การสอบสวนกรณีผู้เสียชีวิต 2 ราย ในที่อับอากาศ จากการขุดลอกบ่อบาดาลปลอกคอนกรีตแห่งหนึ่ง อำเภอบางขัน จังหวัดนครศรีธรรมราช ในเดือนมีนาคม 2563
DOI:
https://doi.org/10.14456/dcj.2021.34คำสำคัญ:
การสอบสวน, ที่อับอากาศ, เสียชีวิต, บ่อน้ำบาดาล, ภาวะขาดออกซิเจนบทคัดย่อ
ความเป็นมา: ทีมตระหนักรู้สถานการณ์ (Situation Awareness Team : SAT) กรมควบคุมโรค
ได้รับแจ้งจาก สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 11 นครศรีธรรมราช ว่า พบผู้เสียชีวิตในบ่อน้ำ 2 ราย หลังจากลงไปขุดลอกบ่อน้ำในอำเภอบางขัน จังหวัดนครศรีธรรมราช กองโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม ร่วมกับสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 11 นครศรีธรรมราช และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช
ได้ดำเนินการสอบสวนในพื้นที่ เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2563 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อยืนยันการวินิจฉัย
อธิบายลักษณะการเกิดเหตุการณ์ สำรวจสภาพแวดล้อมที่อาจก่อให้เกิดอันตราย และเสนอมาตรการป้องกัน
การบาดเจ็บและเสียชีวิต วิธีการศึกษา: ศึกษาระบาดวิทยาเชิงพรรณนา โดยทบทวนเวชระเบียน และข้อมูลชันสูตรพลิกศพในเหตุการณ์ดังกล่าวจากโรงพยาบาลที่รับการรักษา สัมภาษณ์ผู้เกี่ยวข้อง และศึกษาสิ่งแวดล้อมในสถานที่เกิดเหตุ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ จำนวน ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และการตรวจวัดปริมาตรก๊าซออกซิเจน และก๊าซพิษต่างๆ ในสิ่งแวดล้อมวิเคราะห์เป็นร้อยละโดยปริมาตร (% by volume) และค่าหนึ่งส่วนในล้านส่วน (ppm) ตามลำดับ ผลการสอบสวน: จากการสอบสวนพบผู้สัมผัส ทั้งหมด 5 ราย เสียชีวิต จำนวน 2 ราย อัตราป่วย (Attack rate) ร้อยละ 40 จำแนกเป็นผู้ประเหตุ 1 ราย โดยได้รับการวินิจฉัยเสียชีวิตจากการขาดอากาศ และผู้ช่วยเหลือ 1 ราย ได้รับการวินิจฉัยเสียชีวิตจากการจากจมน้ำ นอกจากนี้พบผู้สัมผัส 3 ราย ซึ่งลงไปช่วยเหลือมีอาการปกติ ผลการตรวจวัดก๊าซออกซิเจนและก๊าซพิษในบ่อดังกล่างหลังเกิดเหตุ 5 วัน พบระดับก๊าซออกซิเจนต่ำกว่าค่ามาตรฐาน และไม่พบก๊าซพิษอื่นๆ สรุปและวิจารณ์ผล: การเสียชีวิตของผู้ป่วยสงสัยเกิดจากการขาดก๊าซออกซิเจน ขณะที่ลงไปในบ่อเกิดเหตุ เนื่องจากขาดอุปกรณ์ในการสำหรับป้องกันตนเองและการเข้าช่วยเหลือที่ล่าช้า ดังนั้นมาตรการควรเน้นย้ำเรื่องการประเมินความเสี่ยงก่อนการลงปฏิบัติงานในที่อับอากาศ การให้ความรู้ และการเตรียมอุปกรณ์ในการป้องกันตนเองและสำหรับผู้ช่วยเหลือ
Downloads
เอกสารอ้างอิง
Ministry of Labour. Ministerial regulations prescribing standards for the management and operation of safety occupational health and working environment related to confined spaces, 2019 [Internet]. [cited 2020 Sep 9]. Available from: http://122.155.89.37/index.php?option=com_content&view=article&id=1930%3A-m-m-s&catid=1%3Anews-thai&Itemid=201 (in Thai)
Siripanich S. Injury and death from work in confined spaces during the year 2003-2018 Nonthaburi: Bureau of Epidemiology, Department of Disease Control; 2019. (in Thai)
Division of Occupational and Environmental Diseases, Department of Disease Control Event-based January - May 2020. Nonthaburi: Bureau of Occupational and Environmental Diseases, Department of Disease Control; 2019 (in Thai)
The National Institute for Occupational Safety and Health (NIOSH). Criteria for a recommended standard: working in confined spaces. December 1979 [Internet]. [cited 2020 May 10]. Available from: https://www.cdc.gov/niosh/docs /80-106/default.html
The National Institute for Occupational Safety and Health (NIOSH). Fatality Assessment and Control Evaluation (FACE) program: Confined Space [Internet]. [cited 2020 May 10]. Available from: https:// https://wwwn.cdc.gov/NIOSH-FACE/Default.cshtml?Category=0004&Category2=ALL%20accessed%20January,%202017
Botti L, Duraccio V, Gnoni MG, Mora C. An integrated holistic approach to health and safety in confined spaces. J Loss Prev Process Ind. 2018;55:25–35.
The National Institute for Occupational Safety and Health (NIOSH). Request for assistance in preventing occupational fatalities in confined spaces. June 2014 [Internet]. [cited 2020 Sep 9]. Available from: https://www.cdc.gov/niosh/docs/86-110/
Keadthongthawee S, Hungmitr C, Chaiyanuwatiwong S, Panta C. The study check quantity of oxygen compared with depth in confined space (ground water well) in Region Health 3. Journal of Disease and Health Risk DPC.3. 2018;13(1):17-24.
Milroy M. Deaths from environmental hypoxia and raised carbon dioxide. Acad Forensic Pathol. 2018;8(1):2‐7.
Selman J, Spickett J, Jansz J, Mullins B. Work-related traumatic fatal injuries involving confined spaces in Australia, 2000–2012. J Health Saf Environ. 2017;33:197–215.
Wilson MP, Madison HN, Healy SB. Confined space emergency response: assessing employer and fire department practices. J Occup Environ Hyg. 2012;9(2):120-8.
Issa SF, Cheng YH, Field WE. Summary of agricultural confined-space related cases: 1964–2013. J Agric Saf Health. 2016;22(1):33-45.
Riedel SM, Field WE. Summation of the frequency, severity, and primary causative factors associated with injuries and fatalities involving confined spaces in agriculture. J Agric Saf Health. 2013;19(2):83-100.
Selman J, Spickett J, Jansz J, Mullins B. An investigation into the rate and mechanism of incident of work-related confined space fatalities. Saf Sci. 2018;109:333–43.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ลงพิมพ์ในวารสารควบคุมโรค ถือว่าเป็นผลงานทางวิชาการหรือการวิจัย และวิเคราะห์ตลอดจนเป็นความเห็นส่วนตัวของผู้เขียน ไม่ใช่ความเห็นของกรมควบคุมโรค ประเทศไทย หรือกองบรรณาธิการแต่ประการใด ผู้เขียนจำต้องรับผิดชอบต่อบทความของตน
