ความรู้ การรับรู้ และพฤติกรรมการบริโภคอาหารในการป้องกันโรคพยาธิใบไม้ตับ ของประชาชน ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนของประเทศไทยในปี 2556
DOI:
https://doi.org/10.14456/dcj.2015.34คำสำคัญ:
ความรู้, การรับรู้, พฤติกรรมการบริโภค, โรคพยาธิใบไม้ตับบทคัดย่อ
โรคพยาธิใบไม้ตับ เป็นปัญหาสาธารณสุขของประชาชนในหลายๆ ประเทศในภูมิภาคเอเชีย รวมทั้งประเทศไทยด้วย สาเหตุเกิดจากการบริโภคปลาน้ำจืดดิบ การศึกษานี้เป็นการศึกษาแบบภาคตัดขวาง (cross- sectional study) โดยศึกษาความรู้ การรับรู้ พฤติกรรมสุขภาพของประชาชนในการป้องกันควบคุมโรคพยาธิใบไม้ตับ และปัจจัยที่ส่งผลต่อความตั้งใจในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหารที่เสี่ยงต่อการเกิดโรค ในประชาชนที่อาศัยอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนประเทศไทย กลุ่มตัวอย่างเป็นประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป จำนวน 3,916 คน คัดเลือกโดยใช้วิธีการสุ่มแบบ thirty cluster survey จาก 7 จังหวัด เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลสถิติเชิงพรรณนาและสถิติเชิงอนุมาน ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มตัวอย่างเป็นเพศชาย ร้อยละ 45.5 เพศหญิง ร้อยละ 54.5 อายุเฉลี่ย 43 ปี มีความรู้เรื่องโรคพยาธิใบไม้ตับค่อนข้างต่ำ รู้ว่าการกินปลาส้มดิบเป็นสาเหตุของการติดเชื้อพยาธิใบไม้ตับ ร้อยละ 91.0 แต่ไม่ทราบวิธีการใช้ฆ่าพยาธิใบไม้ตับที่ถูกต้อง และผลข้างเคียงของการรับประทานยารักษาพยาธิโบไม้ตับบ่อยๆ คิดเป็นร้อยละ 41.2 และ 55.2 ตามลำดับ ประชาชนรับรู้ว่าการกินปลาดิบเป็นวิถีชีวิตที่ปฏิบัติติดต่อกันมาเป็นเวลานานและติดใจเพราะความอร่อย ปัจจุบันประชาชนยังคงกินปลาดิบ ร้อยละ 57.1 และอาหารหมักดอง ร้อยละ 92.6 ความตั้งใจในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหารที่เสี่ยงต่อการเกิดโรค พบว่า ไม่เคยคิดที่จะเลิกหรือคิดแต่ไม่ทำ ร้อยละ 52.9 ส่วนปัจจัยที่ส่งผลต่อการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหารเสี่ยง ได้แก่ เพศ การรับประทานอาหารที่เสี่ยงต่อการเกิดโรค ระดับการศึกษา มีประวัติพ่อแม่ ญาติพี่น้องเป็นโรคมะเร็งตับหรือมะเร็งท่อน้ำดี และอาชีพ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 (p-value 0.001,0.001 0.003, 0.012 และ 0.034 ตามลำดับ) โดยทั้ง 5 ปัจจัย สามารถอธิบายความตั้งใจในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหารที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคได้ ร้อยละ 35.9 ดังนั้น โรคพยาธิใบไม้ตับยังคงเป็นปัญหาในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนอยู่ ผลการศึกษานี้ชี้ให้เห็นว่าการป้องกันควบคุมโรคนี้ยังมีความจำเป็นที่ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคให้เหมาะสม ตลอดจนให้ความรู้กับประชาชนให้มีความรู้ที่ถูกต้อง
Downloads
เอกสารอ้างอิง
2. Sripa B, Bethony JM, Sithithawom P. Opisthorchiasis and Opisthorchis-associated cholangio-carcinoma in Thailand and Laos. Acta Trop 2011;120:158-68.
