สูตรยาต้านวัณโรคหลังผู้ป่วยเกิดภาวะตับอักเสบระหว่างรักษาวัณโรค ในสถาบันบำราศนราดูร ปี 2548- 2552
คำสำคัญ:
ยาต้านวัณโรค, ภาวะตับอักเสบบทคัดย่อ
โครงการนี้เป็นการวิจัยเชิงศึกษาย้อนหลัง (Retrospective Study) มีจุดมุ่งหมายเพื่อสำรวจชนิดและปริมาณของยาต้านวัณโรคในสูตรยาต่างๆ รวมทั้งศึกษาผลของการใช้สูตรยาต้านวัณโรคที่ใช้ในผู้ป่วยวัณโรค หลังจากเกิดภาวะตับอักเสบ โดยดำเนินการศึกษาระหว่างตุลาคม 2553 ถึงธันวาคม 2554 ทำการเก็บข้อมูลในผู้ป่วยวัณโรคที่ได้รับการขึ้นทะเบียนในสถาบันบำราศนราดูร ระหว่างปี พ.ศ. 2548-2552 แล้วแพทย์วินิจฉัยว่าเกิดภาวะตับอักเสบระหว่างรักษาวัณโรค และต้องมีการปรับเปลี่ยนสูตรยาในการรักษาเก็บข้อมูลโดยใช้แบบบันทึกข้อมูลผู้ป่วย ผลการวิจัยพบจำนวนผู้ป่วยวัณโรคที่เกิดภาวะตับอักเสบ 176 ราย จาก 2,578 ราย ซึ่งวิธีการที่แพทย์ปรับเปลี่ยนให้ผู้ป่วยหลังจากเกิดภาวะตับอักเสบ 3 อันดับแรก คือ หยุด Rifampicin (RF) คงเหลือ Isoniazid (INH) และ Pyrazinamide (PZA) ในสูตร (92 ราย ร้อยละ 52.3) หยุด PZA และ RF คงเหลือ INH ในสูตร (41 ราย ร้อยละ 23.3) และหยุด INH, RF และ PZA เปลี่ยนมาใช้สูตร EMB+ Aminoglycoside+ Fluoroquinolone (38 ราย ร้อยละ 21.6) โดยผู้ป่วยส่วนใหญ่ไม่ได้รับการ rechallenge ยา (113 ราย ร้อยละ 64.2) มีผู้ป่วย 63 ราย (ร้อยละ 35.8) ที่ได้รับการ rechallenge ยา และไม่เกิดภาวะตับอักเสบซ้ำ 42 ราย (ร้อยละ 23.9) ซึ่งผลการ รักษาหลังจากปรับเปลี่ยนสูตรยาต้านวัณโรค พบว่า มีผู้ป่วยรักษาสำเร็จ 76 ราย (ร้อยละ 43.2), เสียชีวิต 32 ราย (ร้อยละ 18.2) และเป็นผู้ป่วยโอนออก 40 ราย (ร้อยละ 22.7)
Downloads
เอกสารอ้างอิง
2. สุพาณี สุพงศ์พัฒนกิจ. ปัญหาที่เกิดจากการใช้ยาในผู้ป่วยวัณโรคปอด ที่มารับการตรวจรักษาที่ศูนย์วัณโรคเขต 10 เชียงใหม่. การค้นคว้าแบบอิสระ สาธารณสุขศาสตร มหาบัณฑิต บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. 2543.
3. กรรณิการ์ วิสุทธิวรรณ, สมชัย จิรโรจน์วัฒน และ ชูชัย ตุลาภรณ์. ปัจจัยที่มีผลต่อการเกิดผลข้างเคียงจากการใช้ยารักษาวัณโรค ในผู้ป่วยที่มารับการตรวจรักษาที่ศูนย์วัณโรคเขต 3 ชลบุรี. วารสารวัณโรคและโรคทรวงอก. 2538; 16(4) : 263-67.
