การรับรู้ประโยชน์ อุปสรรค และสมรรถนะของตนเองในการปฏิบัติพฤติกรรม ส่งเสริมสุขภาพของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 โรงพยาบาลขามทะเลสอ

ผู้แต่ง

  • พรพิชญ์ พรหมพันธ์ใจ โรงพยาบาลขามทะเลสอ
  • ดวงรัตน์ คัดทะเล วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี นครราชสีมา

DOI:

https://doi.org/10.14456/dcj.2014.8

คำสำคัญ:

การรับรู้ประโยชน์, อุปสรรค, , สมรรถนะ, เบาหวานชนิดที่ 2

บทคัดย่อ

การวิจัยเชิงสำรวจนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินระดับการรับรู้ประโยชน์ อุปสรรค และสมรรถนะของตนเองในการปฏิบัติพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพ และประเมินพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ที่มารับบริการในคลินิกเบาหวาน โรงพยาบาลขามทะเลสอ จากประชากรจำนวน 799 ราย คำนวณขนาดของกลุ่มตัวอย่างโดยใช้สูตรของทาโรยามาเน่ (a = 0.05) สุ่มตัวอย่างจำนวน 269 ราย ด้วยตารางเลขสุ่ม เก็บรวบรวมข้อมูลด้วย (1) แบบสอบถามการรับรู้ประโยชน์ อุปสรรค และสมรรถนะของตนเองในการปฏิบัติพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพ และ (2) แบบสอบถามพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ที่มีค่าดัชนีความตรงเชิงเนื้อหา 0.85 และ 0.95 ตามลำดับ และมีค่าความเชื่อมั่น 0.85 และ 0.95 ตามลำดับ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงบรรยาย ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง (ร้อยละ 66.20) อายุเฉลี่ย 61.69 ปี (SD = 11.65) ศึกษาระดับประถมตอนต้น (ร้อยละ 63.20) เป็นโรคเบาหวานโดยเฉลี่ย 4.06 ปี (SD = 3.69) การรับรู้ประโยชน์และอุปสรรคต่อการปฏิบัติพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพอยู่ในระดับปานกลาง (M = 2.33, SD = 0.87; M = 2.50, SD = 0.82 ตามลำดับ) การรับรู้สมรรถนะของตนเองในการปฏิบัติพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพอยู่ในระดับมาก (M = 3.10, SD = 0.84) และพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพของกลุ่มตัวอย่างอยู่ในระดับปานกลาง (M = 2.68, SD = 0.82) การจัดกิจกรรมการให้คำแนะนำและส่งเสริมพฤติกรรมสุขภาพกับผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ต้องคำนึงถึงปัจจัยส่วนบุคคล ระดับของการรับรู้ประโยชน์ อุปสรรค และสมรรถนะของตนเอง ในการปฏิบัติพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพ รวมถึงระดับของพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ด้วย

Downloads

References

1. Danaei G, Finucane MM, Lu Y, Singh GM, Cowan MJ, Paciorek CJ, et al. National, regional, and global trends in fasting plasma glucose and diabetes prevalence since 1980: systematic analysis of health examination surveys and epidemiological studies with 370 country-years and 2.7 million participants. Lancet 2011;378:31-40.

2. Wild S, Roglic G, Green A, Sicree R, King H: Global prevalence of diabetes: estimates for the year 2000 and projections for 2030. Diabetes Care 2004;27:1047-53.

3. World Health Organization. Global status report on non-communicable diseases 2010. Geneva; World Health Organization: 2011.

4. งานผู้ป่วยนอก โรงพยาบาลขามทะเลสอ จังหวัดนครราชสีมา. ทะเบียนผู้ป่วยนอกเบาหวานที่มารับบริการที่คลินิกพิเศษโรคเบาหวาน. นครราชสีมา: โรงพยาบาลขามทะเลสอ; 2555.

5. อมรา ทองหงษ์, กมลชนก เทพสิทธา, ภาคภูมิ จงพิริยะอนันต์ รายงานการเฝ้าระวังโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง พ.ศ. 2555 (chronic diseases surveillance report, 2012) [อินเทอร์เน็ต]. [สืบค้นเมื่อ 15 ม.ค. 2556]. แหล่งข้อมูล: http://www.boe.moph.go.th/files/report/20140109_40197220.pdf

6. สุธาทิพย์ ภัทรกุลวณิชย์. ประเด็นสารรณรงค์วันเบาหวานโลก ปี 2555 (ปีงบประมาณ 2556) [อินเทอร์เน็ต]. [สืบค้นเมื่อ 20 ก.พ. 2556]. แหล่งข้อมูล: http://dpc5.ddc.moph.go.th/PR/ 56-DM14nov55.pdf

7. อนุชิต กิจการทอง. จอตาเปลี่ยนแปลงจากโรคเบาหวาน. สงขลานครินทร์เวชสาร 2549; 24:127-32.

8. สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ. แนวทางเวชปฏิบัติการป้องกันดูแลรักษาภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน (ตา ไต เท้า). กรุงเทพมหานคร: สถาบันวิจัยและประเมินเทคโนโลยีทางการแพทย์; 2553.

