การพัฒนางานจัดเก็บรายได้โรงพยาบาล ในสถาบันบำราศนราดูร ด้วยการมีส่วนร่วมของผู้ปฏิบัติจากทุกหน่วยบริการ ปีงบประมาณ 2558
DOI:
https://doi.org/10.14456/dcj.2017.37คำสำคัญ:
การพัฒนางานจัดเก็บรายได้โรงพยาบาล, การมีส่วนร่วมของผู้ปฏิบัติบทคัดย่อ
การวิจัยพัฒนาเชิงทดลองแบบกลุ่มเดียว วัดผลก่อน-หลัง การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) พัฒนารูปแบบงานจัดเก็บรายได้โรงพยาบาล ในสถาบันบำราศ นราดูร ด้วยการมีส่วนร่วมของผู้ปฏิบัติจากทุกหน่วยบริการที่สามารถปฏิบัติได้จริงโดยใช้ทรัพยากรเท่าที่มีอยู่ และ (2) เปรียบเทียบผลการดำเนินงานระหว่างก่อนกับหลังการนำรูปแบบที่พัฒนาขึ้น มาดำเนินงานในประชากรที่ศึกษาที่สถาบันบำราศนราดูร เป็นเวลา 7 เดือน ระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 กลุ่มตัวอย่าง 2 กลุ่ม แบ่งเป็น (1) การดำเนินงานให้บริการจัดเก็บรายได้ทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ ประเภทผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยใน รวม 10,902 รายการ (2) ผู้ตอบ แบบสอบถามคือ ผู้บริหาร 15 คน ผู้ให้บริการ 40 คน และผู้ปฏิบัติงานจัดเก็บรายได้ 12 คน รวม 67 คน โดยเปรียบเทียบผลการดำเนินงานระหว่าง ก่อนกับหลังการนำรูปแบบที่พัฒนาขึ้นมาดำเนินการใน 5 ด้าน ได้แก่ ด้านปริมาณงาน คุณภาพงาน ระยะเวลาและแรงงานที่ใช้ ความพึงพอใจของผู้เกี่ยวข้อง และด้านเศรษฐศาสตร์ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา ค่าสถิติ t, chi-square test และ Fisher’s exact test ที่ระดับแอลฟ่า 0.05 และการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการศึกษาพบว่า หลังการนำรูปแบบที่พัฒนาขึ้นมาดำเนินการ อัตราส่วนปริมาณงานต่อจำนวนแรงงาน 10,000 คน-วินาที เพิ่มขึ้น (p<0.001) อัตราความถูกต้องของใบแจ้งหนี้ ณ จุดปฏิบัติงาน อัตราความถูกต้องของใบแจ้งหนี้ก่อนเสนอยืนยันเรียกเก็บค่ารักษาไปยังผู้จ่ายเงิน และอัตราความถูกต้องหลังเรียกรับชำระเงินทางระบบอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มขึ้น (p<0.001) จำนวนแรงงานเฉลี่ยที่ใช้ในการปฏิบัติงานจัดเก็บรายได้ลดลง (p<0.001) ระยะเวลาเฉลี่ยที่ใช้ในกระบวนการแจ้งหนี้ค่ารักษาลดลง (p<0.05) ความพึงพอใจของผู้บริหาร ผู้ให้บริการและผู้ปฏิบัติงานต่อการดำเนินงานจัดเก็บรายได้เพิ่มขึ้น (p=0.037, p<0.001, และ p=0.032) ตามลำดับ ต้นทุนรวมและต้นทุนต่อหน่วยลดลง (p<0.001) สรุปได้ว่า รูปแบบใหม่ที่พัฒนาขึ้นเป็นรูปแบบที่ดี เหมาะสมกับบริบทของสถาบันบำราศนราดูรที่มีทรัพยากรจำกัด จึงควรสนับสนุนขยายผลเป็นนโยบายการพัฒนางานตามภารกิจหลัก สู่งานวิจัยอย่างต่อเนื่องจนเป็นต้นแบบต่อไป
Downloads
เอกสารอ้างอิง
2. ลักษณา โพชนุกูล, เรวดี รุ่งจตุรงค์. การจัดการด้านการเงินและบัญชีและการตรวจสอบภายใน. ใน: ฝ่ายวิชาการ สำนักพิมพ์, บรรณาธิการผู้ช่วย. ประมวล สาระชุดวิชาการบริหารจัดการเพื่อการพัฒนาโรงพยาบาล หน่วยที่ 6. พิมพ์ครั้งที่ 2. นนทบุรี: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช; 2550. หน้า. 1-55.
3. Jones, Bartlett Learning, LLC. Billing and cod¬ing for health services [Internet]. [cited 2015 Jan 20]. Available from: http://samples.jbpub. com/9780763789299/82999_ch02_FINAL.pdf
4. New Hampshire Department of Health and Hu¬man Service. Lean continuous improvement New Hampshire hospital billing and reimbursement process [Internet]. [cited 2015 Jan 20].Avail¬able from: http://lean.nh.gov/documents/John%20McPhee%20-%20DHHS%20Case%20Study%20-%20Billing%20&%20Reimburse.pdf
5. Schoonhoven M, Lubbers C, Dose RJMM. Quality quandaries:Shortening the throughput time of a hospital’s billing process. Quality Engineering 2013;25:188-93.
