ระบาดวิทยาของโรคมาลาเรีย อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ : การวิเคราะห์ข้อมูลทุติยภูมิ ปี 2553-2557
DOI:
https://doi.org/10.14456/dcj.2017.23คำสำคัญ:
มาลาเรีย, อุบัติการณ์, ผลการรักษา, อำเภอกาบเชิงบทคัดย่อ
มาลาเรียเป็นโรคติดเชื้อที่เป็นปัญหาสำคัญของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่ที่อยู่ตามแนวชายแดนที่ยังพบอัตราการป่วยด้วยมาลาเรียค่อนข้างสูง วัตถุประสงค์ของการศึกษาในครั้งนี้เพื่อศึกษาอุบัติการณ์และการกระจายของโรคมาลาเรีย ลักษณะทางระบาดวิทยาของผู้ป่วย รวมถึงผลการรักษาในพื้นที่อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เพื่อเป็นประโยชน์ในการควบคุมและป้องกันโรคมาลาเรียให้มีประสิทธิภาพต่อไปในอนาคต การศึกษานี้ เป็นการศึกษาเชิงพรรณนาโดยวิเคราะห์ข้อมูลทุติยภูมิ 5 ปีย้อนหลัง ตั้งแต่ พ.ศ. 2553-2557 ประชากรศึกษาและกลุ่มตัวอย่างคือ ผู้ที่ได้รับการวินิจฉัยว่าติดเชื้อมาลาเรีย และเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลกาบเชิง และหน่วยควบคุมโรคติดต่อนำโดยแมลงที่ 5.3.2 อำเภอกาบเชิง ระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2553 ถึง 31 ธันวาคม 2557 เก็บรวบรวมข้อมูลจากเวชระเบียนผู้ป่วยมาลาเรีย โรงพยาบาลกาบเชิง และทะเบียนผู้ป่วยมาลาเรียของหน่วยควบคุมโรคติดต่อนำโดยแมลงที่ 5.3.2 อำเภอกาบเชิง ซึ่งประกอบด้วยข้อมูลทั่วไปด้านประชากรศาสตร์ อาชีพที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อมาลาเรีย ชนิดของเชื้อมาลาเรีย วันที่วินิจฉัย ชนิดของยาและผลการรักษา วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา นำเสนอเป็นจำนวนและร้อยละ ผลการศึกษา ผู้ได้รับการวินิจฉัยว่าป่วยโรคมาลาเรียมีจำนวน 133, 76, 22, 41 และ 71 คน คิดเป็นอัตราการป่วย 2.1, 1.3, 0.4, 0.7 และ 1.2 ต่อประชากร 1,000 คน ในปี พ.ศ. 2553, 2554, 2555, 2556 และ 2557 ตามลำดับ เป็นการป่วยเพียงครั้งเดียวในรอบ 5 ปี ร้อยละ 77.5 ป่วยมากกว่าหนึ่งครั้ง ร้อยละ 22.5 โดยเฉลี่ย 1 คน ป่วยด้วยโรคมาลาเรีย 1.5 ครั้ง และพบว่ามีการกระจายอยู่ในทุกกลุ่มอายุ ส่วนใหญ่เป็นเพศชายและเป็นคนไทย ชนิดของเชื้อมาลาเรียที่ตรวจพบมากที่สุดในจำนวนครั้งของการป่วยคือ P. vivax (ร้อยละ 85.3) รองลงมาคือ P. falciparum (ร้อยละ 13.0) และพบเชื้อทั้งสองชนิดร่วมกัน (ร้อยละ 1.7) อาชีพขณะที่ได้รับเชื้อมาลาเรีย ส่วนใหญ่มีอาชีพเป็นทหารพรานที่ออกลาดตระเวนตามชายแดน (ร้อยละ 46.4) รองลงมาคือ อาชีพหาของป่า ทำสวน ทำไร่ ถางป่า (ร้อยละ 34.2) และอาชีพรับจ้าง (ร้อยละ 13.3) สถานที่ที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อมาลาเรีย พบมากที่สุดเป็นพื้นที่ตำบลด่าน รองลงมาคือ ตำบลโคกตะเคียนของอำเภอกาบเชิง และมีการกระจายตามบริเวณป่าเขื่อนที่เป็นแนวชายแดน ยาที่ใช้ในการรักษาส่วนใหญ่เป็นไปตามมาตรฐานแนวทางเวชปฏิบัติในการรักษาผู้ป่วยมาลาเรียในประเทศไทย พ.ศ. 2557 หลังการรักษาครบ 3 วัน ยังคงตรวจพบเชื้อมาลาเรียในกระแสเลือด ร้อยละ 4.4 (P. falciparum ร้อยละ 15.4 , P. vivax ร้อยละ 0.7) ในช่วงวันที่ 7-28 พบเชื้อมาลาเรียในกระแสเลือด ร้อยละ 3.5 (P. falciparum ร้อยละ 10.3 และ P. vivax ร้อยละ 2.1) และเมื่อสิ้นสุดวันที่ 28 ตรวจไม่พบเชื้อมาลาเรียในกระแสเลือด ร้อยละ 97.1 (P. falciparum ร้อยละ 91.4 และ P. vivax ร้อยละ 98.5) การศึกษานี้ชี้ให้เห็นว่า การป่วยด้วยโรคมาลาเรียยังเป็นปัญหาที่สำคัญของพื้นที่อำเภอกาบเชิง มีความจำเป็นต้องทบทวนมาตรการควบคุมป้องกันโรคที่ผ่านมา รวมทั้งระบบเฝ้าระวังโรคเพื่อติดตามสถานการณ์การดื้อยา หรือการติดเชื้อใหม่อย่างต่อเนื่อง
Downloads
เอกสารอ้างอิง
2. สำนักโรคติดต่อนำโดยแมลง กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. แนวทางการวินิจฉัยและดูแลรักษาโรคไข้มาลาเรีย ประเทศไทย พ.ศ. 2558 [อินเทอร์เน็ต]. [สืบค้นเมื่อ 15 ม.ค. 2559]. แหล่งข้อมูล: www.thaivbd.org/n/docs/view/5
3. สำนักโรคติดต่อนำโดยแมลง กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. สถานการณ์โรคมาลาเรียประจำสัปดาห์ที่ 1-52 ปี พ.ศ. 2557 [อินเทอร์เน็ต]. [สืบค้นเมื่อ 15 ม.ค. 2559]. แหล่งข้อมูล: http://www.thaivbd.org/n/histories/view/2464
4. World Health Organization. Methods for surveillance of antimalarial drug efficacy. Geneva: World Health Organization; 2009.
