ประสิทธิภาพและความปลอดภัยของการผ่าตัดนิ่วในไต ด้วยวิธีเจาะผ่านผิวหนัง โดยใช้อัลตราซาวนด์

บทคัดย่อ

วัตถุประสงค์: เพื่อศึกษาถึงความปลอดภัยและประสิทธิภาพของการทำ PCNL โดยใช้ ultrasoundในท่า flank position วัสดุและวิธีการศึกษา: ศึกษาเชิงพรรณนา prospective study ในผู้ป่วยโรคนิ่วในไตจำนวน 142 ราย ที่ได้รับการ ผ่าตัด PCNL โดยใช้ ultrasound ในท่า flank position ในโรงพยาบาลบุรีรัมย์ ตั้งแต่มกราคม 2558 ถึงธันวาคม 2560 บันทึก ขนาด ระยะเวลาผ่าตัด จำนวนวันนอนโรงพยาบาล อัตราการหมดไปของนิ่ว และภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าตัด ผลการศึกษา: ผู้ป่วยได้รับการผ่าตัดโดยวิธี PCNL ด้วย ultrasound guide พบ stone free rate 81.3% จำนวน วันนอนโรงพยาบาลเฉลี่ย 6.3 วัน ใช้ระยะเวลาในการผ่าตัดโดยเฉลี่ย 78.1 นาที อัตราการให้เลือดทดแทนร้อยละ4.3 พบอัตรา การล้มเหลวในการ access 2.1% การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะหลังผ่าตัด 7 ราย โดยมีภาวะ septic shock 1 ราย พบการบาดเจ็บ เล็กน้อยของกรวยไต 3 ราย ไม่พบการบาดเจ็บของช่องอกหรืออวัยวะในช่องท้อง ข้อสรุป: การผ่าตัด PCNL โดยใช้ ultrasound ในท่า flank position สามารถทำได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ โดยไม่ได้เพิ่มภาวะแทรกซ้อนเมื่อเทียบกับการทำ PCNL ด้วย fluoroscope นำทางในท่า prone นอกจากนี้ยังช่วยลดโอกาส สัมผัสรังสีของบุคลากรทีมผ่าตัด