การศึกษาหาประสิทธิผลของภูมิปัญญาท้องถิ่นทาป้องกันยุงต่อยุงลายบ้าน โดยการมีส่วนร่วม ของท้องถิ่นภาคใต้
DOI:
https://doi.org/10.14456/dcj.2017.5คำสำคัญ:
ประสิทธิภาพในการไล่ยุง, ภูมิปัญญาท้องถิ่น, สารทาป้องกันยุงบทคัดย่อ
โรคไข้เลือดออกยังคงเป็นปัญหาสำคัญด้านสุขภาพในประเทศไทย มาตรการในการป้องกันและควบคุมโรค ไข้เลือดออกมีด้วยกันหลายวิธี โดยการมีส่วนร่วมของชุมชนถือเป็นปัจจัยความสำเร็จในการควบคุม ในปัจจุบัน ผู้คนในชุมชนได้เห็นคุณค่าของภูมิปัญญาท้องถิ่น และนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์มากขึ้น ซึ่งในพื้นที่ภาคใต้พบว่ามีการใช้ภูมิปัญญาในการทาป้องกันยุงมาช้านานหลากหลายรูปแบบ โดยหลายวิธีมีการใช้แต่ยังไม่มีการทดสอบ ประสิทธิผลในการป้องกันยุงอย่างชัดเจน ดังนั้นคณะผู้วิจัยจึงสนใจรวบรวมข้อมูลการใช้ภูมิปัญญาทาป้องกันยุงใน ท้องถิ่น 14 จังหวัดภาคใต้ และทดสอบประสิทธิผลของภูมิปัญญาทาป้องกันยุง จากการสำรวจในครั้งนี้พบ 11 ภูมิปัญญาทาป้องกันยุง ใน 7 จังหวัด ได้แก่ กระบี่ พัทลุง พังงายะลาปัตตานี ตรังและนราธิวาส เมื่อนำมาทดสอบ ประสิทธิผลทางห้องปฏิบัติการ ด้วยการทดสอบสารทากันยุงตาม WHO/HTM/NTD/WHOPES/2009.4 โดย ใช้อาสาสมัครทั้งหมด 4 คน ทาด้วยภูมิปัญญาป้องกันยุงบริเวณท้องแขนซ้ายเป็นบริเวณ 30 ซม.2 และทายากันยุง มาตรฐานตามท้องตลาด (DEET 12%) ที่แขนขวาเพื่อใช้เป็นยาทากันยุงควบคุม ส่วนบริเวณแขนที่ไม่ทายาปกปิด ให้มิดชิด ยื่นแขนเข้าไปในกรงยุง ขนาด 30 ซม.3 ที่มียุงลายบ้านเพศเมีย งดน้ำหวานมาแล้ว 24 ชั่วโมง อายุ 5-7 วัน จำนวน 200 ตัว สังเกตยุงที่เข้ากัดเป็นเวลา 3 นาที ทุกครึ่งชั่วโมง จนมียุงตัวที่ 1-2 ลงเกาะแขน ที่ทาภูมิปัญญาจึงหยุดการทดสอบ หรือหยุดการทดสอบเมื่อครบ 8 ชั่วโมง แล้วคำนวณระยะเวลาเฉลี่ยในการป้องกัน ยุงพบว่าภูมิปัญญาท้องถิ่นทาป้องกันยุงที่มีประสิทธิผลในการป้องกันยุงมากกว่าสองชั่วโมง มี 2 ภูมิปัญญาได้แก่ ครีมไบโอเรทากันยุงกลิ่นส้ม (กระบี่) และภูมิปัญญาครีมน้ำนมมะขามตะไคร้หอมทากันยุง (พัทลุง) เมื่อสิ้นสุด โครงการได้รายงานผลการทดสอบกลับคืนสู่ชุมชน เพื่อให้ชุมชนนำผลการทดสอบไปใช้ประโยชน์ เพื่อให้เกิด การพึ่งพาตนเอง และเสริมสร้างความมั่นคงด้านสุขภาพในชุมชน โดยเกิดประโยชน์ทางสาธารณสุขต่อไป
Downloads
เอกสารอ้างอิง
2. สำนักพัฒนาเกษตรกร กรมส่งเสริมการเกษตร. ลักษณะของภูมิปัญญาท้องถิ่น [อินเทอร์เน็ต]. [สืบค้นเมื่อ 12 ต.ค. 2556]. แหล่งข้อมูล: http:// www.agriinfo.doae.go.th/year52/knowledge/ km_10-03-52
3. สถาบันวิจัยวลัยรุกขเวช มหาวิทยาลัยมหาสารคาม. การศึกษาภูมิปัญญาพื้นบ้านอีสานในการใช้สมุนไพร กับสัตว์. กรุงเทพมหานคร: สำนักงานกองทุน สนับสนุนการวิจัย; 2545.
4. กัลยารัตน์ จำปา. การจัดการความรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านสมุนไพรของชมรมสมุนไพรในเขต คำชะอี จังหวัดมุกดาหาร [รายงานการศึกษาอิสระ ปริญญารัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต]. ขอนแก่น: มหาวิทยาลัยขอนแก่น; 2553. 87 หน้า.