4. พรรณี หัสภาค, สนจิตร์ พงษ์พานิช, กันยา มณีสุวรรณ และพานิช ทรัพย์ทวี. บทบาทของนักวิชาการสุขศึกษา กับการเฝ้าระวังอาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยารักษาวัณโรค. วารสารวัณโรคและโรคทรวงอก. 2536; 14(3) : 175-85.
5. Thompson NP, Caplin ME, Hamilton MI, Gillespie SH, Clarke SW, Burroughs AK, et al. Anti-tuberculosis medication and the liver : dangers and recommendations in management. Eur Respir J. 1995; 8:1384-88.
6. ศูนย์เฝ้าระวังความปลอดภัยด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา. (ไม่ปรากฏวัน วันที่ เดือน ปีที่เผยแพร่). สรุปรายงานอาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยาที่ได้รับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2551. สืบค้นเมื่อ 20 เมษายน 2553, จาก www.fda.moph.go.th.
7. ดวงพร ทองงาม, พิสิฐ ตั้งกิจวาณิชย์, จตุรงค์ อมรรันตโกศล, พินิจ กุลละวณิชย์ และ สัจพันธ์ อิศรเสนา. พิษต่อตับจากยาต้านวัณโรค. จุฬาอายุรศาสตร์. 2544; 14(1) : 40-46.
8. Marzuki OA, Fauzi AR, Ayoub S and Kamarul Imran M. Prevalence and risk factors of antituberculosis drug-induced hepatitis in Malaysia. Singapore Med J. 2008; 49(9) : 688-93.
9. วิศิษฎ์ อุดมพาณิชย์, ดาวรุ่ง ศิลาจำรูญ, สมเกียรติ วงษ์ทิม และ ฉันชาย สิทธิพันธุ์. ผลข้างเคียงจาก ยารักษาวัณโรคโดยสูตรมาตรฐานระยะสั้น. วารสารวัณโรค โรคทรวงอก และเวชบำบัดวิกฤต. 2547; 25(1) : 29-33.
10. อุไร พุ่มพฤกษ์ และ รัตนา ชัยสุขสุวรรณ. อาการแทรกซ้อนที่เกิดจากยาเม็ดแยกขนานรวม 4 ชนิด ที่ใช้ใน 2 เดือนแรกของการรักษาวัณโรคด้วยระบบยาระยะสั้น 6 เดือน. วารสารวัณโรคและโรคทรวงอก. 2539; 17(2) : 103-16.
11. American Thoracic Society, CDC and Infectious Diseases Society of America. Treatment of Tuberculosis. MMWR. 2003; Jun 20; vol. 52.
12. Tuberculosis Committee of the British Thoracic Society. BTS Guidelines, Chemotherapy and management of tuberculosis in the United Kingdom : recommendations 1998. Thorax. 1998; 53;536-48.
13. Sharma SK, Singla R, Sarda P, Mohan A, Makharia G, Jayaswal A, et al. Safety of 3 different reintroduction regimens of antituberculosis drugs after development of antituberculosis treatment-induced hepatotoxicity. Clin Infect Dis. 2010; 50(6) : 833-39.
14. นิธิพัฒน์ เจียรกุล และ สุพจน์ พงศ์ประสบชัย. ภาวะแทรกซ้อนต่อตับจากยาต้านวัณโรค . วารสารวัณโรคและโรคทรวงอก. 2540; 17(1) : 47-52.
15. World Health Organization. Treatment of Tuberculosis guidelines; Fourth edition. Geneva; 2010.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ลงพิมพ์ในวารสารควบคุมโรค ถือว่าเป็นผลงานทางวิชาการหรือการวิจัย และวิเคราะห์ตลอดจนเป็นความเห็นส่วนตัวของผู้เขียน ไม่ใช่ความเห็นของกรมควบคุมโรค ประเทศไทย หรือกองบรรณาธิการแต่ประการใด ผู้เขียนจำต้องรับผิดชอบต่อบทความของตน


