ความสัมพันธ์ระหว่างบทบาทของหัวหน้าหอผู้ป่วยในการนิเทศงาน กับสมรรถนะหลักของข้าราชการพลเรือนของพยาบาลวิชาชีพ โรงพยาบาลแพร่

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้เป็นวิจัยเชิงพรรณนา มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) บทบาทของหัวหน้าหอผู้ป่วยในการนิเทศ งานตามการรับรู้ของพยาบาลวิชาชีพโรงพยาบาลแพร่ 2) สมรรถนะหลักของข้าราชการพลเรือนของพยาบาล วิชาชีพ โรงพยาบาลแพร่ตามการรับรู้ของพยาบาลวิชาชีพ และ 3) เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างบทบาทของ หัวหน้าหอผู้ป่วยในการนิเทศงานตามการรับรู้ของพยาบาลวิชาชีพกับสมรรถนะหลักของข้าราชการพลเรือน ของพยาบาลวิชาชีพ โรงพยาบาลแพร่ กลุ่มตัวอย่างเป็นพยาบาลประจำการที่มีประสบการณ์การทำงานตั้งแต่ 1 ปีได้มาจากการสุ่มตัวอย่างง่ายด้วยวิธีการคำนวณโปรแกรมสำเร็จรูปG*POWER จำนวน 183 คน เครื่อง มือที่ใชใ้ นการวิจัยครั้งนี้เปน็ แบบสอบถาม 3 ตอน ตอนที่1ขอ้ มูลทั่วไป ตอนที่ 2 แบบสอบถามบทบาท ของหัวหน้าหอผู้ป่วยในการนิเทศงาน และตอนที่ 3 แบบสอบถามสมรรถนะหลักของข้าราชการพลเรือน โรงพยาบาลแพร่ ซึ่งผ่านการตรวจสอบความตรงตามเนื้อหา และความเที่ยงของแบบสอบถามบทบาทของ หัวหน้าหอผู้ป่วยในการนิเทศงาน แบบสอบถามสมรรถนะหลักของข้าราชการพลเรือนได้เท่ากับ 0.87 และ 0.88 ตามลำดับ วิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่าความถี่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และวิเคราะห์ความสัมพันธ์ โดยใช้สถิติสัมประสิทธ์สหสัมพันธ์แบบเพียรสัน (Pearson's Product Moment Correlation)ในการวิจัย ครั้งนี้ผู้วิจัยได้กำหนดระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ใช้ในการทดสอบทั้งหมดที่ระดับ 0.05 ผลการศึกษาพบว่า 1) บทบาทของหัวหน้าหอผู้ป่วยในการนิเทศงานตามการรับรู้ของพยาบาลวิชาชีพ โดยรวมอยู่ใน ระดับมาก โดยพบว่าด้านการควบคุมการปฏิบัติงานมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.05; SD = 0.53) และด้านการติดตามตรวจสอบการปฏิบัติมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับน้อยที่สุด ( = 3.92; SD = 0.53) 2) สมรรถนะหลักของข้าราชการพลเรือน โรงพยาบาลแพร่โดยรวมอยู่ในระดับมาก โดยพบว่าด้านการ ยึดมั่นในความถูกต้องชอบธรรม/จริยธรรมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.38; SD = 0.45) และ ด้านการสั่งสมความเชี่ยวชาญในอาชีพมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับน้อยที่สุด ( = 4.01; SD = 0.44) 3) บทบาทของหัวหน้าหอผู้ป่วยในการนิเทศงานมีความสัมพันธ์เชิงบวกกับสมรรถนะหลักของ ข้าราชการพลเรือน โรงพยาบาลแพร่ ในระดับต่ำมาก อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 (r = 0.288 , p < 0.01)