ปัจจัยคาดการณ์ที่สัมพันธ์กับการระบาดเป็นกลุ่มก้อนของผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ ในช่วงเวลาไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล พ.ศ. 2555-2557 ในประเทศไทย
DOI:
https://doi.org/10.14456/dcj.2014.5คำสำคัญ:
การเฝ้าระวังไวรัส, กลุ่มผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่, ปัจจัยทำนายการระบาด, ประเทศไทยบทคัดย่อ
การเฝ้าระวังที่มีประสิทธิภาพ ทันต่อเหตุการณ์ เพื่อการเตือนภัยและคาดการณ์การเกิดกลุ่มก้อนผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ เป็นประเด็นที่ท้าทายของระบบสาธารณสุขทั้งระดับประเทศและทั่วโลก การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อหาปัจจัยทำนายที่สัมพันธ์กับการเกิดการระบาด และตรวจจับการเกิดกลุ่มก้อนของโรคไข้หวัดใหญ่ โดยรวบรวมข้อมูลระหว่างปี พ.ศ. 2555-2557 จากระบบข้อมูลการเฝ้าระวังโรคทางระบาดวิทยา และการเฝ้าระวังเหตุการณ์ข้อมูลผู้ป่วย ILI ในแผนกผู้ป่วยนอกของเครือข่ายเฝ้าระวังทั่วประเทศ และการเฝ้าระวังไวรัสไข้หวัดใหญ่ทางห้องปฏิบัติการ จากการศึกษาพบว่า มีโรคไข้หวัดใหญ่และกลุ่มก้อนๆ หนาแน่น 2 ระยะ คือ มกราคม-กุมภาพันธ์ และมิถุนายน-กันยายน ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงบ้างเล็กน้อย จากการวิเคราะห์ regression พบว่า ระดับค่า ILI level มากกว่าร้อยละ 5.00 และสัดส่วนการตรวจพบไวรัสไข้หวัดใหญ่ มากกว่าร้อยละ 15.00 มีความสัมพันธ์กับความถี่การเกิดกลุ่มก้อนฯ โดยตรงและเป็นอิสระต่อกัน ในระยะเริ่มการระบาด พบว่า ทั้งสองค่านี้มีผลปฏิสัมพันธ์ (interaction) กัน จำนวนการเกิดกลุ่มก้อนๆ เพิ่มกว่า 2 เท่า เมื่อระดับ ILI เพิ่มจากร้อยละ 4.00 ไปสู่ร้อยละ 7.00 และระดับการตรวจพบไวรัสเพิ่มขึ้นสู่ระดับร้อยละ 15.00-30.00 ค่า inter-quartile differences ของ ILI จะแคบลง เมื่อการระบาดเพิ่มขึ้น ค่า ILI ที่ระดับร้อยละ 5.00 และการตรวจพบไวรัสมากกว่าร้อยละ 15.00 เป็นระดับคาดการณ์การระบาดและโอกาสการเกิดกลุ่มก้อนโรคไข้หวัดใหญ่ การใช้ทั้งสองค่าร่วมกันจะทำให้การคาดการณ์มีความไวและความแม่นยำสูง
Downloads
เอกสารอ้างอิง
2. Simmerman JM, Chittaganpitch M, Levy J, Chantra S. Maloney S. Incidence, seasonality and mortality associated with influenza pneumonia in Thailand: 2005-2008. PLoS ONE 4(11): e7776. doi: 10.1371/journal.pone.0007776.
3. World Health Organization. WHO interim global epidemiological surveillance standards for influenza 2012 [Internet], [cited 2013 Feb 10]. Available from: http://www.who.int/influenza/resources/documents/INFSURVMANUAL.pdf
4. Jongcherdchootrakul K, Sukkhawee R, Khaopravej K, Silaporn P, Jiamsiri S, Wattanarangsan R, et al. First school outbreak of novel influenza A (H1N1) infection in Thailand, June-August 2009. Weekly Epidemiological Surveillance Report-Thailand (WESR) 2009;41:49-56.
5. Iamsirithaworn S, Akarasewi P, Yingyong T, Suthachana S, Pittayawonganon C, Ungchusak K. Three waves of the 2009 H1N1 influenza pandemic in Thailand. Siriraj Med J 2011;63:64-7.
6. Suchada J, MacKenzie A, Waller M, Brundage JF. Outbreak of Influenza A (H1N1) Pandemic in Night-Pub, Pattaya, Chonburi Province, June 2009. Weekly Epidemiological Surveillance Report-Thailand (WESR) 2009;40:601-6.
7. Thailand, Bureau of Epidemiology, Department of Disease Control. Influenza likei llness (ILI) surveillance system [Internet], [cited 2013 Feb 10]. Available from: http://164.115.5.58/ili
8. Makaroon J, Pittayawonganon C, Gross DK, McMorrow M. An evaluation of influenza-like illness (ILI) epidemic thresholds in two provinces of Thailand, 2007-2010. OSIR [Internet]. 2013 [cited 2014 Aug 16];6:13-8. Available from: http://www.osirjournal.net/issue.php?id=36
9. ศูนย์ไข้หวัดใหญ่ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์. การเฝ้าระวังไวรัสไข้หวัดใหญ่เครือข่ายทางห้องปฏิบัติการ [อินเทอร์เน็ต]. [สืบค้นเมื่อ 5 พ.ค. 2557]. แหล่งข้อมูล: http://www.thainihnic.org/influenza/main.php
10. วันชัย อาจเขียน, เฉวตสรร นามวาท, โสภณ เอี่ยมศิริถาวร, นิภาพรรณ สฤษดิ์อภิรักษ์, ชุลีพร จิระพงษา, พจมาน ศิริอารยาภรณ์, และคณะ. คู่มือเฝ้าระวังเหตุการณ์และควบคุมโรคระบาดในชุมชน. พิมพ์ครั้งที่ 4 กรุงเทพมหานคร: องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก; 2555.
11. วันชัย อาจเขียน,โสภณ เอี่ยมศิริถาวร, นิภาพรรณ สฤษดิ์อภิรักษ์. การจัดตั้งระบบเฝ้าระวังเหตุการณ์ในประเทศไทย พ.ศ. 2554-2556. วารสารควบคุมโรค 2557;40:222-32.
12. R Core Team. R: a language and environment for statistical computing [Internet]. Vienna: R Foundation for Statistical Computing; 2014 [cited 2014 Oct 10]. Available from: http://www.R-project.org/
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ลงพิมพ์ในวารสารควบคุมโรค ถือว่าเป็นผลงานทางวิชาการหรือการวิจัย และวิเคราะห์ตลอดจนเป็นความเห็นส่วนตัวของผู้เขียน ไม่ใช่ความเห็นของกรมควบคุมโรค ประเทศไทย หรือกองบรรณาธิการแต่ประการใด ผู้เขียนจำต้องรับผิดชอบต่อบทความของตน


