การพัฒนาให้เกิดความภาคภูมิใจและความคาดหวังในความสามารถของตนเอง เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเสี่ยงของนักเรียนในจังหวัดนครราชสีมา
DOI:
https://doi.org/10.14456/dcj.2012.4คำสำคัญ:
ความภาคภูมิใจ, ความคาดหวัง, นักเรียน, นครราชสีมาบทคัดย่อ
การวิจัยกึ่งทดลองครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลการพัฒนานักเรียนให้เกิดความภาคภูมิใจและความคาดหวังในความสามารถของตน เพื่อการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเสี่ยงของนักเรียนที่สูบบุหรี่ ดื่มสุรา มีเพศสัมพันธ์ที่เสี่ยง ขับขี่รถจักรยานยนต์เสี่ยงอุบัติเหตุ จำนวน 53 คน ในโรงเรียนแห่งหนึ่ง คัดเลือกแบบเจาะจง เข้าในโครงการนี้นาน 2 ปี 6 เดือน โดยจัดกิจกรรม เช่น ค่ายพัฒนาศักยภาพโดยประยุกต์วิชาทหาร กิจกรรมอื่นๆ ทั้งในและนอกโรงเรียน แลกเปลี่ยนเรียนรู้ จัดเวทีนำเสนอผลการดำเนินงาน การเก็บข้อมูลโดยการใช้แบบสอบถาม แบบสังเกตพฤติกรรม แบบประเมินความพึงพอใจ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติ เช่น การแจกแจงความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ANOVA และ z-test ผลการวิจัยพบว่า หลังการทดลอง คะแนนของความภาคภูมิใจและความคาดหวังในความสามารถของตนสูงกว่าก่อนการทดลอง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p = 0.001) สัดส่วนพฤติกรรมสูบบุหรี่ การดื่มสุรา ขับขี่รถจักรยานยนต์เสี่ยงอุบัติเหตุลดลงกว่าก่อนการทดลอง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ(p = 0.05) แต่การมีเพศสัมพันธ์ที่เสี่ยงไม่แตกต่างกัน อย่างไรก็ตาม ครูและผู้ปกครองมีความพึงพอใจโครงการนี้มาก ผู้วิจัยเสนอว่ารูปแบบการพัฒนาในการวิจัยครั้งนี้ ควรได้รับการพัฒนาประยุกต์ใช้กับนักเรียนกลุ่มเสี่ยงในโรงเรียนอื่นต่อไป
Downloads
เอกสารอ้างอิง
2. ศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ. สรุปสถานการณ์การควบคุมการบริโภคยาสูบของประเทศไทย พ.ศ.2552. พ.ศ. 2553
3. วัลยา ธรรมพนิชวัฒน์. เพศศึกษาสำหรับวัยรุ่นไทย วารสารสภาการพยาบาล. 2553; 25: 5
4. กรมควบคุมโรค.รายงานการเฝ้าระวังของสำนักระบาดวิทยา. 2552.
5. www.thaihealth.or.th (วันที่ 7 มิ.ย. 54)
6. http://www.novabizz.com/NovaAce/Personality/Self_Efficacy.htm (วันที่ 7 มี.ค. 54)
7. พิสมัย สุขอมรรัตน์.ศึกษาการพัฒนาทักษะชีวิตเพื่อป้องกันการสูบบุหรี่ในนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 สังกัดกรมสามัญศึกษา กรุงเทพมหานคร; 2540:110.
8. ภาวินี อยู่ประเสริฐ. ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการใช้สารเสพติดของนักเรียนในเขตกรุงเทพมหานคร ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 สังกัดกรมสามัญศึกษา; 2540:ก-ข.
9. เสรี ลาชโรจน์. สภาพการวัดและประเมินผลการศึกษา. ในเอกสารการสอนชุดวิชาการบริหารและการจัดการการวัดและประเมินผลการศึกษา หน่วยที่ 3 นนทบุรี มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช สาขาวิชาศึกษาศาสตร์; 2535. หน้า 51 - 82.
10. วิทยากร เชียงกูล. จิตวิทยาในการสร้างความสุข. กรุงเทพมหานคร : สายธาร, 2548.
11. หลุย จำปาเทศ. จิตวิทยาสัมพันธ์. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพมหานคร. โรงพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. 2533.
12. ปราณี รามสูตร. จิตวิทยาวัยรุ่น. กรุงเทพมหานคร: รุ่งเรืองวัฒนา, 2538.
13. นภาพร พุ่มพฤกษ์.2529. ผลของกิจกรรมกลุ่มที่มีต่อการพัฒนาความภาคภูมิใจในตนเอง ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนพระนารายณ์ลพบุรี.
14. พยอม ธัญรส.www.medihealing.com (วันที่ 7 มี.ค. 54 นาตยา วงศ์หลีกภัย อ้างใน นุชจรี ฌายีเนตร ). 2548. ผลของการฝึกทักษะการดำเนินชีวิตที่มีต่อการเห็นคุณค่าในตนเองของคนพิการ; หน้า 10.
15. อภิญญา เปี่ยมวัฒนาทรัพย์ สุมาลี จันทลักษณ์. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมทางเพศของวัยรุ่นตอนต้นในสถานศึกษาเขตเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ปี 2550. วารสารสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 3 2552; 2: 56-68.
16. นวลตา อาภาคัพภะกุล เพศสัมพันธ์และการใช้ถุงยางอนามัย ในกลุ่มเยาวชนที่มาใช้บริการในแหล่งชุมนุมวัยรุ่น กรณีศึกษา กรุงเทพมหานคร. สงขลานครินทร์เวชสาร. 2549: 24 (6): 475-482.
17. ระวีวรรณ ดนัยดุษฎีกุล. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการละเว้นเพศสัมพันธ์ของวัยรุ่นหญิง bbznet.pukpik.com/scripts2/view.php?user=model (วันที่ 26 สิงหาคม 2555)
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ลงพิมพ์ในวารสารควบคุมโรค ถือว่าเป็นผลงานทางวิชาการหรือการวิจัย และวิเคราะห์ตลอดจนเป็นความเห็นส่วนตัวของผู้เขียน ไม่ใช่ความเห็นของกรมควบคุมโรค ประเทศไทย หรือกองบรรณาธิการแต่ประการใด ผู้เขียนจำต้องรับผิดชอบต่อบทความของตน


