ทัศนคติ ความคิดเห็นเกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้เรื่องเอดส์ เพศศึกษา และทักษะชีวิตสำหรับเยาวชนในสถานศึกษา
คำสำคัญ:
เอดส์, เพศศึกษา, เยาวชนในสถานศึกษาบทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้เพื่อเปรียบเทียบความรู้ ความเข้าใจ ทัศนคติ และความคิดเห็นในเรื่องเอดส์ เพศศึกษา และทักษะชีวิตของผู้เข้ารับการอบรมในเรื่องเอดส์ เพศศึกษา และทักษะชีวิต เพื่อนำมาเป็นแนวทางในการพัฒนาการจัดเนื้อหา/องค์ความรู้ในหลักสูตรการอบรมเรื่องเอดส์ เพศศึกษา และทักษะชีวิต เก็บข้อมูลโดยใช้แบบประเมินก่อนและหลังการอบรม กลุ่มเป้าหมาย คือ เจ้าหน้าที่เขตพื้นที่การศึกษา เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันควบคุมโรค สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ศูนย์อนามัย และศูนย์สุขภาพจิต เก็บข้อมูลก่อนการอบรม จำนวน 239 คน และเก็บข้อมูลหลังการอบรม จำนวน 212 คน ผลการประเมินพบว่า ความรู้ ความเข้าใจในเรื่องเอดส์ เพศศึกษา และทักษะชีวิต มีคะแนนอยู่ในระดับสูง เพิ่มจากร้อยละ 48.54 เป็นร้อยละ 74.53 ความต้องการด้านความรู้ของผู้เข้ารับการอบรมมากที่สุดคือ อนามัยการเจริญพันธุ์ ร้อยละ 21.97 รองลงมาคือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ร้อยละ 20.20 ท้องและแท้ง ร้อยละ 19.32 ตามลำดับ การสอนเพศศึกษาให้ได้ 16 ชั่วโมงต่อปีการศึกษา เป็นเรื่องที่สามารถทำได้เพิ่มเป็นร้อยละ 93.85 เพราะสามารถบูรณาการในหลักสูตรได้ เป็นนโยบายของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และเป็นประโยชน์ต่อนักเรียน ตามลำดับ และกลุ่มที่ทำไม่ได้ เพราะมีภาระงานมาก ขาดบุคลากร นโยบายไม่ชัดเจน ขาดงบประมาณ ตามลำดับ สถานศึกษา/หน่วยงานส่วนใหญ่ มีการเรียนการสอน การอบรมในเรื่องโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ รวมทั้งเอดส์มากที่สุด สรุปปัญหาที่พบในการสอนนักเรียนหรือวัยรุ่นในเรื่องเอดส์ เพศศึกษา หรือทักษะชีวิต เกิดจากเนื้อหาหลักสูตรมาก ขาดกิจกรรมที่จะช่วยสร้างเสริมความเข้าใจ รองลงมา ปัญหาเกิดจากด้านผู้สอน เช่น ผู้สอนขาดทักษะในการสอน ขาดความรู้และข้อมูล เป็นต้น และด้านนโยบาย เช่น นโยบายของกระทรวงฯ ไม่ชัดเจน ผู้บริหารไม่ให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง
Downloads
เอกสารอ้างอิง
2. สำนักโรคเอดส์ วัณโรค และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์. รายงานผลการดำเนินงาน ปี 2554. พิมพ์ครั้งที่ 1.โรงพิมพ์องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ในพระบรมราชูปถัมภ์. กรุงเทพมหานคร,2555
3. สำนักงานบริหารโครงการกองทุนโลก. โครงการวิจัยประเมินโครงการสนับสนุนการป้องกัน และการดูแลรักษาระดับประเทศด้านเอดส์ที่ได้รับจากกองทุนโลก รอบที่ 1 และรอบที่ 2 .โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด. กรุงเทพมหานคร, 2550.
4. คณะกรรมกรรมแห่งชาติว่าด้วยการป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์. รายงานความก้าวหน้าระดับประเทศ ตามปฏิญญาว่าด้วยพันธกรณีเรื่องเอชไอวี/เอดส์. พิมพ์ครั้งที่ 2 โรงพิมพ์สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ.บริษัทเฟื่องฟ้าพริ้นติ้ง จำกัด. จังหวัดปทุมธานี,2552
5. องค์การแพธ.โครงการ "ก้าวย่างอย่างมั่นใจ" คู่มือฝึกอบรมผู้จัดการเรียนรู้เพศศึกษาแบบรอบด้าน. กรุงเทพฯ : องค์การแพธ (Path) ภายใต้การสนับสนุนของกองทุนโลก กระทรวงสาธารณสุข. บริษัทเออร์เจนท์ แทค จำกัด.กรุงเทพมหานคร, 2553
6. เบญจพร ปัญญายง. การทบทวนองค์ความรู้: การตั้งครรภ์ในวัยรุ่น. สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ. พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพมหานคร,2554
7. IPPF European Network. A reference guide to policies and practices: The SAFE project.2006 Available from http:// www.ippfen.org(12 April 2010)
8. SantelliJ, Ott MA, Lyon M, Rogers J, Summers D, Schleifer R, Abstinence and abstinence-only education: a review of U.S. polices and programs. J Adolesc Health. 2006; 38(1): 72-81
9. นุชนารถ แก้วดำเกิง และชีวนันท์ เลิศพิริยสุวัฒน์. นโยบายกับแนวทางการพัฒนาการเรียนการสอนเรื่องเอดส์และเพศศึกษา วารสารกรมควบคุมโรค. 2553; 36: 90-100
10. องค์การแพธ. แนวทางการจัดการเรียนรู้เพศศึกษารอบด้านในสถานศึกษาสำหรับผู้บริหาร.โรงพิมพ์เออร์เจนท์แทค จำกัด. กรุงเทพมหานคร,2550
11. องค์การแพธ. แนวคิดในการออกแบบการจัดการเรียนรู้สำหรับครูและผู้ปฏิบัติงานด้านเพศศึกษา สำหรับเยาวชน. บริษัทเออร์เจนท์ แทค จำกัด. กรุงเทพมหานคร,2550.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ลงพิมพ์ในวารสารควบคุมโรค ถือว่าเป็นผลงานทางวิชาการหรือการวิจัย และวิเคราะห์ตลอดจนเป็นความเห็นส่วนตัวของผู้เขียน ไม่ใช่ความเห็นของกรมควบคุมโรค ประเทศไทย หรือกองบรรณาธิการแต่ประการใด ผู้เขียนจำต้องรับผิดชอบต่อบทความของตน


