การเปลี่ยนแปลงทางระบาดวิทยาของโรคไข้เลือดออกในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ปี พ.ศ. 2539-2559
DOI:
https://doi.org/10.14456/dcj.2017.1คำสำคัญ:
ระบาดวิทยา, ไข้เลือดออก, กรุงเทพมหานครบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้เป็นการศึกษาเชิงพรรณนา มีวัตถุประสงค์เพื่อทราบการเปลี่ยนแปลงทางระบาดวิทยาของ โรคไข้เลือดออกในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และหาความสัมพันธ์ระหว่างการป่วยกับสภาพภูมิอากาศ ประชากรศึกษา คือ ผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกทั้ง 3 รหัสโรค (26, 27 และ 66) ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2539 - 30 กันยายน 2559 โดยศึกษาจากข้อมูลรายงานผู้ป่วยทางระบาดวิทยา และข้อมูลสภาพภูมิอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา วิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่ามัธยฐาน อัตรา อัตราส่วนและสหสัมพันธ์ ผลการศึกษาพบว่า มีรายงานผู้ป่วยโรคไข้เลือดออก รวม 192,613 ราย อัตราป่วย 35.47-461.19 ต่อประชากรแสนคนต่อปี อัตราป่วยตาย ร้อยละ 0-0.18 สัดส่วน อัตราป่วยในกลุ่ม 15 ปีขึ้นไป มีแนวโน้มสูงขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2544 ส่วนกลุ่ม 10-14 ปี คงที่ และกลุ่ม ≤9 ปี แนวโน้มลดลง ไม่พบความสัมพันธ์ระหว่างอัตราเพิ่มของอายุเฉลี่ยผู้ป่วยและอายุเฉลี่ยประชากร (r = -0.22, 95% CI = -0.69 to 0.38, p=0.47) อัตราส่วนผู้ป่วยเพศชายสูงกว่าเพศหญิง รูปแบบการระบาดก่อนปี พ.ศ. 2548 เป็นแบบสองปีเว้นสองปี หลังจากนั้นรูปแบบไม่แน่นอน การระบาดตามฤดูกาลช้าลงตั้งแต่ปี พ.ศ. 2553 จากเดิม ที่มีอัตราป่วยต่ำสุดเดือนเมษายนเลื่อนเป็นเดือนพฤษภาคม อัตราป่วยเริ่มสูงจากเดือนมิถุนายนเป็นเดือนกรกฎาคม อัตราป่วยมีความสัมพันธ์เชิงเส้นกับปริมาณน้ำฝน (r = 0.18, 95% CI = 0.05 to 0.29, p=0.01) อุณหภูมิ (r = -0.18, 95% CI = -0.30 to -0.06, p=0.00) และความชื้นสัมพัทธ์ (r = 0.20, 95% CI = 0.08 to 0.32, p=0.00) ในเชิงพื้นที่พบเขตที่ระบาดซ้ำซากทุกปี จำนวน 35 เขต และอัตราป่วยรายเขตมีความสัมพันธ์เชิงเส้น กับความหนาแน่นประชากร (r = 0.08, 95% CI = 0.01 to 0.16, p=0.03) แต่ละปีพบผู้ป่วย DHF มากที่สุด (ร้อยละ 51.26-92.59) รองลงมาคือ DF (ร้อยละ 6.69-48.49) และ DSS (ร้อยละ 0.25-0.83) ช่วงปี พ.ศ. 2552-2559 พบว่า สัดส่วนผู้ป่วย DF มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น แต่ DHF ลดลง หน่วยงานและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง จึงควรเร่งดำเนินการป้องกันควบคุมโรคให้สอดคล้องกับฤดูการระบาดที่เปลี่ยนไป ควรมีการเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ในพื้นที่ระบาดซ้ำซาก แพทย์ต้องตระหนักและคำนึงถึงโรคไข้เลือดออกในผู้ป่วยวัยผู้ใหญ่มากขึ้น รวมถึงควรระวัง ผู้ป่วย DF ที่อาจมีอาการไม่ชัดเจน
Downloads
เอกสารอ้างอิง
2. สำนักโรคติดต่อนำโดยแมลง.คู่มือวิชาการโรคติดเชื้อเด็งกีและโรคไข้เลือดออกเด็งกีด้านการแพทย์และสาธารณสุข. กรุงเทพมหานคร: อักษร กราฟฟิค แอนด์ ดีไซน์; 2558.