5. Hongsawong M. North Eastern Thai herbs: local wisdom application for conservation made by Khong River Community. European Journal of Social Sciences 2011;23:474-82.
6. อุษาวดี ถาวระ, อภิวัฏ ธวัชสิน, จารีย์ บันสิทธิ์, เย็นจิตร เตชะดำรงสิน. สมุนไพรป้องกันกำจัดแมลง ทางการแพทย์. กรุงเทพมหานคร: ดีไซร์; 2550.
7. คณะกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว. วัฒนธรรมพัฒนาการทางประวัติศาสตร์ เอกลักษณ์และภูมิปัญญาจังหวัดสระแก้ว. กรุงเทพมหานคร: คณะกรรมการ ฝ่ายประมวลเอกสารและจดหมายเหตุในคณะ กรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ; 2542.
8. สมโภชน์ สมบัติ. ผลิตเสื่อสมุนไพรตะไคร้หอม ไล่ยุง ถักทอจากภูมิปัญญาบ้านดอนหัน. คมชัดลึก.
2552 พ.ค. 20; 8 (CPS9576)
9.คณะทำงานปฏิบัติงานขับเคลื่อนการจัดการความรู้ในงานส่งเสริมการเกษตร.คู่มือฉบับชาวบ้านเรื่อง ควันไฟไล่แมลง. พัทลุง: สำนักงานเกษตรจังหวัด พัทลุง; 2555.
10. สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ. จีวรกันยุงสมุนไพร ไทยปลอดสารเคมี [อินเทอร์เน็ต]. [สืบค้นเมื่อ 10 ต.ค. 2556]. แหล่งข้อมูล: http://library.dip. go.th/Industrial%20Innovation/www/pro_ det1-068.html
11. Sree-iam S. The development of mosquito-re¬pellent formulations containing Citronella oil and Plai oil (Zingiber casumunar Roxb) [disserta¬tion]. Bangkok: Mahidol University; 1991. 165 p.
12. พรศักดิ์ ศรีอมรศักดิ์. การพัฒนาเจลไล่ยุงที่มีส่วน ผสมของน้ำมันหอมระเหยจากสมุนไพร. กรุงเทพ มหานคร: สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย; 2550.
13. Sritabutra D, Soonwera M. Repellent activity of herbal essential oils against Aedes aegypti (Linn.) and Culex quinquefasciatus (Say.). Asian Pac J Trop Dis 2013;3:271-6.
14. Phasomkusolsil S, Soonwera M. Comparative mosquito repellency of essential oils against Aedes aegypti (Linn.), Anopheles dirus (Peyton and Harrison) and Culex quinquefasciatus (Say). Asian Pac J Trop Biomed 2011;1:S113-8.
15. Pates HV, Lines JD, Keto AJ, Miller JE. Per¬sonal protection against mosquitoes in Dar es Salaam, Tanzania, by using a kerosene oil lamp to vaporize transfluthrin. Med Vet Entomol 2002;16:277-84.
16. World Health Organization. Guidelines for effi¬cacy testing of mosquito repellents for human. Geneva: World Health Organization; 2009.
17. Kaewmanee S. Repellent effects of some selected medicinal plant extracts on mosquitoes [dissertation]. Bangkok: Mahidol University; 1992. 65 p.
18. Kim SI, Chang KS, Yang YC, Kim BS, Ahn YJ. Repellency of aerosol and cream productscon¬taining fennel oil to mosquitoes underlaboratory and field conditions. Pest Manag Sci 2004;60: 1125-30.
19. Karunamoorthi K. Tinjute [Labiatae; (Otostegia integrifolia]: a versatile Ethiopian ethnomedicinal plant-a systematic review of the scientific evidences. TANG 2014;4:1-6.
20. Karunamoorthi K, Hailu T. Insect repellent plants traditional usage practices in the Ethiopian malaria epidemic-prone setting: an ethnobotanical survey. J Ethnobiol Ethnomed 2014;10:1-11.
21. Kidane D, Tomass Z, Dejene T. Community knowledge of traditional mosquito repellent plants in Kolla Temben District, Tigray, North¬ern Ethiopia. Scie Res Essays 2013;8:1139- 44.
22. หทัยรัตน์ ริมคีรี, วิชัย หฤทัยธนาสันดิ์, พงษ์ศิริ วินิจฉัย. โลชั่นทากันยุ งจากน้ำมันหอมระเหยธรรมชาติ .การประชุมทางวิชาการของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สาขาอุตสาหกรรมเกษตร ครั้งที่ 37; วันที่ 3-5 กุมภาพันธ์ 2542; มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, กรุงเทพมหานคร. กรุงเทพมหานคร: 2542. 124-9.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ลงพิมพ์ในวารสารควบคุมโรค ถือว่าเป็นผลงานทางวิชาการหรือการวิจัย และวิเคราะห์ตลอดจนเป็นความเห็นส่วนตัวของผู้เขียน ไม่ใช่ความเห็นของกรมควบคุมโรค ประเทศไทย หรือกองบรรณาธิการแต่ประการใด ผู้เขียนจำต้องรับผิดชอบต่อบทความของตน