6. Bhat R, Maheshwari S, Saha S. Third party administrators and health insurance in India: Perception of providers and policyholders. Indian: Institute of Management Ahmedabad; 2005.
7. เดือนเด่น นิคมบริรักษ์, วีรวัลย์ ไพบูลย์จิตต์อารี, ธารทิพย์ ศรีสุวรรณเกศ, พรชัย ฬิลหาเวสส. รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการการพัฒนาแนวทางอภิบาลระบบหลักประกันสุขภาพ. กรุงเทพมหานคร: สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย; 2556.
8. พิรุฬห์พร แสนแพง. การปฏิบัติงานเวชระเบียนผู้ป่วยใน กับการเบิกชดเชยค่าบริการทางการแพทย์ : กรณีศึกษาโรงพยาบาลกลาง [วิทยานิพนธ์ปริญญา วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต]. กรุงเทพมหานคร: สถาบัน บัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์; 2555.
9. สถาบันบำราศนราดูร, กลุ่มสนับสนุนระบบบริการสุขภาพ. รายงานผลการดำเนินงานศูนย์ตรวจสอบข้อมูลเรียกเก็บค่ารักษาพยาบาล ปีงบประมาณ 2557. นนทบุรี: กลุ่มสนับสนุนระบบบริการสุขภาพ; 2558.
10. สมชาติ โตรักษา. การประยุกต์หลักการบริหารเพื่อการพัฒนางานอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน. กรุงเทพมหานคร: ภาควิชาบริหารงานสาธารณสุข คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล; 2557.
11. วิเชียร วิทยอุดม. การจัดการสมัยใหม่. กรุงเทพมหานคร: ธนธัชการพิมพ์; 2554.
12. สาคร สุขศรีวงศ์. การจัดการ: จากมุมมองนักบริหาร. พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพมหานคร: ศูนย์หนังสือจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย; 2550.
13. ชนงกรณ์ กุณฑลบุตร. หลักการจัดการ : องค์การและการจัดการสมัยใหม่. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย; 2556.
14. คีนิคกี แองเจโล, วิลเลียมส์ เบรน เค. การควบคุม : องค์การและการจัดการ [Management 3/e]. กรุงเทพมหานคร: แมคกรอ-ฮิล; 2552.
15. จุฑา เทียนไทย. การจัดการมุมมองนักบริหาร. พิมพ์ ครั้งที่ 3. กรุงเทพมหานคร: แมคกรอ-ฮิล; 2550.
16. คีนิคกี แองเจโล, วิลเลียมส์ เบรน เค. การวางแผน : องค์การและการจัดการ [Management 3/e]. กรุงเทพมหานคร: แมคกรอ-ฮิล; 2552.
17. ณัฏฐ์ชุดา วิจิตรจามรี. การสื่อสารในองค์การ. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์แห่งมหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์; 2553.
18. เกียรติศักดิ์ จันทร์แดง. การบริหารการผลิตและการปฏิบัติการ. กรุงเทพมหานคร: วิตตี้กรุ๊ป; 2549.
19. ประภาศรี พงศ์ธนาพาณิช. การจัดการการผลิตแบบลีน. นนทบุรี: โครงการส่งเสริมการแต่งตำรา สำนักวิชาการ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช; 2554.
20. Bateman T, Snell S. Management: Leading & collaborating in a competitive world. New York: McGraw-Hill; 2006.
21. สุรพันธ์ ฉันทแดนสุวรรณ. องค์การและการจัดการ. กรุงเทพมหานคร: จุดทอง; 2550.
22. เนตร์พัณณา ยาวิราช. การจัดการสมัยใหม่. พิมพ์ครั้งที่ 8. กรุงเทพมหานคร: ทริปเพิ้ลกรุ๊ป; 2556.
23. Verma R, Boyer KK. Operations and supply chain management: World class theory and prac¬tice. China: China Translation & Printing Ser¬vices; 2009.
24. Swansburg RC. Management and leadership for nurse managers. 2nd ed. Boston: Jones and Bart¬lett Publishers; 1996.
25. สมยศ นาวีการ. การบริหารแบบมีส่วนร่วม. กรุงเทพมหานคร: บรรณกิจ 1991; 2545.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ลงพิมพ์ในวารสารควบคุมโรค ถือว่าเป็นผลงานทางวิชาการหรือการวิจัย และวิเคราะห์ตลอดจนเป็นความเห็นส่วนตัวของผู้เขียน ไม่ใช่ความเห็นของกรมควบคุมโรค ประเทศไทย หรือกองบรรณาธิการแต่ประการใด ผู้เขียนจำต้องรับผิดชอบต่อบทความของตน


