การพัฒนารูปแบบการป้องกันการระบาดของโรคมาลาเรียในจังหวัดกาฬสินธุ์
DOI:
https://doi.org/10.14456/dcj.2015.29คำสำคัญ:
การระบาด, โรคมาลาเรีย, รูปแบบบทคัดย่อ
การวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการป้องกันโรคมาลาเรีย และพัฒนารูปแบบการป้องกันการระบาดของโรคมาลาเรียในจังหวัดกาฬสินธุ์ ทำการศึกษาในตำบลผาเสวย แซงบาดาล และมหาชัย อำเภอสมเด็จ จังหวัดกาฬสินธุ์ รูปแบบเป็นการวิจัยแบบผสานวิธี มี 2 ขั้นตอน ขั้นตอนที่ 1 เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ คัดเลือกกลุ่มตัวอย่างโดยวิธีสุ่มอย่างง่าย จากประชากรใน 3 ตำบล จำนวน 200 คน เครื่องมือเป็นแบบสอบถามที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้นมา วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้การวิเคราะห์ถดถอยพหุลอจิสติกส์ ขั้นตอนที่ 2 เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ บูรณาการด้วยการวิจัยเชิงปฏิบัติการอย่างมีส่วนร่วมแบบพาอิก คัดเลือกหมู่บ้านที่สมัครใจเข้าร่วมวิจัย จำนวน 11 หมู่บ้าน ประเมินผลสัมฤทธิ์ของรูปแบบโดยใช้แบบบันทึกข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา และการวิเคราะห์ความแปรปรวนพหุคูณ ผลการศึกษาขั้นตอนที่ 1 พบว่า ปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการป้องกันโรคมาลาเรียคือ การมีจิตสาธารณะในตนเองและแรงบันดาลใจในการดูแลสุขภาพ โดยผู้ที่มีจิตสาธารณะในตนเอง จะมีพฤติกรรมการป้องกันโรคมาลาเรียสูงเป็น 2.90 เท่า (OR = 2.90 , 95% Cl = 0.24-0.88) ของผู้ที่ไม่มีจิตสาธารณะในตนเอง ขั้นตอนที่ 2 รูปแบบการป้องกันการระบาดโรคมาลาเรียคือ การใช้กลยุทธ์อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านและกลุ่มเยาวชนเป็นจิตอาสา วางแผนการดำเนินงานโดยคณะกรรมการหมู่บ้าน ให้ความรู้และสรุปผลการดำเนินงานที่วัดทุกวันพระ มีองค์การบริหารส่วนตำบล โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล และศูนย์ควบคุมโรคติดต่อนำโดยแมลง สนับสนุนการดำเนินงาน การประเมินผลสัมฤทธิ์ พบว่า ทุกหมู่บ้านมีการดำเนินการตามรูปแบบดังกล่าว มีค่า HI เป็น 0 ทุกหมู่บ้าน จำนวนผู้ป่วยมาลาเรีย ปี พ.ศ. 2557 ลดลงจากปี พ.ศ. 2555 และ 2556 ร้อยละ 98.60 และร้อยละ 87.90 ตามลำดับ ดังนั้น ในพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคมาลาเรีย จึงมีความจำเป็นที่จะต้องหารูปแบบที่เหมาะสมในการดำเนินการ รูปแบบดังกล่าวควรเกิดจากชุมชนเองจึงจะเกิดความยั่งยืน ซึ่งสามารถนำรูปแบบที่ได้จากการวิจัยในครั้งนี้ ไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมตามบริบทในแต่ละพื้นที่ในลำดับต่อไป
Downloads
เอกสารอ้างอิง
2. สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 6 ขอนแก่น. รายงานสถานการณ์โรค [อินเตอร์เน็ต]. [ลืบค้นเมื่อ 25 มิ.ย. 2556]. แหล่งข้อมูล: http://dpc9.ddc. Moph.go.th
3. นงนภัส คู่วรัญญู เที่ยงกมล. การวิจัยเชิงบูรณาการแบบองค์รวม. กรุงเทพมหานคร: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย; 2553ก.
4. ..............................................การวิจัยเชิงบูรณาการแบบองค์รวม. กรุงเทพมหานคร: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย; 2554ข.
5. Hsieh YF, Bloch AD, Larsen DM. A simple method of sample size calculation for linear and logistic regression. Statistics in Medicine 1998;17:1623-34.
6 Hosmer wd, Lemeshow S. Applied logistic re¬gression. 2nd. The United States of American: John Willey & Sons, Inc; 2000.
7. Cronbach, L. J. Coefficient alpha and the inter¬nal structure of tests. Sychometrika 1951; 16:297-334.
8. ทวีทอง หงษ์วิวัฒน์, พิมพวัลย์ บุญมงคล. ความรู้และพฤติกรรมการป้องกันโรคมาลาเรียที่จังหวัดเพชรบุรี. กรุงเทพมหานคร: ศูนย์ศึกษานโยบายสาธารณสุข มหาวิทยาลัยมหิดล; 2533.
9. วันชัย สีหะวงษ์, วรสิทธิ์ ไหลหลั่ง, ฤชุอร วงศ์ภิรมย์. พฤติกรรมการป้องกันควบคุมโรคมาลาเรียของประชาชนพื้นที่ชายแดนไทย-ลาว และกัมพูชา เขตตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขที่ 11 และ 14. อุบลราชธานี: สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 อุบลราชธานี; 2551.
10. เสนาะ พ่วงฟัก. ปัจจัยด้านการปฏิบัติตนต่อการป้องกันโรคมาลาเรียของประชาชน บริเวณชายแดน
ประเทศไทย-เมียนมาร์ เขตอำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี. นนทบุรี: กองมาลาเรีย กรมควบคุมโรคติดต่อ; 2542.
11. ดวงสมร กองกูล. การพัฒนาแกนนำสิ่งแวดล้อมศึกษาด้วยจิตสาธารณะในการอนุรักษ์สิงแวดล้อมอย่างยั่งยืน สำหรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้น [วิทยานิพนธ์ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิต]. มหาสารคาม: มหาวิทยาลัยมหาสารคาม; 2555. 179 หน้า.
12. ศิริกัญญา ดรครชุม. รูปแบบความสัมพันธ์ พฤติกรรมการอนุรักษ์สิงแวดล้อมโดยบูรณาการความรู้ การประเมินวัฎจักรชีวิตสำหรับนิสิตระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยมหาสารคาม [วิทยานิพนธ์ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิต]. มหาสารคาม: มหาวิทยาลัยมหาสารคาม; 2555. 205 หน้า.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ลงพิมพ์ในวารสารควบคุมโรค ถือว่าเป็นผลงานทางวิชาการหรือการวิจัย และวิเคราะห์ตลอดจนเป็นความเห็นส่วนตัวของผู้เขียน ไม่ใช่ความเห็นของกรมควบคุมโรค ประเทศไทย หรือกองบรรณาธิการแต่ประการใด ผู้เขียนจำต้องรับผิดชอบต่อบทความของตน


