ผลของโปรแกรมการสอนงานต่อพฤติกรรมของพยาบาลวิชาชีพในการให้ข้อมูลความยินยอม ในการรักษาพยาบาลผู้ป่วย กรณีศึกษาโรงพยาบาลแพร่
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยกึ่งทดลองแบบหนึ่งกลุ่มวัดก่อนและหลังการทดลองครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อเปรียบเทียบค่าเฉลี่ย พฤติกรรมในการให้ข้อมูลเพื่อขอความยินยอมในการรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยของพยาบาลวิชาชีพก่อน และหลังได้รับโปรแกรมการสอนงาน กลุ่มตัวอย่างเป็นพยาบาลวิชาชีพโรงพยาบาลแพร่ จำนวน 20 คน เลือกกลุ่มตัวอย่างแบบแบ่งชั้น (Stratified Random sampling)และวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบง่าย (Simple random sampling). เครื่องมือในการดำเนินการวิจัยประกอบด้วย เครื่องมือที่ใช้ในการทดลอง ได้แก่โปรแกรม การสอนงานประกอบด้วย 5 ขั้นตอนคือ 1) ขั้นตอนการกำหนดจุดมุ่งหมาย 2) ขั้นความเป็นจริง 3) ขั้นตอน การคิดทบทวน 4) ขั้นตอนทางเลือก และ5) ขั้นตอนก้าวไปข้างหน้าเครื่องมือในการรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบประเมินพฤติกรรมในการให้ข้อมูลเพี่อขอความยินยอมในการรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยของพยาบาล วิชาชีพผ่านการทดสอบความตรงตามเนื้อหาจากผู้ทรงคุณวุฒิ 5 ท่าน จากนั้นนำมาหาค่าดัชนีความตรงของ เนื้อหา IOC (Index of Item objective congruence)วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติ ร้อยละ ค่าเฉลี่ยและ ทดสอบ ค่าที (Pairedsamplet-test) ผลการวิจัยพบว่า เปรียบเทียบค่าเฉลี่ยพฤติกรรมของพยาบาลวิชาชีพโรงพยาบาลแพร่ในการให้ข้อมูลเพื่อขอความ ยินยอมในการรักษาพยาบาล พบว่าหลังการได้รับโปรแกรมการสอนงานสูงกว่าก่อนการได้รับโปรแกรม การสอนงาน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01
Article Details
เอกสารอ้างอิง
แพร่. โรงพยาบาลแพร่.
จุฬารัตน์ ห้าวหาญ และอรชร อินทองปาน. (2558).
การวิจัยและพัฒนารูปแบบการโค้ชเพื่อพัฒนา
ความสามารถในการปฏิบัติงานด้านการบริการ
สุขภาพ.วารสารพยาบาลกระทรวงสาธารณสุข,
26(1), 167-177.
เติมศักดิ์ สุขวิบูลย์. (2552). ข้อคำนึงในการสร้างเครื่อง
มือประเภทมาตรประมาณค่า (Rating Scale)
เพื่องานวิจัย.ค้นเมื่อ 25 สิงหาคม2559 จาก
http://www.ms.src.ku.ac.th.
ทิศนา แขมมณี. (2557).ศาสตร์การสอน:องค์ความรู้เพื่อ
การจัดกระบวนการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ
(พิมพ์ครั้งที่ 18).กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์แห่ง
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
นงลักษณ์ วิรัชชัย. (2555).การกำหนดขนาดตัวอย่างและ
สถิติวิเคราะห์ใหม่ๆ ที่น่าสนใจ. การนำเสนอ
ผลงานวิจัยแห่งชาติ 2555 (Thailand Research
EXPO 2012). กรุงเทพมหานคร.
แพรวพรรณ บุญฤทธิ์มนตรี. (2550).การฝึกอบรมเพี่อ
เพิ่มประสิทธิภาพการสอนงานให้กับหัวหน้า
ในโรงงานอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ศึกษา
กรณีบริษัท แคล-คอมพ์อีเล็คโทรนิคส์ (ประเทศ
ไทย)จำกัด(มหาชน).(ปริญญานิพนธ์ กศ.ด
มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ).
