 76.3 เสียชีวิต 5 ราย ร้อยละ 13.1กำลังรักษา 3 ราย ร้อยละ 7.9 และโอนออก 1 ราย ร้อยละ 2.6 คิดเป็นอัตราการเสียชีวิต เป็นร้อยละ 13.1 ซึ่งไม่สูงมากนัก แต่ในอนาคตหากยังไม่ควบคุมและลดจำนวนวัณโรคดื้อยา มีแนวโน้มจะทำให้เกิดการดื้อยาชนิดรุนแรง (Extensively Drug Resistance Tuberculosis: XDR-TB) การรักษาจะยากและแพงมากรวมถึงผลการรักษาที่มีโอกาสรอดชีวิตน้อยมาก
Downloads
เอกสารอ้างอิง
2. กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. แนวทางการดำเนินงานควบคุมวัณโรคแห่งชาติ. พิมพ์ครั้งที่ 1.
(ฉบับปรับปรุง) กรุงเทพฯ โรงพิมพ์สำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติ, 2548.
3. Payanandana V, Rienthong D, Rienthong S,Ratanavichit L, Kim SJ, Sawert H. Surveillancefor antituberculosis drug resistance in Thailand: result from national survey. Thai J Tuberc Chest Dis. 2000; 21: 1-8.
4. กองวัณโรค. ผลการเฝ้าระวังเชื้อวัณโรคดื้อยา ครั้งที่สอง. 2545.
5. คลินิกวัณโรค โรงพยาบาลศรีสะเกษ. รายงานผลการรักษาผู้ป่วยวัณโรคดื้อยา ปี 2548- 2553.
6. World Health Organization. Global tuberculosisControl 2009 Epidemiology strategy Financing.Geneva, Switzerland. 2009: p40.
7. World Health Organization, Tuberculosis Control in the Western Pacific Region, WHO Report 2008.Geneva: World Health Organization Document,2008.
8. http://wh qlibd oc.wh o.int/ hq/20 08/WHO_HTM_TB_2008.394_eng.pdf
9. O'Donnell MR, Padayatchi N, Master I, OsburnG, Horsburgh CR. Improved early results for patients with extensively drug-resistant tuberculosis and HIV in South Africa. Int J Tuberc Lung Dis. 2009; 13(7): 855-61.
10. Cox H, Kalon S, Allamuratova S, et al, Multidrugresistant Tuberculosis Treatment Ooutcomes in Karakalpakstan, Uzbedistan: Treatment Complexity and XDR-TB among Treatment Failures, PLoS ONEE, 2007. 2(11):p. e1126.
11. van Rie A, Warren R, Richardson N, et al, Classification of drug-resistant tuberculosis in an epidemic area. Lancet. 2000; 356: 22-25.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ลงพิมพ์ในวารสารควบคุมโรค ถือว่าเป็นผลงานทางวิชาการหรือการวิจัย และวิเคราะห์ตลอดจนเป็นความเห็นส่วนตัวของผู้เขียน ไม่ใช่ความเห็นของกรมควบคุมโรค ประเทศไทย หรือกองบรรณาธิการแต่ประการใด ผู้เขียนจำต้องรับผิดชอบต่อบทความของตน


