https://he01.tci-thaijo.org/index.php/nkpjournal_9/issue/feed
วารสารโรงพยาบาลนครพนม
2025-12-09T19:29:15+07:00
แพทย์หญิงนทวรรณ หุ่นพยนต์
nkpjournal_9@hotmail.com
Open Journal Systems
<p> วารสารโรงพยาบาลนครพนม เป็นวารสารทางด้านแพทย์ศาสตร์ วิทยาศาสตร์สุขภาพ เผยแพร่บทความวิจัย (Research articles) บทความวิชาการ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นสื่อกลางเพื่อเผยแพร่ความรู้ทางด้านการแพทย์ในด้านต่างๆไปสู่บุคลากรด้านสาธารณสุขและประชาชนทั่วไป เพื่อที่จะนำความรู้นั้นไปประยุกต์ใช้ในการดูแลผู้ป่วยหรือดูแลตนเองได้อย่างมีคุณภาพมากขึ้น</p> <p><strong>วัตถุประสงค์ (Objective)</strong></p> <p> เพื่อเป็นสื่อกลางเพื่อเผยแพร่ความรู้ทางด้านการแพทย์ในด้านต่างๆไปสู่บุคลากรด้านสาธารณสุขและประชาชนทั่วไป เพื่อที่จะนำความรู้นั้นไปประยุกต์ใช้ในการดูแลผู้ป่วยหรือดูแลตนเองได้อย่างมีคุณภาพมากขึ้น</p> <p><strong>ขอบเขตของวารสาร (Scope)</strong></p> <p> วารสารโรงพยาบาลนครพนมมีนโยบายส่งเสริมการเผยแพร่บทความ ความรู้ และผลงานวิจัยที่มีคุณภาพในสาขาต่างๆ เช่น วิทยาศาสตร์สุขภาพ แพทยศาสตร์ ทันตแพทยศาสตร์ เภสัชศาสตร์ พยาบาลศาสตร์ สาธารณสุขศาสตร์ เทคนิคการแพทย์ กายภาพบำบัด รังสีเทคนิค และสาขาวิชาชีพอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์สุขภาพ</p> <p><strong>กระบวนการพิจารณาบทความ </strong><strong>(Peer Review Process)</strong></p> <p> ทุกบทความได้รับจะการประเมินโดยผู้ทรงคุณวุฒิ จากภายในและภายนอก อย่างน้อย จำนวน 2 ท่าน <strong><em>โดยผู้ประเมินจะไม่ทราบชื่อผู้นิพนธ์บทความ (Double blind) </em></strong></p> <p><strong>ประเภทบทความ (Type of Article)</strong> <br /> 1. บทบรรณาธิการ (Editorial) เป็นบทความสั้นๆ ที่บรรณาธิการหรือผู้ทรงคุณวุฒิที่กองบรรณาธิการเห็นสมควรเขียนแสดงความคิดเห็นในแง่มุมต่างๆ <br /> 2. บทความทบทวนความรู้ (Topic review) คือ บทความที่มีลักษณะการทบทวนวรรณกรรมต่างๆ อย่างสมบูรณ์ในเรื่องนั้น ควรเป็นเรื่องที่พบบ่อย มีผลต่อการดูแลรักษามากหรือเป็นเรื่องที่กำลังอยู่ในความสนใจในขณะนั้นเพื่อเป็นการทบทวนองค์ความรู้ที่มีอยู่ให้ดีขึ้น <br /> 3. นิพนธ์ต้นฉบับ (Original article) คือ งานวิจัยของแพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชกร พยาบาล หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขด้านอื่นๆจัดทำขึ้น เพื่อเผยแพร่องค์ความรู้ใหม่ในงานวิจัยนั้น <br /> 4. รายงานคนไข้น่าสนใจ (Interesting case) คือ รายงานผู้ป่วยที่มีความน่าสนใจในด้านต่างๆ ซึ่งอาจเป็นผู้ป่วยพบบ่อย หรือผู้ป่วยที่พบไม่บ่อยแต่มีความน่าสนใจ เพื่อที่จะให้ผู้อ่านได้เห็นตัวอย่างและนำไปปรับปรุงการดูแลคนไข้ให้ดียิ่งขึ้น <br /> 5. นวัตกรรม คือผลงานหรือวิธีการที่คิดค้นขึ้นใหม่ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ให้การดูแลคนไข้ รวดเร็ว และมีคุณภาพมากขึ้น <br /> 6. เกร็ดความรู้ คือความรู้ด้านต่างๆ อาจไม่ใช่เรื่องทางการแพทย์โดยตรง แต่เป็นเรื่องที่น่าสนใจในขณะนั้น เพื่อที่จะทำให้ผู้อ่านได้รับรู้เหตุการณ์สำคัญๆ ในช่วงเวลานั้น <br /> 7. กิจกรรมการประชุมวิชาการ ทั้งที่จัดขึ้นโดยโรงพยาบาลนครพนม