3. Prommas C. Report of a case of Opisthorchis felineus in Siam. Ann Trop Med Parasitol 1927;21:9-10.
4. Vatanasapt V, Tangvoraphonkchai V, Titapant V, Pipitgool V, Viriyapap D, Sriampom S. A high incidence of liver cancer in Khon Kaen Province, Thailand. Southeast Asian J Trop Med Public Health 1990;21:489-94.
5. Haswell-Elkins MR, Mairiang E, Mairiang P, Chaiyakum J, Chamadol N, Loapaiboon V. Cross-sectional study of Opisthorchis viverrini infection and cholangiocarcinoma in communi¬ties within a high-risk area in northeast Thailand. Int J Cancer 1994;59:505-9.
6. Viranuvatti V, Kasamsant D, Bhamarapravati N. Retention cyst of liver caused by opisthorchiasis associated with cholangiocarcinoma. Am J Gastroenterol 1955;23:442-6.
7. Kheng-Wei Y. Resurvey of Opisthorchis viverrini Infection in northeast Thailand [A dissertation for MSc in Global Health]. Oxford: University of Oxford; 2006.
8. พนัชพร จันทะผอง, มัณธนี จันทพัฒน์, ภาณุมาศ ไกรสร, กฤษดา อุทานนท์, ธนาวัฒน์ อุปพงษ์, ศรายุทธ ส่วนบุญ, และคณะ. ความรู้และพฤติกรรมเสี่ยงเรื่องการติดเชื้อพยาธิใบไม้ตับในนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น. ศรีนครินทร์เวชสาร 2556;28:239-45.
9. Suwannahitatorn P, Klomjit S, Naaglor T, Taamasri P, Rangsin R, Leelayoova S, et al. A follow-up study of Opisthorchis viverrini infection after the implementation of control program in a rural community, central Thailand. Parasites & Vectors 2013;6: 188.
10. Kaewpitoon N, Kaewpitoon S, Pengsaa P, Pilasr C. Knowledge, attitude and practice related to liver fluke infection in northeast Thailand. World J Gastroenterol 2007;13:1837-40.
11. วนิดา โชควาณิชย์พงษ์, อำไพ สารขันธ์, ศุลีพร แสงกระจ่าง. การสำรวจพฤติกรรมและทัศนคติการบริโภคปลาดิบและการเกิดมะเร็งท่อน้ำดี. วารสารโรคมะเร็ง 2552;29:162-75.
12. Cronbach, L.J. Coefficient alpha and the internal structure of tests. Sychometrika 1951; 16:297-334.
13. ภูเบศร์ แสงสว่าง. การใช้ยาพราซิควอนเทลและอัตราการติดเชื้อซ้ำในผู้ติดเชื้อพยาธิใบไม้ตับ [วิทยานิพนธ์ปริญญาสาธารณสุขศาสตรดุษฎีบัณฑิต]. ขอนแก่น: มหาวิทยาลัยขอนแก่น; 2556.
14. Pungpak S, Bunnag D, Harinasuta T. Studies on the chemotherapy of human Opisthorchiasis: Effective dose of praziquantel in heavy infection. Southeast Asian J Trop Med Public Health 1985;16:248-52.
15. Watana P, Watana WB. Liver fluke-associated cholangiocarcinoma. Br J Surg 2002;89:962- 70.
16. Poomphakwaen K, Promthet S, Kamsa-ard S. Risk factors for holangiocarcinoma in KhonKaen, Thailand: a nested case-control study. Asain Pac J Cancer Prev 2009;10:251-7.
17. Songserm N, Promthet S, Sithithawom P. Risk factors for cholangiocarcinoma in high risk area of Thailand: Role of lifestyle, diet and methylenetetrahydrofolate reductase polym-morhisms. Cancer Epidemiology 2012;36:89- 94.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ลงพิมพ์ในวารสารควบคุมโรค ถือว่าเป็นผลงานทางวิชาการหรือการวิจัย และวิเคราะห์ตลอดจนเป็นความเห็นส่วนตัวของผู้เขียน ไม่ใช่ความเห็นของกรมควบคุมโรค ประเทศไทย หรือกองบรรณาธิการแต่ประการใด ผู้เขียนจำต้องรับผิดชอบต่อบทความของตน