5. World Health Organization. Global report on antimalarial drug efficacy and drug resistance: 2000-2010. Geneva: World Health Organization; 2010.
6. สำนักสารนิเทศ กระทรวงสาธารณสุข. ข่าวเพื่อสื่อมวลชน [อินเทอร์เน็ต]. [สืบค้นเมื่อ 25 เม.ย. 2559]. แหล่งข้อมูล: http://pr.moph.go.th/iprg/ include/admin_hotnew/show_hotnew.php?id-Hot_new=72459
7. กรมควบคุมโรค. แผนยุทธศาสตร์โรคติดต่อนำโดยแมลงระดับชาติ ปี 2555-2559 [อินเทอร์เน็ต]. [สืบค้นเมื่อ 15 ม.ค. 2559]. แหล่งข้อมูล: http://www.thaivbd.org/n/projects/download/63
8. Srinivas, Malaria site. Tag Archives: treatment failure [Internet]. [cited 2017 Jan 17]. Available from: http://www.malariasite.com/tag/treatment-failure/
9. Khatib RA, Skarbinski J, Njau JD, Goodman CA, Elling BF, Kahigwa E, et al. Routine delivery of artemisinin-based combination treatment at fixed health facilities reduces malaria prevalence in Tanzania: an observational study. Malaria journal [Internet]. 2012 [cited 2016 January 17];11:140. Available from: http://www.malariajournal.com/content/11/1/140/table/T2
10. Adhikari P. Recurrent malaria - An enigma?. Indian J Med Sci [Internet]. 2000 [cited 2016 Jan 18];54:325-9]. Available from: http:// www.indianjmedsci.org/ text.asp?2000/54/8/325/12175
11. ชำนาญ ปินนา. ประสิทธิผลของการควบคุมโรคมาลาเรียในจังหวัดพื้นที่แพร่เชื้อ ภายใต้โครงการกองทุนโลก. วารสารวิชาการสาธารณสุข 2556;22: 944-55.
12. Kaewpitoon N, Loyd RA, Kaewpitoon SJ, Rujirakul R. Malaria risk areas in Thailand Border. J Med Assoc Thai 2015;98 Suppl 4:S17-21.
13. ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย, สำนักโรคติดต่อนำโดยแมลง กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. แนวทางเวชปฏิบัติในการรักษาผู้ป่วยมาลาเรียในประเทศไทย ฉบับปี พ.ศ. 2557. กรุงเทพมหานคร: สำนักโรคติดต่อนำโดยแมลง; 2557.
14. Satimai W, Sudathip P, Vijaykadga S, Khamsiriwatchara A, Sawang S, Potithavoranan T, etal. Artemisinin resistance containment project in Thailand. II: responses to mefloquine-artesunate combination therapy among falciparum malaria patients in provinces bordering Cambodia. Malaria Journal 2012;11:300.
15. Rogers WO, Sem R, Tero T, Chim P, Lim P, Muth S, et al. Failure of artesunate-mefloquine combination therapy for uncomplicated Plasmodium falciparum malaria in southern Cambodia. Malaria Journal 2009;8:10.
16. World Health Organization. Guidelines for the treatment of malaria. 3rd ed. Geneva: World Health Organization; 2015.
17. World Health Organization. Global plan for artemisinin resistance containment (GPARC) 2011 [Internet]. [cited 2017 Jan 26].Available from: http://www.who.int/ malaria/publications/atoz/9789241500838/en/
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ลงพิมพ์ในวารสารควบคุมโรค ถือว่าเป็นผลงานทางวิชาการหรือการวิจัย และวิเคราะห์ตลอดจนเป็นความเห็นส่วนตัวของผู้เขียน ไม่ใช่ความเห็นของกรมควบคุมโรค ประเทศไทย หรือกองบรรณาธิการแต่ประการใด ผู้เขียนจำต้องรับผิดชอบต่อบทความของตน


