ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการดื่มสุราของผู้ขับขี่ที่เมาสุราแล้วขับรถ ในเขตกรุงเทพมหานคร
คำสำคัญ:
พฤติกรรมการดื่มสุรา ผู้ขับขี่ที่เมาสุราแล้วขับรถ กรุงเทพมหานครบทคัดย่อ
รายงานนี้เป็นการวิจัยเชิงสำรวจแบบภาคตัดขวาง มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาพฤติกรรมการดื่มสุรา และปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการดื่มสุราของผู้ขับขี่ที่เมาสุราแล้วขับรถในเขตกรุงเทพมหานคร คัดเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบสุ่มอย่างมีระบบจากผู้ขับขี่ที่ถูกจับกุมดำเนินคดีในข้อหาขับขี่ยานพาหนะขณะเมาสุรา จำนวน 390 คน ในเดือนกุมภาพันธ์ 2549 เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูป SPSS เพื่อหาความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน กำหนดระดับความมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ผลการวิจัย พบว่า ผู้ที่เมาสุราแล้วขับรถส่วนใหญ่มีพฤติกรรมการดื่มสุรา 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์คิดเป็น ร้อยละ 40.3 และร้อยละ 5.6 มีการดื่มเป็นประจำทุกวัน ปัจจัยนำได้แก่ เจตคติต่อการขับรถขณะเมาสุราและการรับรู้โอกาสเสี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุจากการขับรถขณะเมาสุรามีความสัมพันธ์ทางบวกกับพฤติกรรมการดื่มสุรา ปัจจัยเอื้อ ได้แก่ การเข้าถึงแหล่ง/สถานที่ดื่มสุรามีความสัมพันธ์ทางบวกกับพฤติกรรมการดื่มสุรา และปัจจัยเสริม ได้แก่ การได้รับอิทธิพลจากสื่อโฆษณา และการสนับสนุนจากครอบครัวมีความสัมพันธ์ทางบวกกับพฤติกรรมการดื่มสุราผู้ขับขี่ส่วนใหญ่มีความรู้ ทราบถึงโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุและความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้น เนื่องมาจาก การขับขี่ขณะเมาสุรา แต่ที่ยังปฏิบัติอยู่เนื่องมาจากคิดว่าโอกาสถูกตำรวจจับมีน้อย เพราะด่านตรวจกระจายไม่ทั่วถึงและไม่ต่อเนื่อง เน้นหนักในช่วงเทศกาล ที่สำคัญมีผู้ขับขี่บางส่วนคิดว่าการขับขี่ขณะเมาสุราถึงแม้ว่าระดับแอลกอฮอล์เกินกฎหมายกำหนดแล้วแต่ยังมีสติอยู่ก็สามารถขับรถบนท้องถนนได้ และยังพบว่าครอบครัวมีส่วนสนับสนุนให้ผู้ขับขี่ดื่มสุรา เพราะมีการว่ากล่าวตักเตือนหรือห้ามดื่มสุราน้อย และบริบทของสังคมไทยงานรื่นเริงต่างๆ มักจะมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ร่วมด้วยเสมอ นอกจากนี้การโฆษณาทางสื่อต่างๆ มีส่วนทำให้ผู้ขับขี่มีการดื่มสุรามากขึ้น ดังนั้นการแก้ไขปัญหาควรมีการดำเนินงานหลายๆ มาตรการพร้อมกันอย่างจริงจังการตั้งจุดตรวจให้ครอบคลุมพื้นที่ดำเนินการอย่างสม่ำเสมอ ต่อเนื่อง รวมทั้งการรณรงค์การให้ความรู้ในเรื่องพิษภัยผลกระทบต่างๆและโอกาสเสี่ยงที่จะถูกจับดำเนินคดี เพื่อให้ประชาชนเกิดความตระหนักในเรื่องความปลอดภัยและมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตามมา
Downloads
เอกสารอ้างอิง
2. นิพนธ์ พัวพงศกร, อัมมาร สยามวาลา, สมชาย สุขสิริเสรีกุล, สิทธิศักดิ์ ลีลหานนท์, เอื้อมพร สาริกา, นายเสก เมธาสุรารักษ์ และนายสมเกียรติ เรืองจันทร์. บทคัดย่อรายงานฉบับสมบูรณ์โครง การวิจัยพัฒนารูปแบบ เพื่อการป้องกันการดื่มสุราและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์. เอกสารประกอบการประชุม เวทีวิชาการเพื่อควบคุมการบริโภค แอลกอฮอล์ มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ 26 พฤษภาคม 2548 ณ ศูนย์ประชุมสถาบันวิจัย จุฬาภรณ์ กรุงเทพมหานคร. 2548.
3. คณะทำงานวิจัยสุรา. สุรากับสังคมไทย ข้อสนเทศ และผลงานวิจัย ความรู้ เจตคติ การดื่มและแนวทางแก้ไข. กรุงเทพ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย; 2537.
4. Gururaj, G. Road Traffic Injuries, Alcohol and Road Traffic Injuries in South Asia : Challenges for Prevention. JCPSP. 2004; 14(12): 713 - 718.
