TY - JOUR AU - เรียบร้อย, วัชรากร AU - ชายเกลี้ยง, สุนิสา PY - 2018/04/11 Y2 - 2024/03/29 TI - การบาดเจ็บซ้ำซากในพนักงานอุตสาหกรรมแกะสลักหิน จังหวัดชลบุรี JF - วารสารวิจัยสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น JA - KKU J for Pub Health Res VL - 4 IS - 3 SE - นิพนธ์ต้นฉบับ DO - UR - https://he01.tci-thaijo.org/index.php/kkujphr/article/view/118843 SP - 11-20 AB - <p>การวิจัยครั้งนี้เป็ นการวิจัยเชิงพรรณนาแบบภาคตัดขวาง (Cross-sectional descriptive<br>research) มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาอัตราความชุกและความรุนแรงของ RSIs ในพนักงาน<br>อุตสาหกรรมแกะสลักหิน จังหวัดชลบุรี จำนวน 82 คน เก็บข้อมูลโดยใช้แบบสัมภาษณ์แบบมี<br>โครงสร้าง และแบบสังเกตการณ์ทำงาน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนาเพื่ออธิบาย<br>คุณลักษณะประชากร และสภาพแวดล้อมการทำงาน และแสดงค่าอัตราความชุกกับช่วงความ<br>เชื่อมั่นที่ 95% ผลการวิจัยพบว่า พนักงานอุตสาหกรรมแกะสลักหินส่วนใหญ่เป็นเพศชาย<br>ร้อยละ 64.6 อายุระหว่าง 31-40 ปี ร้อยละ 40.2 (Mean=40.8, S.D.=8.8) อายุการทำงาน<br>6-10 ปี ร้อยละ 32.9 (Median=14, Min=1, Max=40) ด้านลักษณะงาน พบว่า ส่วนใหญ่เป็น<br>งานทำครก (ร้อยละ 79.3) และปฏิบัติงานไม่เกิน 8 ชั่วโมง/วัน ร้อยละ 79.3 (Median=8,<br>Min=8, Max=12) ด้านสภาพแวดล้อมการทำงาน พบว่า ระดับหน้างานต่ำกว่าข้อศอก (ร้อยละ<br>78.1) ทำงานซ้ำซาก (ร้อยละ 85.4) ต้องใช้สายตาเพ่งชิ้นงาน (ร้อยละ 87.8) โดยพบว่า<br>มีสิ่งแวดล้อมการทำงาน คือ ฝุ่นละออง/สารเคมี และอากาศร้อนอบอ้าว แสงสว่างไม่เพียงพอ<br>และสัมผัสแรงสั่นสะเทือนจากเครื่องมือ คือ ค้อน และเครื่องเจียร ร้อยละ 96.3 และร้อยละ<br>65.9 ตามลำดับ โดยน้ำหนักหินที่ยกเฉลี่ยต่อครั้ง &gt;10 กิโลกรัม ร้อยละ 47.9 ( Median=9,<br>Min=3, Max=20) พบความชุกของ RSIs เมื่อพิจารณาทุกตำแหน่ง ในรอบ 7 วัน และ 6 เดือน<br>ที่ผ่านมา คือ ร้อยละ 37.8 (95%CI=27.32–49.19) และร้อยละ 51.2 (95%CI=39.92–<br>62.42) ตามลำดับ ตำแหน่งที่มีระดับความชุกของ RSIs สูงสุด 3 อันดับแรก คือ หลังส่วนล่าง<br>(ร้อยละ 26.2) มือ/ข้อมือ (ร้อยละ 20.2) และไหล่ (ร้อยละ 13.7) โดยตำแหน่งที่มีอาการ<br>ปวดรุนแรงตั้งแต่ระดับมากขึ้นไปสูงสุด 3 อันดับแรก คือ หลังส่วนล่าง (ร้อยละ 19.5)<br>รองลงมามือ/ข้อมือ (ร้อยละ 11.0) และแขนท่อนบน (ร้อยละ 7.3) ส่วนความถี่ของการมี<br>อาการปวดตั้งแต่บ่อยครั้งขึ้นไปสูงสุด 3 อันดับแรก คือ หลังส่วนล่าง รองลงมามือ/ข้อมือ และ<br>ไหล่ ร้อยละ 31.7, 17.1 และ 9.8 ตามลำดับ การศึกษานี้พบความชุกและความรุนแรงสูงสุด<br>ของการบาดเจ็บซ้ำซากในตำแหน่งหลังส่วนล่าง และรองลงมาคือ มือ/ข้อมือ ซึ่งอาจสอดคล้อง<br>กับลักษณะงานที่มีการใช้แรงมือและข้อมือขณะทำงานซ้ำซาก ระดับหน้างานไม่เหมาะสม และ<br>การยกของหนักซ้ำๆ ที่เสี่ยงต่อการปวดหลังของพนักงาน รวมถึงมือ/ข้อมือ ข้อมูลดังกล่าวมี<br>ประโยชน์ต่อการศึกษาปัจจัยเสี่ยงจากการทำงานต่อการเกิด RSIs และการเฝ้ าระวังโรคด้าน<br>ระบบโครงร่างและกล้ามเนื้อจากการทำงานในพนักงานกลุ่มนี้ต่อไป</p> ER -