การเปรียบเทียบความรู้ ทัศนคติ แรงสนับสนุนทางสังคม และพฤติกรรมการป้องกันโรคไข้เลือดออกของประชาชนในตำบลที่มีการระบาด กับตำบลที่ไม่มีการระบาด ในพื้นที่อำเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี
DOI:
https://doi.org/10.14456/dcj.2018.10คำสำคัญ:
ความรู้, ทัศนคติ, แรงสนับสนุนทางสังคม, พฤติกรรมการป้องกันโรคไข้เลือดออกบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาเปรียบเทียบความรู้ ทัศนคติ แรงสนับสนุนทางสังคมและพฤติกรรมการป้องกันโรคไข้เลือดออกของประชาชนที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านที่มีการระบาด และไม่มีการระบาดของโรคไข้เลือดออกในพื้นที่อำเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี กลุ่มตัวอย่างคือ ตัวแทนครัวเรือนที่มีอายุ 20-60 ปี จำนวน 291 รายเครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาเป็นแบบสัมภาษณ์ซึ่งผ่านการทดสอบคุณภาพอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ การแจกแจงความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที (independent t-test) ผลการวิจัยเปรียบเทียบระหว่างกลุ่มตัวอย่างของหมู่บ้านที่มีการระบาดของโรคไข้เลือดออกและหมู่บ้านที่ไม่มีการระบาดของโรคไข้เลือดออกพบว่า ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง มีอายุเฉลี่ยเท่ากับ 35.9 และ38.1 ปี มีความรู้เฉลี่ย 9.6 และ 10.5 คะแนน ทัศนคติเฉลี่ย 43.4 และ 41.2 คะแนน แรงสนับสนุนทางสังคมเฉลี่ย 17.0 และ 19.2 คะแนน และพฤติกรรมการป้องกันโรคไข้เลือดออกเฉลี่ย 33.8 และ 36.6 คะแนน ตามลำดับผลการเปรียบเทียบพบว่า กลุ่มตัวอย่างของหมู่บ้านที่มีการระบาดของโรคไข้เลือดออกจะมีคะแนนเฉลี่ยของความรู้แรงสนับสนุนทางสังคม และพฤติกรรมการป้องกันโรคไข้เลือดออก ต่ำกว่ากลุ่มตัวอย่างของหมู่บ้านที่ไม่มีการระบาดของโรคไข้เลือดออกอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 นอกจากทัศนคติที่กลุ่มตัวอย่างของหมู่บ้านที่มีการระบาดมีระดับสูงกว่าหมู่บ้านที่ไม่มีการระบาด อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ข้อเสนอแนะในการนำผลการวิจัยไปใช้ บุคลากรสาธารณสุขควรให้ความสำคัญกับการอบรมให้ความรู้ด้านการป้องกันโรคไข้เลือดออก ให้การสนับสนุนอำนวยความสะดวก สร้างแรงจูงใจ และการมีส่วนร่วมของประชาชนในการป้องกันโรคไข้เลือดออกในชุมชน
Downloads
เอกสารอ้างอิง
2. กรมควบคุมโรค. รายงานระบาดวิทยาโรคไข้เลือดออก ปี 2558. นนทบุรี: กรมควบคุมโรค กระทรวง สาธารณสุข; 2558.
3. สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค. รายงานระบาด วิทยาโรคไข้เลือดออก ปี 2558. นนทบุรี: สำนัก ระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค; 2558.
4. สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดจันทบุรี. รายงานประจำปี 2558. จันทบุรี: สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด จันทบุรี; 2558.
5. กรมควบคุมโรค. คู่มือวิชาการปฏิบัติงานเรื่อง ไข้เลือดออกและไข้สมองอักเสบ. กรุงเทพมหานคร: ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย; 2556.