5. สำนักงานสถิติแห่งชาติ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร. รายงานผลการสำรวจอนามัย และสวัสดิการ พ.ศ. 2546. กรุงเทพมหานคร. 2547.
6. Pibul, S. Drinking and Driving Don't Mix:Lifeline World Health Organization. 2004; 1(1): 14
7. กองบังคับการตำรวจจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ.เอกสารประกอบการประชุมหารือการบังคับใช้กฎหมายเพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุ ณ กองบังคับการตำรวจจราจร กรุงเทพมหานคร วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2549.
8. ประกิจ โพธิอาศน์.ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ของวัยรุ่นจังหวัด พระนครศรีอยุธยา. วิทยานิพนธ์ปริญญาวิทยาศาสตร์ มหาบัณฑิต สาขาวิชาสุขศึกษาและพฤติกรรมศาสตร์. บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล. 2541.
9. พัชรินทร์ ชมเดช. พฤติกรรมการดื่มสุราและปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ของผู้ป่วยกลุ่มวัยทำงานที่ประสบอุบัติเหตุจราจรที่มารับบริการรักษาพยาบาล ณ ห้องอุบัติเหตุและฉุกเฉินโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า จังหวัดนนทบุรี. วิทยานิพนธ์วิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาสุขศึกษา. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. 2548.
10. สิทธินันท์ เจริญรัตน์. พฤติกรรมการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายอำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี. วิทยานิพนธ์วิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาสุขศึกษา.มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. 2543.
11. นันท์ธิยา วิสุทธิ์ภักดี. ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการ ป้องกันตนเองจากการ ดื่มสุราของนิสิตชายในหอพักมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.วิทยานิพนธ์วิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาสุขศึกษา. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. 2545.
12. จิราภรณ์ เทพหนู. ปัจจัยที่มีผลต่อการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายสายสามัญศึกษา ในจังหวัดพัทลุง.วิทยานิพนธ์ปริญญาวิทยาศาสตร์มหาบัณฑิตสาขาวิชาอนามัยครอบครัว. บัณฑิตวิทยาลัย
มหาวิทยาลัยมหิดล. 2540.
13. ไพบูลย์ สุริยะวงศ์ไพศาล. ตำราระบาดวิทยาอุบัติเหตุจราจร. กรุงเทพมหานคร: โฮลิสติก พับบลิชชิ่ง; 2546.
14. ยงยุทธ ขจรธรรม และบังอร ฤทธิภักดี. นโยบายและมาตรการในการควบคุมการบริโภคแอลกอฮอล์.กรุงเทพมหานคร: มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ; 2547.
15. สำนักโรคไม่ติดต่อ. เอกสารประกอบการประชุมคณะกรรมการป้องกันและควบคุมการบาดเจ็บกระทรวงสาธารณสุข ครั้งที่2 /2549. กรมควบคุมโรคกระทรวงสาธารณสุข. 2549.
16. Pinsky, I., E. Lavouvie, R. Pandina and R.Laranjeira. Drinking and Driving : Pre-drivingAttitude and Perceptions Among Brazillian Youth. Drug Alcohol Depend. 2001. May 1; 62 (3): 231.
17. Shults, R.A., R.W. Elder, D.A. Sleet, J.L. Nichols, M.O. Alao, V.G. Garande-Kulisand the Task Force on Community Prevention Services. Reviews of evidence regarding interventions to reduce alcohol-impaired driving. American Journal of Preventive Medicine. 2001; 21 (45): 66-88.
18. Henry, S. and D. Dhaval. Alcohol advertising and alcohol consumption by adolescents. NBER Working paper. May 2003, no. 9676.
19. Saffer, H. Alcohol Advertising and Youth. Journal of Studies on Alcohol. 2002; 14: 173-81.
20. Sokol-Katz, J.,R. Dunham, and R.Zimmerman. Family structure versus parental attachment in controlling adolescent deviant behavior: a social control model. Adolescent. 1997; 32: 125
21. ภาวิณี อยู่ประเสริฐ. ปัจจัยที่มีผลต่อการใช้สารเสพติดของนักเรียนวัยรุ่นในกรุงเทพมหานคร.วิทยานิพนธ์ปริญญาวิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาพยาบาลสาธารณสุข. บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล. 2540.
22. ชัยยุทธ ดายา. ปัจจัยของการขัดเกลาทางสังคมของพ่อแม่ที่กระทบต่อพฤติกรรมการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของวัยรุ่นกรณีศึกษามัธยมศึกษาตอนปลายของกรมสามัญ. วิทยานิพนธ์ปริญญาสังคมวิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. 2534.
23. ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน. การแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนในประเทศไทย.วันอนามัยโลก Road Safety is No Accident.กรุงเทพฯ: องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก; 2547.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ลงพิมพ์ในวารสารควบคุมโรค ถือว่าเป็นผลงานทางวิชาการหรือการวิจัย และวิเคราะห์ตลอดจนเป็นความเห็นส่วนตัวของผู้เขียน ไม่ใช่ความเห็นของกรมควบคุมโรค ประเทศไทย หรือกองบรรณาธิการแต่ประการใด ผู้เขียนจำต้องรับผิดชอบต่อบทความของตน