หรือจากผู้เชี่ยวชาญภายนอก <br /> 8. บทความหรือรายงานเหตุการณ์สำคัญ (Report) ที่กองบรรณาธิการเห็นว่าควรนำมาเผยแพร่เพื่อเป็นประโยชน์แต่บุคคลโดยรวม</p> <p><strong>กำหนดเผยแพร่ (Scheduling) </strong>ปีละ 3 ฉบับ</p> <ul> <li class="show">ฉบับที่ 1 มกราคม – เมษายน</li> <li class="show">ฉบับที่ 2 พฤษภาคม – สิงหาคม</li> <li class="show">ฉบับที่ 3 กันยายน – ธันวาคม</li> </ul> <p><strong>ค่าธรรมเนียมตีพิมพ์บทความ<br /></strong> 3,000 บาท<strong><br /></strong></p> <p> </p>
https://he01.tci-thaijo.org/index.php/nkpjournal_9/article/view/284402
การประมาณการการสูญเสียเลือดจากการประเมินคราบเลือดบนผ้าก๊อซในโรงพยาบาลนครพนม : การศึกษาเชิงทดลอง
2025-12-08T09:26:55+07:00
ทอปัด พงศ์พิศ
training1016nkp@gmail.com
<p><strong>ภูมิหลัง:</strong> การประเมินปริมาณการสูญเสียเลือดระหว่างการผ่าตัดอย่างแม่นยำมีความสำคัญต่อการวางแผนการให้สารน้ำและการให้เลือด หากประเมินต่ำเกินไปอาจก่อให้เกิดภาวะพร่องปริมาตรเลือดและเกิดความไม่คงที่ทาง hemodynamic ขณะที่การประเมินสูงเกินไปอาจนำไปสู่การให้เลือดโดยไม่จำเป็นและเพิ่มความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน การประเมินด้วยสายตายังคงเป็นวิธีที่ใช้กันอย่างแพร่หลายเนื่องจากความสะดวก แต่มีข้อจำกัดด้านความแม่นยำ โดยเฉพาะในกรณีที่เลือดถูกซับอยู่ในผ้าก๊อซ </p> <p><strong>วัตถุประสงค์:</strong> เพื่อพัฒนาแบบจำลองการประเมินด้วยสายตาสำหรับประมาณการสูญเสียเลือดจากผ้าก๊อซที่ใช้ในโรงพยาบาลนครพนม เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการประเมิน</p> <p><strong>วิธีการศึกษา:</strong> การศึกษานี้เป็นการศึกษาเชิงทดลอง ใช้เลือดที่หมดอายุจากคลังเลือดและผ้าก๊อซขนาดต่าง ๆ (4×4 นิ้ว, 3×18 นิ้ว, 12×12 นิ้ว และ 15×15 นิ้ว) โดยเติมเลือดในปริมาตรที่ทราบให้ผ้าก๊อซซับไว้และถ่ายภาพคราบเลือดเพื่อสร้างแบบจำลองภาพอ้างอิง ทั้งนี้ได้หาความสามารถในการซับเลือดสูงสุดของผ้าก๊อซแต่ละชนิดและคำนวณสัดส่วนรอยเปื้อนสัมพันธ์กับปริมาตรเลือด</p> <p><strong>ผลการศึกษา:</strong> ความสามารถในการซับเลือดสูงสุดคือ 10 มล. สำหรับผ้าก๊อซ 4×4 นิ้ว, 100 มล. สำหรับ swab 3×18 นิ้ว, 200 มล. สำหรับ swab 12×12 นิ้ว และ 400 มล. สำหรับ swab 15×15 นิ้ว ได้สร้างมาตราส่วนภาพ (visual analogue scale) เพื่อช่วยให้แพทย์สามารถประเมินปริมาณเลือดที่สูญเสียได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น</p> <p><strong>สรุป:</strong> แบบจำลองการประเมินคราบเลือดบนผ้าก๊อซอาจช่วยเพิ่มความถูกต้องของการประมาณการสูญเสียเลือดระหว่างการผ่าตัด ลดความผิดพลาดจากการประเมินต่ำหรือสูงเกินไป และควรมีการศึกษายืนยันเพิ่มเติมในสถานการณ์ทางคลินิกจริง</p>
2025-12-08T00:00:00+07:00
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 โรงพยาบาลนครพนม
https://he01.tci-thaijo.org/index.php/nkpjournal_9/article/view/284409
บทบรรณาธิการ
2025-12-08T11:17:34+07:00
นทวรรณ หุ่นพยนต์
jouranlnkp@gmail.com
2025-12-08T00:00:00+07:00
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 โรงพยาบาลนครพนม