TY - JOUR AU - นววงศ์อนันต์, รจิตรา AU - พิทักษานุรัตน์, สมศักดิ์ AU - ปลั่งกลาง, เพ็ญศรี AU - Claus, Reiner PY - 2017/07/07 Y2 - 2024/03/29 TI - สภาวะที่เหมาะสมต่อการใช้เอนไซม์เซลลูเลสแยกอะลูมิเนียมฟอยล์ ออกจากชั้นกล่องนม JF - วารสารวิจัยสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น JA - KKU J for Pub Health Res VL - 9 IS - 3-4 SE - นิพนธ์ต้นฉบับ DO - UR - https://he01.tci-thaijo.org/index.php/kkujphr/article/view/120947 SP - 25-36 AB - <p>การศึกษาครั้งนี้เป็นการศึกษาเชิงทดลอง (Experimental) โดยการใช้เอนไซม์<br>เซลลูเลสทำปฏิกิริยากับกล่องนมชนิด UHT เพื่อให้องค์ประกอบของกล่องนมทั้งสามชั้น<br>หลุดออกจากกันและสามารถแยกแผ่นอะลูมิเนียมฟอยล์บริสุทธิ์ออกมาใช้ประโยชน์ได้ ใน<br>ชั้นกล่องนมประกอบไปด้วย พลาสติก (Polyethylene) กระดาษ (Paper) และแผ่น<br>อะลูมิเนียม (Aluminum foil)<br>การศึกษาทดลองครั้งนี้โดยมีการทดลองแบ่งออกเป็น 3 ช่วงการทดลอง คือ<br>ช่วงที่ 1 ทดลองหาช่วงที่เหมาะสมที่สุดของปัจจัยที่มีผลต่อการทำงานของเอนไซม์เซลลูเลสที่<br>ทำให้เกิดการแยกชั้นของกล่องนมทั้ง 4 ปัจจัย คือ ปริมาณของเอนไซม์เซลลูเลส ความเร็วใน<br>การกวน ค่าความเป็น กรด-ด่าง (pH) และอุณหภูมิที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการทำปฏิกิริยา<br>ของเอนไซม์เซลลูเลส เพื่อแยกอะลูมิเนียมฟอยล์ออกจากชั้นของกล่องนมอย่างสมบูรณ์<br>ช่วงที่ 2 ทดลองหาปริมาณซับสเตรทต่อปริมาณเอนไซม์ 1 กรัมที่เหมาะสมที่สุด และช่วงที่ 3<br>ทดลองหาความเข้มข้นของน้ำตาลกลูโคสที่ได้หลังจากการทำปฏิกิริยา<br>ผลจากการทดลองครั้งนี้ได้ว่า จากการทดลองขั้นที่ 1 ปริมาณของเอนไซม์<br>เซลลูเลสที่เหมาะสมที่สุด คือ ปริมาณ 1 กรัม ค่าความเป็นกรด-ด่าง (pH) ที่เหมาะสมที่สุด<br>คือ pH 6.8 ที่ได้จากชุดควบคุม (Control) ซึ่งมีประสิทธิภาพในการแยกชั้นกล่องนมได้<br>มากกว่าการใช้ซิเตรทบัฟเฟอร์ ค่าความเร็วการกวนที่เหมาะสมที่สุด คือ 150 รอบต่อนาที<br>และอุณหภูมิที่เหมาะสมที่สุด คือ อุณหภูมิ 45 องศาเซลเซียส จากการทดลองขั้นที่ 2<br>ปริมาณชิ้นกล่องนม (Substrate) ที่เหมาะสมที่สุด คือ ชิ้นกล่องนมปริมาณ 40 กรัมต่อ<br>สารละลายเอนไซม์เซลลูเลส 1 กรัมและจากการทดลองขั้นที่ 3 พบว่า พบว่าความเข้มข้น<br>ของน้ำตาลกลูโคสแปรผันตรงกับปริมาณชิ้นกล่องนมที่ใช้ คือ กล่องนมปริมาณ 10 20 30<br>40 และ 50 กรัมตามลำดับ มีความเข้มข้นของน้ำตาลกลูโคส 0.29 0.961.10 1.51 และ<br>5.17 กรัมต่อลิตร ตามลำดับ<br>การศึกษาทดลองครั้งนี้สามารถนำไปเป็นแนวทางในอุตสาหกรรมการแยก<br>องค์ประกอบของกล่องนมโดยการใช้วิธีทางชีวภาพได้ และในการศึกษาครั้งต่อไปอาจ<br>ทดลองทำเป็นแบบจำลองถังขนาดเล็กเปรียบเทียบความคุ้มค่าและประสิทธิภาพระหว่าง<br>ถังที่ใช้เอนไซม์เซลลูเลส และถังที่ใช้พลังงานในการปั่นเหวี่ยง</p> ER -