ยุพิน เรืองพิสิฐ.(2558).การพัฒนาระบบการสอนงาน
ของพยาบาลวิชาชีพในโรงพยาบาลเฉพาะทาง
แห่งหนึ่งสังกัดกรมการแพทย์กระทรวง
สาธารณสุข.วารสารเกื้อการุณย์, 22(2), 122-139
ยุวดี เกตุสัมพันธ์ และสมใจ พุทธาพิทักษ์ผล. (2550).
การสอนงานทางการพยาบาล. ในชุดฝึกอบรม
การอบรมเข้มเสริมประสบการณ์มหาบัณฑิต
พยาบาลศาสตร์.(น. 6-1-6-17).นนทบุรี: โรงพิมพ์
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
ศุภศิลป์ กุลจิตต์เจือวงศ์. (2556). ไลน์รูปแบบการสื่อสาร
บนความสร้างสรรค์ของสมาร์ทโฟน:ประโยชน์
และข้อจำกัดของแอบพลิเคชั่น. วารสารนักบริหาร,
33(4),42-54.
ศูนย์คุณภาพโรงพยาบาลแพร่.(2558).ความคิดเห็น
ต่อการบริการผู้ป่วยในโรงพยาบาลแพร่ปี 2558.
แพร่. โรงพยาบาลแพร่.
สถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล (องค์การมหาชน).
(2558). มาตรฐานโรงพยาบาลและบริการสุขภาพ
ฉบับเฉลิมพระเกียรติฉลองสิริราชสมบัติ ครบ
60 ปี (ภาษาไทย). กรุงเทพ ฯ: บริษัทหนังสือดีวัน
จำกัด.
สภาการพยาบาล.(2553). รวมกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ด้านการแพทย์และสาธารณสุข. กรุงเทพ ฯ:
ศิริยอดการพิมพ์.
สมิต สัชฌุกร. (2547). เทคนิคการสอนงาน. กรุงเทพ ฯ:
สำนักพิมพ์สายธาร.
สำนักการพยาบาล. (2551). มาตรฐานการพยาบาลใน
โรงพยาบาลปรับปรุงครั้งที่ 2. นนทบุรี: โรงพิมพ์
องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก.
สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ.(2557). คู่มือ
แนวทางการบันทึกและการตรวจประเมิน
คุณภาพการบันทึกเวชระเบียนฉบับปรับปรุง
ครั้งที่ 1. กรุงเทพฯ: บริษัทศรีเมืองพิมพ์.
สิวลี ศิริไล. (2555). การวิเคราะห์เชิงจริยศาสตร์ในการ
บริการสุขภาพ. ในชัยรัตน์ ฉายากุล, กวิวัณณ์
วีรกุล,รุ่งนิรันดร์ ประดิษฐสุวรรณ และ
วิเชียร ทองแตง (บรรณาธิการ), จริยธรรมทาง
การแพทย์. (น. 316-325). กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์
เดือนตุลา.
สิวลี ศิริไล. (2555). จริยศาสตร์สำหรับพยาบาล. กรุงเทพฯ:
สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
Beauchamp, T. L., & Childress, J. F. (1998). Principles
of biomedical ethics(3nded.). New York:
Oxford University Press.
Erin, S. (2014).Rethinking Injury: The Case of
Informed Consent.BYU Law Review. 63(2015).
Retrieved from https://digitalcommons.law.
byu.edu/cgi/viewcontent.cgi?article=2965
Grover, S., &Furnham, A.(2016). Coaching as a
Developmental Intervention inOrganisations:
A Systematic Review of ItsEffectiveness and
the MechanismsUnderlyingIt.PLoS ONE.11
(7), 14Retrieved fromhttp://eds.b.ebscohost.
com/eds/pdfviewer/pdfviewer?vid=
6&sid=126cef43-e85b-4bb0-965f-874844d
9b9cb%40sessionmgr103&hid=103
Marquis, B.L., & Huston, C.J. (2009). Leadership, Roles
and Management functions in Nursing: Thery
and application(6thed). China: WoltersKluner
Health.
Thai International Health Care Standard Training
Center. (2013). การให้ความรู้ผู้ป่วยและญาติ.
สืบค้นจาก https://hacc.kku.ac.th/haccupload