9. ปิยรัตน์ สุรพฤกษ์. โรคเบาหวานชนิดที่ 2 และภาวะหลอดเลือดแข็งตัวกับธาตุเหล็ก. วารสารเทคนิคการแพทย์เชียงใหม่ 2007;40:94-7.

10. จิราพร เดชมา, วนิดา ดุรงค์ฤทธิชัย, วิชุดา กิจธรธรรม. การศึกษาปัจจัยทำนายภาวะแทรกซ้อนให้ผู้ป่วยเบาหวานในชุมชน ภายใต้ทฤษฎีการพยาบาลของคิง. วารสารพยาบาลสาธารณสุข. 2013;27:63-80.

11. ภาวนา กีรติยุตวงศ์. การพยาบาลผู้ป่วยเบาหวาน: มโนมติสำคัญสำหรับการดูแล. พิมพ์ครั้งที่ 3. ชลบุรี: บริษัท พี. เพรส จำกัด; 2546.

12. ขนิษฐา นันทบุตร, กล้าเผชิญ โชคบำรุง, วรรณภา นิวาสวัต, พีรพงษ์ บุญสวัสดิ์กุลชัย, หทัยชนก บัวเจริญ, อำพน ศรีรักษา, และคณะ. การศึกษาและการพัฒนาศักยภาพการดูแลผู้ป่วยโรคเบาหวาน บนพื้นฐานทางสังคม วัฒนธรรมของท้องถิ่นอีสาน. ขอนแก่น: คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น; 2546.

13. สำนักงานป้องควบคุมโรคที่ 9 พิษณุโลก. สคร. 9 เผยคนไทยป่วยเบาหวานมากถึง 3.4 ล้านคน เสี่ยงหลอดเลือดสมอง และเสียชีวิตก่อนวัยอันควร. พิษณุโลก: สำนักงานป้องควบคุมโรคที่ 9 พิษณุโลก; 2556.

14. เลิศมณฑน์ฉัตร อัครวาทิน, สุรางค์ เมรานนท์, สุทิติ ขัตติยะ. พฤติกรรมสุขภาพของผู้ป่วยโรคเบาหวาน: กรณีศึกษาผู้ป่วย ตำบลม่วงงาม อำเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรี. วารสารบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฎวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ 2554; 5:103-12.

15. Pender NJ. Health promotion throughout the life span. 6th ed. Norwalk: Appleton & Lange; 2006.

16. Palank CL. Determinants of health-promotive behavior: a review of current research. Nursing Clinics of North America 1991;26:815-32.

17. ปทุมพรรณ มโนกุลนันท์. พฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้ป่วยเบาหวาน: การศึกษาเชิงมนุษยวิทยาในชุมชนแห่งหนึ่งของจังหวัดลำปาง [วิทยานิพนธ์ปริญญาสังคม-ศาสตรมหาบัณฑิต]. กรุงเทพมหานคร: มหาวิทยาลัยมหิดล; 2535.

18. Adler I A, Boyko EJ, Ahroni JH, Stensel V, Forsberg RC, Smith DG. Risk factors for diabetes peripheral sensory neuropathy. Diabetes Care 1997;20:136-44.

19. American Diabetes Association. Standards of medical care for patients with diabetes mellitus. Diabetes Care 1997;17:1-21.

20. มาลี จำนงผล. การศึกษาพฤติกรรมสุขภาพของผู้หญิงโรคเบาหวานในภาคตะวันออก [วิทยานิพนธ์ปริญญาพยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต]. กรุงเทพมหานคร: มหาวิทยาลัยมหิดล; 2540.

21. จีรนุช สมโชค. คุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุโรคเบาหวาน [วิทยานิพนธ์ปริญญาพยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต]. กรุงเทพมหานคร: มหาวิทยาลัยมหิดล; 2540.

22. Johnson J E. Health care practice of the rural aged. J Gerontological Nursing 1991;27:47- 54.

23. อภิรยา พานทอง. ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพของสตรีวัยหมดประจำเดือน [วิทยานิพนธ์ปริญญาพยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต]. กรุงเทพมหานคร: มหาวิทยาลัยมหิดล; 2540.

24. Korlialangas EE, Alahuhta ME, Laitinen H. Barriers to regular exercise among adults at high risk or diagnosed with type 2 diabetes: a systemic review. Health Promotion International 2009;24:416-27.

25. Mohebi S, Azadbakht L, Feizi A, Sharifirad G, Kargar M. Structural role of perceived benefits and barriers to self-care in patients with diabetes. J Educ Health Promot 2013;2:1-7.

Downloads

เผยแพร่แล้ว

31-12-2014

How to Cite

1.
พรหมพันธ์ใจ พ, คัดทะเล ด. การรับรู้ประโยชน์ อุปสรรค และสมรรถนะของตนเองในการปฏิบัติพฤติกรรม ส่งเสริมสุขภาพของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 โรงพยาบาลขามทะเลสอ. Dis Control J [อินเทอร์เน็ต]. 31 ธันวาคม 2014 [อ้างถึง 5 เมษายน 2025];40(4):361-7. available at: https://he01.tci-thaijo.org/index.php/DCJ/article/view/154266