3. สำนักระบาดวิทยา. รายงานโรคในระบบเฝ้าระวัง 506 DHF total [อินเทอร์เน็ต]. [สืบค้นเมื่อ 10 เม.ย. 2559]. แหล่งข้อมูล: http :// www . boe. moph.go.th/boedb/surdata/506wk/y58/ d262766_5258.pdf
4. Chareonsook O, Foy HM, Teeraratkul A, Silarug N. Changing epidemiology of dengue hemorrhagic fever in Thailand. Epidemiol Infect 1999;122: 161-6.
5. Limkittikul K, Brett J, L’Azou M. Epidemiological trends of dengue disease in Thailand (2000- 2011): a systematic literature review. PLoS Negl Trop Dis 2014;8:e3241.
6. กรกช วิจิตรจรัสแสง. สถานการณ์และปัจจัยสภาพ แวดล้อมที่เกี่ยวข้องกับการระบาดของโรคไข้ เลือดออกจังหวัดลำปาง ระหว่างปี 2546-2555 [การค้นคว้าแบบอิสระปริญญาสาธารณสุขศาสตร มหาบัณฑิต]. เชียงใหม่: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่; 2557. 76 หน้า.
7. Tanayapong S, Pengsaa K, Thisyakorn U. Changing epidemiology of dengue patients in Ratchaburi, Thailand. Asian Biomed 2013;7:561-6.
8. ศิริชัย วงศ์วัฒนไพบูลย์. การศึกษาระบาดวิทยาโรค ไข้เลือดออกในประเทศไทย การพยากรณ์และแนวทาง ป้องกันควบคุมโรค. รายงานการเฝ้าระวังทางระบาด วิทยาประจำสัปดาห์ 2550;38:613-8.
9. Tipayamongkholgul M, Fang CT, Klinchan S, Liu CM, King CC. Effects of the El Niño-southern oscillation on dengue epidemics in Thailand, 1996-2005. BMC Public Health 2009;9:422.
10. เสรี นพรัตน์. ระบาดวิทยาของโรคไข้เลือดออกใน จังหวัดอุตรดิตถ์ [การค้นคว้าแบบอิสระปริญญา สาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต]. เชียงใหม่: มหาวิทยาลัย เชียงใหม่; 2543. 100 หน้า.
11. กลุ่มระบาดวิทยาและข่าวกรอง สำนักงานป้องกัน ควบคุมโรคที่ 1 กรุงเทพมหานคร. รายงานการ พยากรณ์โรคปี 2557. กรุงเทพมหานคร: ซีนิธกรุ๊ป; 2557.
12. อุษาวดี ถาวระ. ยุงชอบกัดคนประเภทไหน [อินเทอร์เน็ต]. [สืบค้นเมื่อ 17 มี.ค. 2560]. แหล่ง ข้อมูล:http://webdb.dmsc.moph.go.th/ifc_nih /a_nih_1_001c.asp?info_id=378
13. Bhatia R, Dash AP, Sunyoto T. Changing epide¬miology of dengue in South-East Asia. WHO South-East Asia Journal of Public Health 2013;2:23-7.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ลงพิมพ์ในวารสารควบคุมโรค ถือว่าเป็นผลงานทางวิชาการหรือการวิจัย และวิเคราะห์ตลอดจนเป็นความเห็นส่วนตัวของผู้เขียน ไม่ใช่ความเห็นของกรมควบคุมโรค ประเทศไทย หรือกองบรรณาธิการแต่ประการใด ผู้เขียนจำต้องรับผิดชอบต่อบทความของตน


