ปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดของผู้ป่วยเบาหวาน ที่มารับบริการในโรงพยาบาลควนเนียง จังหวัดสงขลา
DOI:
https://doi.org/10.14456/dcj.2017.29คำสำคัญ:
โรคหัวใจและหลอดเลือด, โรคเบาหวานบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา (1) ปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดของผู้ป่วยเบาหวานที่มารับบริการในโรงพยาบาลควนเนียง จังหวัดสงขลา กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยคือ ผู้ป่วยเบาหวานที่มารับบริการในโรงพยาบาลควนเนียงในปี 2557-2558 จำนวน 457 คน เก็บรวบรวมข้อมูลจากระเบียนผู้ป่วยโรคเบาหวาน โรงพยาบาลควนเนียง วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา ไคสแควร์ และสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์สเปียร์แมน กำหนดนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 และ (2) เพื่อศึกษาประสิทธิผลของโปรแกรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมป้องกันโรคในผู้ป่วยเบาหวานที่มีภาวะเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้ป่วยเบาหวานที่มีภาวะเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวานในระดับปานกลาง เสี่ยงสูงและเสี่ยงสูงอันตราย จำนวน 74 คน แบ่งเป็นกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม กลุ่มละ 37 คน ผลการวิจัยพบว่า ผู้ป่วยมีภาวะเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดในระดับเสี่ยงต่ำมากและเสี่ยงต่ำ ร้อยละ 60.40 และ 23.40 ตามลำดับ ส่วนผู้ป่วยที่มีภาวะเสี่ยงปานกลาง เสี่ยงสูงและเสี่ยงสูงอันตราย คิดเป็นร้อยละ 12.50, 2.80 และ 0.90 ตามลำดับ ผลการทดสอบความสัมพันธ์พบว่า การสูบบุหรี่มีความสัมพันธ์กับระดับภาวะเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 และพบว่า อายุ ระดับความดันโลหิต และระดับโคเลสเตอรอลในเลือดมีความสัมพันธ์ทางบวกกับระดับภาวะเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.001 และพบว่า โปรแกรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมป้องกันการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดในผู้ป่วยเบาหวานที่มีภาวะเสี่ยง โดยประยุกต์ทฤษฎีการจูงใจเพื่อการป้องกันโรคมาเป็นแนวทางในการจัดกิจกรรมพบว่า กลุ่มทดลองมีคะแนนการรับรู้ทั้ง 4 ด้าน และมีคะแนนพฤติกรรมป้องกันการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดสูงกว่าก่อนการจัดโปรแกรมและสูงกว่ากลุ่มควบคุม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 จึงควรนำปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคและโปรแกรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจากการวิจัยครั้งนี้ไปใช้เป็นแนวทางในการเฝ้าระวังและปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ป้องกันการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดในผู้ป่วยเบาหวานที่มีภาวะเสี่ยงในโรงพยาบาลควนเนียง จังหวัดสงขลา ให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายยิ่งขึ้น รวมทั้งการประยุกต์ใช้ในหน่วยบริการสุขภาพอื่นๆ ตามความเหมาะสมต่อไป
Downloads
เอกสารอ้างอิง
2. สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข. จำนวนและอัตราตายด้วยโรคหัวใจขาดเลือด พ.ศ. 2551-2555 [อินเทอร์เน็ต]. [สืบค้นเมื่อ 5 มี.ค. 2559]. แหล่งข้อมูล: http://www.thaincdiof.com//information-statistic/non-communicable-disease-data.php
3. กระทรวงสาธารณสุข, สำนักโรคไม่ติดต่อ. จำนวนผู้ป่วยในโรคหัวใจขาดเลือด/โรคเบาหวาน/โรคความดันโลหิตสูง/โรคหลอดเลือดสมอง/โรคหลอดลมอักเสบ/ถุงลมโป่งพอง/และปอดชนิดอุดกั้นเรื้อรัง/โรคหืด ตั้งแต่ พ.ศ. 2550-2555 [อินเทอร์เน็ต]. [สืบค้นเมื่อ 7 มี.ค. 2559]. แหล่งข้อมูล: http://www.thaincd.com/information-statistic/communicable-disease-data.php.2556
4. สำนักงานพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ. รายงานภาระโรคและการบาดเจ็บของประชากรไทย พ.ศ. 2554. กรุงเทพมหานคร: องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก; 2557.
5. อมรา ทองหงส์, กมลชนก เทพสิทธา, ภาคภูมิ จงพิริยะอนันต์. รายงานการเฝ้าระวังโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ปี พ.ศ. 2554. รายงานการเฝ้าระวังทางระบาดวิทยาประจำสัปดาห์ [อินเทอร์เน็ต]. [สืบค้นเมื่อ 6 มี.ค.2559];44:145-52. เข้าถึงได้จาก: http://www.boe.moph.go.th
6. ฉัตรปวีณ์ จรัสวราวัฒน์. ปัจจัยเสี่ยงและการป้องกันโรคหัวใจขาดเลือด. วารสารการแพทย์และวิทยาศาสตร์สุขภาพ 2552;16:33-41.
7. สินธิป พัฒนะคูหา. ผลจากการลดกิจกรรมนั่งๆ นอนๆ ต่อปัจจัยเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดของผู้พิการบาดเจ็บไขสันหลัง. เวชศาสตร์ฟื้นฟูสาร 2558;1:3-5.