6. บุษบง เจาฑานนท์, มานิตย์ นาคสุวรรณ, บุญเสริม อ่วมอ่อง, วิไลวรรณ เวชยันต์, จำเป็นศรี สุริยะวภิดา. ประสิทธิภาพของไส้เดือนฝอยที่ทำให้เกิดโรคกับ แมลง Steinernema carpocapsae และ S. riobravae ในการควบคุมลูกน้ำยุงลายในสภาพธรรมชาติ อ. เมือง จ. ราชบุรี. วารสารควบคุมโรค 2556;39: 184-93.
7. ไพโรจน์ พรหมพันใจ, สมร นุ่มผ่อง, บัณฑิต วรรณประพันธ์, ธีระวุธ ธรรมกุล, พรรณรัตน์ เป็นสุข. การประเมินผลการพัฒนาศักยภาพ และสร้างความ เข้มแข็งเครือข่ายระดับจังหวัดและอำเภอ เพื่อการ พัฒนาอำเภอควบคุมโรคเข้มแข็งแบบยั่งยืน ใน พื้นที่สาธารณสุขเขต 14 ปี 2554. วารสารวิชาการ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 5 จังหวัดนครราชสีมา 2556;19:5-19.
8. สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดจันทบุรี. ข้อมูลพื้นฐาน จังหวัดจันทบุรี. จันทบุรี: สำนักงานสาธารณสุข จังหวัดจันทบุรี; 2558.
9. Daniel, W.W. Biostatistics: basic concepts and methodology for the health sciences 9th. New York: John Wiley & Sons; 2010.
10. Bloom, Benjamin S. Handbook on formative and summative evaluation of student learning. New York: McGraw-Hill; 1971.
11. ฤทัย สมบัติสวัสดิ์. การศึกษาเปรียบเทียบพฤติกรรม การป้องกันโรคไข้เลือดออกของประชาชนใน หมู่บ้านที่มีการระบาดกับหมู่บ้านที่ไม่มีการระบาด ในพื้นที่ อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา [วิทยา นิพนธ์ปริญญาสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต]. ขอนแก่น: มหาวิทยาลัยขอนแก่น; 2555.
12. พงศ์พิทักษ์ สุพรม. ผลของการให้สุขศึกษา เกี่ยวข้องกับการป้องกันควบคุมโรคไข้เลือดออกใน แกนนำสุขภาพประจำครอบครัว อำเภอนาคู จังหวัด กาฬสินธุ์ [วิทยานิพนธ์ปริญญาสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต]. ชลบุรี: มหาวิทยาลัยบูรพา; 2553.
13. พรศักดิ์ สำราญรื่น. การเปรียบเทียบพฤติกรรมการ ป้องกันควบคุมโรคไข้เลือดออกของประชาชน ระหว่างตำบลที่มีการระบาดสูงสุด กับตำบลมีการ ระบาดต่ำสุด อำเภอกุฉินารายณ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ [วิทยานิพนธ์ปริญญาสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต]. ชลบุรี: มหาวิทยาลัยบูรพา; 2553.
14. รัตติกร แสนวัง. การเปรียบเทียบความรู้และ ความตระหนักเกี่ยวกับการป้องกันควบคุมโรค ไข้เลือดออกของประชาชน ระหว่างหมู่บ้านที่มีการ ระบาดของโรคไข้เลือดออกสูงกับหมู่บ้านที่มีการระบาด ของโรคไข้เลือดออกต่ำ ในเขตอำเภอยางตลาด จังหวัด กาฬสินธุ์ [วิทยานิพนธ์ปริญญาสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต]. ชลบุรี: มหาวิทยาลัยบูรพา; 2553.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ลงพิมพ์ในวารสารควบคุมโรค ถือว่าเป็นผลงานทางวิชาการหรือการวิจัย และวิเคราะห์ตลอดจนเป็นความเห็นส่วนตัวของผู้เขียน ไม่ใช่ความเห็นของกรมควบคุมโรค ประเทศไทย หรือกองบรรณาธิการแต่ประการใด ผู้เขียนจำต้องรับผิดชอบต่อบทความของตน


