วัณโรคกระดูกและข้อในสถาบันบำราศนราดูร

ผู้แต่ง

  • ยุทธศักดิ์ พีรกุล สถาบันบำราศนราดูร กรมควบคุมโรค
  • ณัฐธยาน์ เลาหศรีสกุล สถาบันบำราศนราดูร กรมควบคุมโรค

คำสำคัญ:

วัณโรคกระดูกและข้อ สถาบันบำราศนราดูร

บทคัดย่อ

การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาลักษณะทางคลินิกของวัณโรคกระดูกและข้อในผู้ป่วยติดเชื้อ และไม่ติดเชื้อเอชไอวี และศึกษาถึงปัจจัยเสี่ยงในการเกิดโรคและการรักษา เป็นการศึกษาแบบย้อนหลังโดยทำการสำรวจเวชระเบียนของผู้ป่วยจำนวน 21 ราย ที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นวัณโรคกระดูกและข้อที่มารับการรักษาที่สถาบันบำราศนราดูร ระหว่างเดือน มีนาคม 2545 ถึง เดือนกรกฎาคม 2549 เป็นผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวี13 ราย (61.9%) และไม่ติดเชื้อเอชไอวี 8 ราย (38.1%) ผลการศึกษาพบว่า อาการและอาการแสดงของโรคใน ผู้ป่วยทั้งสองกลุ่มไม่แตกต่างกัน มีอาการที่สำคัญคือ ปวดกระดูกและข้อเรื้อรังพบในผู้ป่วยทุกราย ระยะเวลาเฉลี่ยนาน 22.9 ±9.1 เดือน ในผู้ป่วยไม่ติดเชื้อเอชไอวี และ 9.1±3.0 เดือน ในผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวี อายุที่มากกว่า 60 ปีเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญในกลุ่มผู้ป่วยไม่ติดเชื้อเอชไอวี (75%ในผู้ป่วยไม่ติดเชื้อเอชไอวี และ 0% ในผู้ป่วย ติดเชื้อเอชไอวีมีอายุมากกว่า 60 ปี p < 0.001) ในกลุ่มผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวี ประวัติสัมผัสหรือเคยเป็นวัณโรคมาก่อนเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ทำให้มีการกระตุ้นการติดเชื้อวัณโรคนอกปอดขึ้นใหม่ที่ระบบกระดูกและข้อ (1.3% ในผู้ป่วยไม่ติดเชื้อเอชไอวี และ 62.5% ในผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวี p = 0.027) ในขณะที่ปริมาณ CD4 ซึ่งบ่งถึงระดับภูมิคุ้มกันของผู้ป่วยเอชไอวีกลับมีผลน้อย (46.2% ของผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวี มีระดับ CD4 มากกว่า 200 เซลล์/มิลลิเมตร) การรักษาด้วยการให้ยาต้านวัณโรคเป็นเวลานาน 12 เดือนให้ผลการรักษาเป็นที่น่าพอใจไม่พบภาวะติดเชื้อเกิดขึ้นใหม่ หรือภาวะแทรกซ้อนรุนแรง

Downloads

Download data is not yet available.

เอกสารอ้างอิง

1. Ravinglion ML, Snider DE, Kochi A. Global epidemiology of tuberculosis: morbidity and mortality of a world wide epidemic. JAMA 1995; 273: 220-6.

2. World Health Organization (WHO). Global tuberculosis control, WHO report 2002. Available at: http://www.who.int/gtb/publications. Accessed 6 June 2003.

3. Zhenhua Y, Ying K, Frank W, Betsy F, et al. Identification of risk factors for extra-pulmonary tuberculosis. Clin Infect Dis. 2004; 38: 199-205.

4. Leibert E, Schluger N W, Bonk S, Rom W N.Spinal tuberculosis in patients with immunodeficiency virus infection: clinical presentation, therapy and outcome. Tubercle and Lung Dis. 1996; 77: 329-34.

5. Shizad H, Sigrid P, Per Riegels-Nielsen. Bone and joint tuberculosis in Denmark. Acta Orthop Scand 2000; 71(3): 312-15.

6. Shafer R W, Kim D S, Weiss J P, Quale J M. Extra-pulmonary tuberculosis in patients with human immunodeficiency virus infection. Medicine 1991; 70: 384-97.

7. Vohra R, Kang H S, Dogra S, Saggar R R, Sharma R. Tuberculous osteomyelitis. J Bone Joint Surg(Br) 1997; 79-B: 562-66.

8. Belzunegue J, Santisteban M, Gorordo M, Barasay E, et al. Osteoarticular mycobacterial infections in patients with the human immunodeficiency virus. Clin Exp Rheumatol 2004; 22: 343-45

9. Medical Research Council Working Party on Tuberculosis of the Spine, Twelfth Report. Controlled trial of short-course chemotherapy in the ambulatory treatment of spinal tuberculosis. J Bone Joint Srug 1993; 75: 240-248.

10. Perriens J H, St Louis M E, Mukadi Y B, et al. Pulmonary tuberculosis in HIV-infected patients in Zaire. A controlled trial of treatment for either 6 or 12 months. N Engl J Med 1995; 332: 779-84.

11. American Thoracic Society. Treatment of tuberculosis and tuberculosis infection in adultsand children. Am J Respir Crit Care Med 1994; 149: 1359-74.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

02-11-2018

รูปแบบการอ้างอิง

1.
พีรกุล ย, เลาหศรีสกุล ณ. วัณโรคกระดูกและข้อในสถาบันบำราศนราดูร. Dis Control J [อินเทอร์เน็ต]. 2 พฤศจิกายน 2018 [อ้างถึง 28 ธันวาคม 2025];33(1):29-36. available at: https://he01.tci-thaijo.org/index.php/DCJ/article/view/153315

ฉบับ

ประเภทบทความ

นิพนธ์ต้นฉบับ