8. อรวรรยา ภูมิศรีแก้ว. ปัจจัยเสี่ยงและการรับรู้ปัจจัยเสี่ยงของโรคหัวใจขาดเลือดในผู้ป่วยเบาหวาน. วารสารวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี นครราชสีมา 2555;2:34-47.
9. ราม รังสินธุ์, ปิยทัศน์ ทัศนาวิวัฒน์, คณะทำงานเจ้าหน้าที่เครือข่ายวิจัยกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย. การประเมินผลการดูแลผู้ป่วยโรคเบาหวาน ชนิดที่ 2 และความดันโลหิตสูงของโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขและโรงพยาบาลในสังกัดกรุงเทพมหานคร ประจำปี 2555 [อินเทอร์เน็ต]. [สืบค้นเมื่อ 6 มี.ค. 2559]. แหล่งข้อมูล: http://www.tima.or.th/index.php/component/attachments/download/24
10. นิตยา พันธุเวทย์, หทัยชนก ไชยวรรณ. ประเด็นสารรณรงค์วันหัวใจโลก ปี พ.ศ. 2557 ของสำนักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค [อินเทอร์เน็ต]. [สืบค้นเมื่อ 12 มี.ค. 2559]. แหล่งข้อมูล: http://www.ddc.moph.go.th/login/filedata/57-WorldHeart29095.pdf
11. โรงพยาบาลควนเนียง. รายงานประจำปีโรงพยาบาลควนเนียง 2554-2556 กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข การประเมินโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดในผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูง. กรุงเทพมหานคร: ชุมชนสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย; 2558.
12. ชยาภรณ์ โชติญาณวงษ์, กมลทิพย์ หาญผดุงกิจ. การศึกษาเชิงระบาดวิทยาของลักษณะผู้ป่วยนอกที่หน่วยเวชศาสตร์ฟื้นฟูหัวใจ โรงพยาบาลศิริราช. เวชศาสตร์ฟื้นฟูสาร 2558;1:30-8.
13. Fielding J, Smoking. Health effect and control (first of two part). N Engl J Med 1985;313: 491-8.
14. US Department of Health and Human Services: The Health benefits of smoking cessation. A Report of the Surgeon General. Rockville: DHHS Publication; 1990.
15. Willett WC, Green A, Stampfer MJ. Relative and absolute excess risks of coronary heart disease among women who smoke cigarettes. N Engl J Med 1987; 317:1303-9.
16. สิรอัยย์กร น้าสุนีย์, พีรยุทธ เฟื้องฟุ้ง, วิสูตร ฟองศิริไพบูลย์. ความสัมพันธ์ระหว่างความอ้วนและภาวะหลอดเลือดหัวใจตีบแข็งในประชากรไทย. วารสารสมาคมแพทย์นิติเวชแห่งประเทศไทย 2555;2:79-89.
17. สุดาพรรณ ธัญจิรา. ความผิดปกติของหลอดเลือด.ใน: สุจินดา ริมศรีทอง, สุดาพรรณ ธัญจิรา, อรุณศรี เตชัลหงส์, สุภามาศ ผาติประจักษณ์, บรรณาธิการ. พยาธิสรีรวิทยาทางการพยาบาล เล่ม 2. พิมพ์ครั้งที่ 4. กรุงเทพมหานคร: สามเจริญพาณิชย์; 2556. หน้า 92-125.
18. อรสา พันธ์ภักดี. ความผิดปกติของหัวใจ. ใน: สุจินดา ริมศรีทอง, สุดาพรรณ ธัญจิรา, อรุณศรี เตชัลหงส์, สุภามาศ ผาติประจักษณ์, บรรณาธิการ. พยาธิสรีรวิทยาทางการพยาบาล เล่ม 2. พิมพ์ครั้งที่ 4. กรุงเทพมหานคร: สามเจริญพาณิชย์; 2556. หน้า 126-59.
19. ดวงชีวัน เทศสมบูรณ์, อรทัย ตั้งวรสิทธิชัย, สุรพล ตั้งวรสิทธิชัย. ระดับ 8-Hydroxy-2’-deoxyguanosine ที่เพิ่มขึ้นเป็นสารบ่งชี้การเกิดการทำลายดีเอ็นเอจากภาวะ oxidative stress ในผู้ป่วยเบาหวาน. วารสารสาธารณสุข มหาวิทยาลัยบูรพา 2556;8: 94 -103.
20. สมบูรณ์ พันธุ์บุตร. ประสิทธิผลของการประยุกต์ใช้แรงจูงใจเพื่อการป้องกันโรคร่วมกับแรงสนับสนุนทางสังคมในการดูแลสุขภาพผู้ป่วยโรคเบาหวาน ในเขตตำบลไร่ขี อำเภอลืออำนาจ จังหวัดอำนาจเจริญ. วารสารสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 2557;4: 40-51.
21. วีณา เที่ยงธรรม, อาภาพร เผ่าวัฒนา, อรนุช พงษ์สมบูรณ์. โปรแกรมการป้องกันโรคความดันโลหิตสูงในระดับปฐมภูมิสำหรับประชากรกลุ่มเสี่ยงในชุมชน จังหวัดนครปฐม. วารสารพยาบาลสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 2553;1-3:11-28.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ลงพิมพ์ในวารสารควบคุมโรค ถือว่าเป็นผลงานทางวิชาการหรือการวิจัย และวิเคราะห์ตลอดจนเป็นความเห็นส่วนตัวของผู้เขียน ไม่ใช่ความเห็นของกรมควบคุมโรค ประเทศไทย หรือกองบรรณาธิการแต่ประการใด ผู้เขียนจำต้องรับผิดชอบต่อบทความของตน


