TY - JOUR AU - เขาแก้ว, พรรณทิพย์ PY - 2020/12/30 Y2 - 2024/03/29 TI - กลุ่มอาการเมแทบอลิกในผู้ติดเชื้อเอชไอวี/ผู้ป่วยเอดส์ที่เข้ารับการรักษา ที่โรงพยาบาลเสนา JF - Singburi Hospital Journal JA - Singburi Hosp J VL - 29 IS - 2 SE - บทความวิจัย DO - UR - https://he01.tci-thaijo.org/index.php/shj/article/view/248783 SP - 125-141 AB - <p>การวิจัยนี้เป็นการศึกษาเชิงพรรณนาแบบศึกษาข้อมูลย้อนหลัง มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความชุกของกลุ่มอาการเมแทบอลิกและปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการเกิดกลุ่มอาการเมแทบอลิกในผู้ติดเชื้อเอชไอวี/ผู้ป่วยเอดส์ที่ได้รับการรักษาด้วยยาต้านไวรัสกลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ติดเชื้อเอชไอวี จำนวน 400 ราย ที่ได้รับ การรักษาด้วยยาต้านไวรัส ที่โรงพยาบาลเสนา เก็บข้อมูลระหว่างเดือนมกราคม - มีนาคม 2561 เก็บรวบรวมข้อมูลโดยให้กลุ่มตัวอย่างตอบแบบสอบถามและรวบรวมข้อมูลจากเวชระเบียน โดยใช้เครื่องมือ 3 ชุด ได้แก่ แบบสอบถามข้อมูลส่วนบุคคลและประวัติการรักษา แบบบันทึกข้อมูล ทางคลินิก แบบบันทึกการรักษาด้วยยาต้านไวรัส วิเคราะห์ข้อมูลใช้สถิติเชิงพรรณนาได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และใช้ Odds Ratio ในการทดสอบความสัมพันธ์กับกลุ่มอาการ เมแทบอลิก การวินิจฉัยกลุ่มอาการเมแทบอลิกใช้เกณฑ์ของ National Cholesterol Education Program - Adult Treatment Panel III (NCEP- ATPIII)</p><p>ผลการวิจัยพบว่า กลุ่มตัวอย่างมีค่าความชุกของกลุ่มอาการเมแทบอลิก เท่ากับร้อยละ 32.25 อาการทางเมแทบอลิกที่พบได้มากที่สุดคือ ระดับไขมันเอชดีแอลต่ำ (ร้อยละ 43.50) รองลงมา ได้แก่ ความดันโลหิตสูง (ร้อยละ 40.25) ระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูง (ร้อยละ38.25) รอบเอวเกิน (ร้อยละ34.50) และระดับน้ำตาลในเลือดสูง (ร้อยละ14.75) ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับกลุ่มอาการเมแทบอลิก อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติได้แก่เพศหญิง (OR=1.6; 95%CI=1.08-2.53; p=.030) อายุ≥45 ปี (OR=1.6; 95%CI=1.13-2.63; p=.023) ค่าดัชนีมวลกาย ≥25กก./ม2 (OR=4.5; 95%CI=2.07-4.89; p=.001) ค่าจำนวนซีดีสี่ ≥400 เซลล์/มม3 (OR=1.9; 95%CI=1.26-3.10; p=.006) สูตรยาต้านไวรัสที่มี ddI, d4T, EFV หรือ PIs (OR=1.9; 95%CI=1.14-3.42; p=.018) และระยะเวลาที่รักษาด้วยยาต้านไวรัส ≥12 เดือน (OR=2.6; 95%CI=1.15-6.77; p=.032) ผลการวิจัยครั้งนี้พบว่า ความชุกของกลุ่มอาการเมแทบอลิก ในผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่ได้รับการรักษาด้วยยาต้านไวรัส สูงกว่าความชุกในการศึกษาที่ผ่านมา ดังนั้นพยาบาลควรมีการวางแผนการป้องกันการเกิดกลุ่มอาการเมแทบอลิก และมีแผนการติดตาม กลุ่มอาการเมแทบอลิกในผู้ปวยกลุ่มนี้อย่างต่อเนื่อง โดยดูแลส่งเสริมให้ผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่ได้รับการรักษาด้วยยาต้านไวรัส มีพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพที่เหมาะสมเพื่อป้องกันการเกิดกลุ่มอาการเมแทบอลิก ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด</p> ER -