ประสิทธิผลโปรแกรมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ในประชาชนกลุ่มเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวาน จังหวัดอ่างทอง
DOI:
https://doi.org/10.14456/dcj.2012.2คำสำคัญ:
โปรแกรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ, กลุ่มเสี่ยงต่อโรคเบาหวานบทคัดย่อ
การศึกษาแบบกึ่งทดลอง (Quasi - Experimental) ครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาเปรียบเทียบประสิทธิผลโปรแกรมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพในประชาชนกลุ่มเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวาน แบบเข้าค่ายและแบบนัดพบของกรมอนามัย โดยสุ่มตัวอย่างแบ่งเข้ากลุ่มละ 30 คน ให้กลุ่มที่เข้าโปรแกรมแบบเข้าค่าย เป็นกลุ่มทดลอง และกลุ่มที่เข้าโปรแกรมแบบนัดพบ เป็นกลุ่มควบคุม ระหว่างเดือนกรกฎาคม - ตุลาคม 2554 วิเคราะห์ข้อมูลโดยการแจกแจงความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที (paired t – test และ independent t-test) ผลการศึกษา พบว่าก่อนและหลังการเข้าโปรแกรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ กลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม มีคะแนนเฉลี่ยหลังการเข้าร่วมโปรแกรมในด้านความรู้ ทัศนคติ พฤติกรรมมากกว่าก่อนทดลอง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ( p < 0.05) น้ำหนักตัว ดัชนีมวลกาย และระดับน้ำตาลในเลือดลดลงกว่าก่อนทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < 0.05 ) แสดงว่า โปรแกรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทั้ง 2 แบบ มีประสิทธิผลที่ไม่แตกต่างกัน สามารถเลือกใช้ตามความเหมาะสมและบริบทของแต่ละพื้นที่
Downloads
เอกสารอ้างอิง
1. กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข.รายงานการเฝ้าระวังโรคทางระบาดวิทยา.ประจำสัปดาห์ ปีที่ 43 ฉบับที่ 17 : 4 พฤษภาคม 2555
2. งานส่งเสริมสุขภาพและรักษาพยาบาล สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอ่างทอง. สรุปผลงานงานส่งเสริมสุขภาพและรักษาพยาบาล ปีงบประมาณ 2553. เอกสารอัดสำเนา
3. สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอ่างทอง.รายงานประจำปี 2552. เอกสารอัดสำเนา
4. Orem.D.E.(1995). Nursing : Concepts of Practice. (5 th ed.) St. Louis : Mosby - Year Book.
5. กองโภชนาการ กรมอนามัย.โปรแกรมควบคุมน้ำหนัก. โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย. 2551
6. นิภา มนูญปิจุ. ประชากรกับคุณภาพชีวิต. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์ศรีอนันต์; 2540.
7. ธงชัย สันติวงษ์. พฤติกรรมผู้บริโภคทางการตลาด. (พิมพ์ครั้งที่ 9). กรุงเทพฯ : ไทยวัฒนาพานิช. 2539
8. วิโรจน์ เจียมจรัสรังษี และคณะ. การปรับชีวิตในกลุ่มเสี่ยงต่อโรคเบาหวาน[ออนไลน์]. เข้าถึงเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2555. เข้าถึงได้จาก http://dspace.hsri.or.th/dspace handle /123456789/703.
9. ชลัยรัตน์ ศรีเอม. ยุทธศาสตร์การใช้สื่อสารมวลชนเพื่อการรณรงค์ด้านสุขภาพ ศึกษาเฉพาะกรณีโรคอ้วนของคนไทย.กรุงเทพฯ. มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต, 2549.
10. พิสมัย นนปราสาท. ผลการให้คำปรึกษาตามหลักโภชนบัญญัติ 9 ประการต่อการลดน้ำหนักของนักเรียนที่เป็นโรคอ้วน.การค้นคว้าแบบอิสระ. วิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาโภชนศาสตร์ศึกษา บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. 2552
11. สุระ สุพรหมอินทร์. แบบจำลองการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในกลุ่มเสี่ยงสูงต่อโรคเบาหวานชนิดที่ 2 โดยการเข้าค่ายอำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด ประเทศไทย. วิทยานิพนธ์หลักสูตรปริญญาสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาพัฒนาระบบสาธารณสุข วิทยาลัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. 2552
12. หัน พรมเคน.กระบวนการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมในผู้ป่วยเบาหวาน ของศูนย์สุขภาพชุมชนตาหลังในอำเภอวังน้ำเย็น จังหวัดสระแก้ว. รายงานการวิจัยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว. 2550
13. ประครอง ควรคิด และวิรดา อรรถเมธากุล. การประเมินผลโครงการค่ายเบาหวาน โรงพยาบาลราชบุรี. วารสารกองการพยาบาล ปีที่ 17 ฉบับที่ 3 กันยายน - ธันวาคม 2553.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ลงพิมพ์ในวารสารควบคุมโรค ถือว่าเป็นผลงานทางวิชาการหรือการวิจัย และวิเคราะห์ตลอดจนเป็นความเห็นส่วนตัวของผู้เขียน ไม่ใช่ความเห็นของกรมควบคุมโรค ประเทศไทย หรือกองบรรณาธิการแต่ประการใด ผู้เขียนจำต้องรับผิดชอบต่อบทความของตน


