เปรียบเทียบต้นทุน-ประสิทธิผลการค้นหาผู้ป่วยโรคเรื้อนรายใหม่ ระหว่างการสำรวจหมู่บ้านแบบเร็วและการค้นหาโดยกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน
DOI:
https://doi.org/10.14456/dcj.2014.17คำสำคัญ:
โรคเรื้อน, ต้นทุน-ประสิทธิผล, การสำรวจหมู่บ้านแบบเร็ว, กำนัน-ผู้ใหญ่บ้านบทคัดย่อ
กลวิธีหลักที่สำคัญที่สุดของโครงการควบคุมโรคเรื้อนคือ การมุ่งตรวจค้นหาผู้ป่วยให้พบแต่เนิ่นๆ และให้การรักษาด้วยยาเคมีบำบัดแก่ผู้ป่วยทันทีก่อนที่ผู้ป่วยจะเกิดอาการกำเริบเข้าสู่ระยะติดต่อและพิการ วิธีการค้นหาผู้ป่วยโรคเรื้อนรายใหม่ มีการคิดค้นวิธีพัฒนารูปแบบมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่การสำรวจประชาชนทุกคน total village survey (TVS) การสำรวจหมู่บ้านแบบเร็ว rapid village survey (RVS) ต่อมาได้มีการศึกษาวิธีค้นหาผู้ป่วยโรคเรื้อนรายใหม่โดยความร่วมมือของกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อเปรียบเทียบต้นทุน- ประสิทธิผลของการค้นหาผู้ป่วยโรคเรื้อนรายใหม่ ระหว่างการสำรวจหมู่บ้านแบบเร็วและการค้นหาโดยกำนัน- ผู้ใหญ่บ้าน เป็นการศึกษาเชิงวิเคราะห์คือ การวิเคราะห์ทางด้านเศรษฐศาสตร์สาธารณสุขเปรียบเทียบทางเลือกโดยวิธีทั้ง 2 ด้าน คือ ด้านต้นทุนและด้านสิ่งที่ได้ออกมาจากการลงทุน โดยใช้เครื่องมือด้านการวิเคราะห์เปรียบเทียบและประเมินด้านต้นทุน-ประสิทธิผล ทำการศึกษาไปข้างหน้า เลือกพื้นที่แบบเฉพาะเจาะจงในพื้นที่ที่มีข้อบ่งชี้ทาง ระบาดวิทยาในงานควบคุมโรคเรื้อน ผลการวิเคราะห์ต้นทุนเปรียบเทียบทั้ง 2 วิธี พบว่า ต้นทุนรวมของการค้นหาโดยวิธี RVS สูงกว่าการค้นหาโดยกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน เป็นเงิน 3,119-9 บาท พบผู้ป่วยรายใหม่ จำนวน 3 ราย ขณะที่การค้นหาโดยกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ไม่พบผู้ป่วยรายใหม่ ต้นทุน-ประสิทธิผลของวิธี RVS เท่ากับ 19,528.9 บาท ส่วนวิธีกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ไม่สามารถจะประเมินในทางเศรษฐศาสตร์ คำนวณต้นทุนต่อหน่วยไม่ได้ เนื่องจากไม่มีผลผลิตจากการสำรวจทั้ง 2 วิธี ได้มีการตรวจสอบความครอบคลุมของการค้นหาโดยผู้เชี่ยวชาญด้านโรคเรื้อน โดยใช้วิธี RVS ซึ่งเป็นวิธีมาตรฐานขององค์การอนามัยโลก พื้นที่ทำการสำรวจแบบ RVS ไม่พบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่ม ส่วนในพื้นที่ทำการสำรวจโดยกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน พบผู้ป่วยรายใหม่ จำนวน 1 ราย ซึ่งผู้ป่วยโรคเรื้อนรายใหม่ ถ้าไม่ถูกค้นพบแล้วเกิดความพิการขึ้น ภาครัฐจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการดูแลผู้พิการเหล่านี้เป็นจำนวนไม่น้อย ควรจะได้มีการศึกษาต่อเนื่องจากการศึกษาครั้งนี้ในด้านของต้นทุน-อรรถประโยชน์ ซึ่งป้องกันผู้ป่วยโรคเรื้อนไม่ให้เกิดความพิการจากการค้นพบที่ล่าช้าหรือไม่ได้รับการรักษา เพื่อเป็นข้อมูลในการวางแผนการดำเนินการควบคุมโรคเรื้อนที่มีประสิทธิภาพต่อไป
Downloads
เอกสารอ้างอิง
2. สำนักงานควบคุมโรคติดต่อเขต 5. สถานการณ์ ทิศทาง และแนวโน้มโรคติดต่อในเขต 5 ปี 2544. นครราชสีมา: สมบูรณ์การพิมพ์; 2545.
3. World Health Organization. A guide to leprosy control, 2 nd ed. Genewa: WHO; 1988.
4. ธีระ รามสูต, ประจักษ์ โล่สุวรรณ, สมบูรณ์ ชุณห์ประเสริฐ, เสรี รุ่งเรือง. รายงานผลการอบรมปฐมนิเทศ ก่อนโอนมอบงานควบคุมโรคเรื้อนระยะถาวรให้แก่จังหวัด. วารสารกรมการแพทย์และอนามัย 2516;1:54-72.
5. สมคิด แก้วสนธิ, ภิรมย์ กมลรัตนกุล. การวิเคราะห์และประเมินผลบริการสาธารณสุข.กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย; 2536.
6. สมเดช พินิจสุนทร, สมพงษ์ ศรีแสนปาง, ชิงชัย เมธพัฒน์, อรุณ จิรวัฒน์กุล, ปิยะ ปียศิลป์. คู่มือการสำรวจหาความชุกของโรคเรื้อนแบบเร็ว (Rapid Village Survey: RVS) ขอนแก่น: มหาวิทยาลัยขอนแก่น; 2536.
7. Myo Thet Htoon. Estimatation of Leprosy preva-lence in Bago and Kawa Townships using two-stage probability proportionate to size sampling technique. International Journal of Epidemiology 1992;21:778-83.
8. สมบูรณ์ ชุณประเสริฐ. การค้นหาผู้ป่วยโรคเรื้อนรายใหม่โดยกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน. นครราชสีมา: สำนักงานควบคุมโรคติดต่อเขต 5 นครราชสีมา; 2541.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ลงพิมพ์ในวารสารควบคุมโรค ถือว่าเป็นผลงานทางวิชาการหรือการวิจัย และวิเคราะห์ตลอดจนเป็นความเห็นส่วนตัวของผู้เขียน ไม่ใช่ความเห็นของกรมควบคุมโรค ประเทศไทย หรือกองบรรณาธิการแต่ประการใด ผู้เขียนจำต้องรับผิดชอบต่อบทความของตน


