ผลของโปรแกรมการสร้างเสริมสมรรถนะแห่งตนต่อการส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยกึ่งทดลองแบบกลุ่มเดียววัดซ้ำครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของโปรแกรมการสร้างเสริม สมรรถนะแห่งตนต่อการส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย กลุ่มตัวอย่างเป็นมารดาที่มีบุตรอายุ 1 ปี 6 เดือน และ บุตรที่ได้รับการวินิจฉัยว่าสงสัยพัฒนาการล่าช้าจากการตรวจคัดกรองพัฒนาการด้วยคู่มือเฝ้าระวังและ ส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย(DSPM)ในคลินิกสุขภาพเด็กดี เลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเฉพาะเจาะจง เป็นมารดา 30 ราย และเด็กอายุ 1 ปี 6 เดือน 30 ราย ใช้โปรแกรมที่สร้างจากแนวคิดการสร้างเสริมสมรรถนะ แห่งตนของแบนดูราในการทดลองจำนวน 8 สัปดาห์ เครื่องมือที่ใช้ได้แก่ แบบประเมินสมรรถนะของมารดา ในการส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย มีค่าดัชนีความตรงเชิงเนื้อหาเท่ากับ 0.94 และมีค่าความเที่ยงโดยวิธี หาสัมประสิทธิแอลฟาครอนบาค เท่ากับ 0.98 ใช้สถิติ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและวิเคราะห์ ความแปรปรวนแบบวัดซ้ำ (Repeated measures ANOVA) ในการวิเคราะห์ข้อมูลและทดสอบสมมติฐาน ผลการวิจัย พบว่า กลุ่มตัวอย่างที่ได้รับโปรแกรมสร้างเสริมสมรรถนะแห่งตนมีค่าเฉลี่ยคะแนน สมรรถนะการส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัยในสัปดาห์ที่ 4 และสัปดาห์ที่ 8 สูงกว่าก่อนทดลองอย่างมี นัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 และมีค่าเฉลี่ยคะแนนทดสอบพัฒนาการเด็กปฐมวัยในสัปดาห์ที่ 4 และ สัปดาห์ที่ 8 สูงกว่าก่อนทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01
Article Details
เอกสารอ้างอิง
พัฒนาการเด็กปฐมวัย(DSPM). สมุทรปราการ:
ทีเอสอินเตอร์พรินท์.
กาญจนา คูณรังสีสมบูรณ์. (2555). คุณภาพชีวิตของ
ผู้ปกครองเด็กพัฒนาการช้า. สืบค้นเมื่อ 25
เมษายน 2558, จาก http://thailand. digitaljournals.
org/index.php/BSPH/article/ download/19097.
นิรมัย คุ้มรักษา, พรพิมล ธีรนันท์, ศุภรพรรณ ศรีหิรัญ
รัศมี, บุศรา คูหพันธ์ และเอกชัย เกิดสวัสดิ์.
(2557). สภาวการณ์ส่งเสริมพัฒนาการเด็ก.
วารสารสุขภาพจิตแห่งประเทศไทย, 22(2), 76-83.
ภาริดา ตันตระกูล ทัศนี ประสบกิตติคุณ และพรรณรัตน์
แสงเพิ่ม. (2556). ผลของโปรแกรมส่งเสริม
การรับรู้สมรรถนะตนเองต่อการรับรู้สมรรถนะ
ตนเองของมารดาครรภ์แรกในการดูแลทารกเกิด
ก่อนกำหนด. วารสารเกื้อการุณย์, 20(1), 42-54.
โรงพยาบาลท่าปลา. (2558). รายงานการเฝ้าระวัง
สุขภาพแม่และเด็กประจำปี 2557. อุตรดิตถ์:
กลุ่มงานเวชศาตร์ครอบครัวและบริการปฐมภูมิ
โรงพยาบาลท่าปลา.
วรงรอง นิลเพ็ชร์. (2554). ผลของโปรแกรมการพัฒนา
สมรรถนะแห่งตนของผู้ดูแลเด็กต่อพฤติกรรม
การส่งเสริมสุขภาพเด็กวัยหัดเดินในศูนย์พัฒนา
เด็กเล็ก (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต).
มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, สงขลา.
วีระชัย สิทธิปิยะสกุล, บุญเติม ตันสุรัตน์ และโกษา
สุดหอม. (บรรณาธิการ.). (2558). HAPPY BABY
HEALTH MOM. ใน การประชุมวิชาการ
อนามัยแม่และเด็กระดับเขตสุขภาพที่ 2
ประจำปีงบประมาณ 2558 (หน้า 34-38).
นนทบุรี: ชุมนุมสหกรณก์ ารเกษตรแหง่ ประเทศไทย.
สกาวรัตน์ เทพรักษ์, ภภัสสร มุกดาเกษม, จรรยา สืบนุช,
และจารุณี จตุรพรเพิ่ม. (2557). การศึกษาปัจจัย
ด้านการเลี้ยงดูของผู้ปกครองและการมีส่วนร่วม
ของชุมชนต่อการส่งเสริมการเจริญเติบโต
และพัฒนาการเด็กปฐมวัยในเขตสาธารณสุข
ที่ 4 และ 5. สืบค้นเมื่อ 26 มกราคม 2558, จาก
http://hpc5.anamai.moph.go.th/rcenter//_fulltext.
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุตรดิตถ์. (2557). รายงาน
อนามัยแม่และเด็ก. อุตรดิตถ์: กลุ่มงานส่งเสริม
สุขภาพ.
สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์กระทรวงสาธารณสุข.
(2557). ยุทธศาสตร์ ตัวชี้วัด และแนวทางการ
จัดเก็บข้อมูลกระทรวงสาธารณสุขปีงบประมาณ
พ.ศ. 2558. นนทบุรี: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การ
เกษตรแห่งประเทศไทย.
ไสววรรณ ไผ่ประเสริฐ. (2557). การเฝ้าระวัง คัดกรอง
ส่งเสริมพัฒนาการโดยใช้เครื่องมือ DSPM
และDAIM. สืบค้นเมื่อ 10 มีนาคม2559, จาก
https://kpo.go.th/webkpo/news_file/ 0006220
150529150355.pdf
องค์การยูนิเซฟประเทศไทย. (2558). ยูนิเซฟจุดประกาย
สังคมเปิดตัวโครงการ”Best Start” ดึง 6 ศิลปิน
ชื่อดังชวนคนไทยเปลี่ยนอนาคตเด็กหนุนรัฐฯ
แก้ปัญหาพัฒนาเด็กเล็ก. สืบค้นเมื่อ 22 สิงหาคม
2558, จาก http://www.unicef.org/thailand/tha/
media _23538.html.
Bandura, A. (1997). Self-efficacy The Exercise of
Control. New York: W.H. Freeman and Company.
Walker, S. P., Wachs, T. D., McGregor, S. G., Black,
M. M., Nelson, C. A., Huffman, S. L., & Richter,
L. (2011). Inequality in early childhood: risk
and protective factors for early child
development. Elsevier, 378 (9799), 1325- 1338